จบดราม่าผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก เจ้าหน้าที่สั่งรื้อสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดแล้ว

จบดราม่าผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก เจ้าหน้าที่สั่งรื้อสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดแล้ว

จบดราม่าผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก เจ้าหน้าที่สั่งรื้อสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่ดำเนินการสั่งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างบริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิกแล้ว หลังโซเชียลติงเต็นท์บังวิวธรรมชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (9 ก.ค.) พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่า จากกรณีมีการร้องเรียนผ่านโซเชียล ว่ามีการสร้างบ้านพักและ เต็นท์ถาวรบดบังทัศนียภาพบริเวณผาหัวสิงห์ บนภูทับเบิก ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ พบว่ามีสิ่งปลูกสร้างใหม่ และมีการสร้างเต็นท์ถาวร อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ และอบต.บ้านเนิน พบ นายเงี่ยป๋อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินเดิมก่อนที่จะแบ่งมอบที่ดินให้กับบุตร เจ้าหน้าที่จึงให้นำชี้แนวเขตที่ทำกินเดิม พบผู้ครอบครองใหม่ได้มีการรุกที่ดินเพิ่มจากแนวทำกินเดิม

จึงดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พร้อมทั้งสั่ง ห้ามก่อสร้างอาคาร และห้ามใช้อาคาร ในพื้นที่ดังกล่าว และขอให้ดำเนินการรื้อถอนอาคาร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค.2559 ซึ่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถ ยึดรื้อถอน ทำลาย ได้

และผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ 4 สาขาพิษณุโลก ดำเนินการติดประกาศให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ในบริเวณดังกล่าวอย่างเฉียบขาด เพื่อป้องกัน และควบคุมมิให้มีการกระทำผิดกฎหมายในลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถไปเที่ยวชมบรรยากาศ ถ่ายรูป กางเต็นท์ได้ตามปกติ แต่ห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าหน้าที่ติดป้ายไว้โดยเด็ดขาด

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดประกาศคำสั่งดังกล่าวที่อาคารสิ่งปลูกสร้าง ทั้ง 3 ราย ได้แก่

  1. นายกัวเน้ง ครอบครองพื้นที่ จำนวน 3-2-12 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้รับแบ่งมอบจากบิดา จากการตรวจสอบถึงแม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แต่ได้ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากที่บิดาทำกินเดิม จึงผิดเงื่อนไข ตามมติ ครม.30 มิ.ย.41 ซึ่งถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ซึ่งทางคณะเจ้าหน้าที่จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ฐาน "ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ มาตรา 55 ฐาน "ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น” จึงร่วมกันตรวจยึดพื้นที่พร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านคอนกรีต 2 ชั้น 1 หลัง, เต็นท์กระโจม 7 หลัง, ห้องน้ำห้องสุขา 4 หลัง และปรับพื้นที่เป็นลานกางเต็นท์
  2. นายวีระพจน์ ครอบครองพื้นที่ประมาณ 19 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้รับแบ่งมอบจากพ่อตา มีสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านกระโจม 4 หลัง, อาคารสำนักงาน 1 หลังห้องน้ำห้องสุขา 4 หลัง และปรับพื้นที่เป็นลานกางเต็นท์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
  3. ราษฎรบ้านวังบาลไม่ทราบชื่อ ครอบครองพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ไม่พบเจ้าของ สร้างบ้านกระโจม 1 หลัง, ห้องน้ำ-ห้องสุขา 2 หลัง และลานกางเต็นท์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม

โดยทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่ ขอให้ดำเนินการรื้อถอนอาคาร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค.2559 ซึ่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถ ยึดรื้อถอน ทำลาย ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะขอให้ทางฝ่ายเจ้าของ หรือ ผู้ประกอบการ ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเอง เพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่าย โดยจะมีห้วงระยะเวลากำหนดเอาไว้ หากทางเจ้าของ ยังคงดื้อแพ่ง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook