บุกยึดทรัพย์เอเย่นค้ายาบ้ากว่า200ล้าน
ตำรวจปราบปรามยาเสพติด บุกเข้ายึดทรัพย์เอเย่นค้ายาบ้ารายใหญ่กว่า 200 ล้านบาท
(31ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จับกุมนายสายัณห์ จีนสำราญ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 5 แสนเม็ด ภายในซอยเจริญกรุง 91 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมาต่อมาเจ้าหน้าที่บช.ปส.ขยายผลขอหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับนายองอาจ เนียมนุกุล ซึ่งเป็นหัวหน้าเครือข่าย และนายสกนร์ หรือบังเลาะ ชาญชัยศิลป์ หลานชายนายองอาจ ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎ หมาย
กระทั่งเช้าวันนี้ (31ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจบช.ปส.นำโดย พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รองผบช.บช.ปส และพล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผกบ.บช.ปส.2 นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 4 คูหา เลขที่ 91/49/50/58/61 และ99/2 ซอยเจริญ 91 เพื่อตรวจยึดอายัดทรัพย์สินของนายองอาจและนายสกนร์ โดยมีนางราณี ฤทธิ์เล็ก ภรรยานายองอาจเป็นผู้นำตรวจค้น
จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ยึดอายัดทรัพย์สินเป็นรถแท็กซี่สีเหลืองของสหกรณ์เท็กซี่ ธนาสยาม ซึ่งเป็นของนายองอาจ 22 คัน มูลค่า 22 ล้านบาท รถยนต์มินิคูเปอร์ปรับแต่ง 1 คันมูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท รถยนต์เบ็นซ์ ซี 230 จำนวน 1 คัน รถโตโยต้าวีโก้ 2 คัน เจ็ดสกี 3 ลำ อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 4 คูหา และทรัพย์สินอื่นๆจำพวกข้าวของเครื่องใช้ เพชร ทองรูปพรรณ พระเครื่อง รวมทรัพย์สินที่ยึดได้มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท
พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากการจับกุมนายสายัญ ทราบว่านายองอาจเป็นหัวหน้าเครือข่าย ถือว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ที่สุดในย่านวัดพระยาไกร เทียบเท่ากับเครือข่ายยาบ้าของภาพ 70 ไร่ในเขตคลองเตย ขณะนี้ศาลอนุมัติออกหมายจับนายองอาจเรียบร้อยแล้ว แต่นายองอาจอยู่ระหว่างหลบหนีตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาแล้ว เจ้าหน้าที่เชื่อว่าทรัพย์สินทุกอย่างที่นายองอาจมีเป็นการฟอกทรัพย์จากการค้ายาเสพติด จึงยึดอายัดไปตรวจสอบ มีมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท
จากนี้ตำรวจเชื่อว่านายองอาจได้ทำธุรกิจสหกรณ์แท็กซี่เป็นธุรกิจบังหน้าค้ายาเสพติด และเป็นแหล่งฟอกเงินมากว่า 7 ปีแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ บช.ปส.ได้เฝ้าดูพฤติกรรมามาอย่างยาวนาน โดยภายในซอยเจริญกรุง91 เป็นญาติของนายองอาจเกือบทั้งซอย ทำให้เจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไปลำบาก
พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวอีกว่า จากการเฝ้าดูพฤติการณ์และกิจการรถแท็กซี่ของนายองอาจมีพฤติกรรมนำรถแท็กซี่ไปส่งยาบ้าจุดต่าง ๆที่ลูกค้านัดหมาย เพื่อเป็นการตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ยากในการตรวจจับ และเชื่อว่าเครือข่ายของนายองอาจยังมีอยู่อีกมาก เจ้าหน้าที่จะได้ขายผลติดตามจับกุมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในชุมชนวัดพระยาไกรรู้ดีว่านายองอาจเป็นขาใหญ่ในย่านนั้น และเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยที่ผ่านมามีลักษณะร่ำรวยผิดปกติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เปิดเป็นร้านซ่อนรถเล็กๆมีเท็กซี่ไม่กี่คัน และเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น เกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้ว และขณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์อยู่นั้นได้มีชาวบ้านภายในซอยประมาณ 100 คน มามุงดูและจับกลุ่มวิพากวิจารณ์ต่างๆนาน