พนง.เอสซีฯ ปัดตัดต่อเอง เผยได้ซีดีคลิปเสียงนายกฯจากเพื่อน อ้างรับแจกขณะขึ้นรถตู้ท่ารถ ปากเกร็ด
กองปราบฯรวบ 2 พนง.เอสซีฯแพร่คลิปนายกฯ เจ้าตัวอ้างเพื่อนให้บอกได้มาตอนขึ้นรถตู้ จากนั้นฝากเพื่อนแปลงไฟล์แล้วส่งเมลต่อ "เทพเทือก"ปัดรังแกตระกูล"ชินวัตร" ด้านไอซีทีเร่งหาต้นตอ"ไอพี" พท.แถลงขู่ยุบปชป.กลับ
จับ 2 พนง.เอสซีฯเผยแพร่คลิป
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่และตัดต่อคลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงในเว็บไซต์นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 30 สิงหาคม ชุดสืบสวนกองปราบปราม จับกุมผู้ที่เผยแพร่คลิปผ่านทางอี-เมล 2 คน ทราบชื่อ นายสมศักดิ์ แซ่อึง อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2511/2552 ลง 30 สิงหาคม 2552 ข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ได้ที่บ้านเลขที่ 181/8 ซอยประสานสารบรรณ แขวงและเขตดินแดง กทม. และจับกุม น.ส.กันทิมา แต้มครู อายุ 29 ปี ชาว จ.สุโขทัย ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2512/2552 ลง 30 สิงหาคม 2552 ในข้อหาเดียวกัน ได้ที่ห้องเลขที่ 10/1 ปิ่นมาลีอพาร์ทเม้นท์ ห้อง 307 แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยคุมทั้ง 2 คน มาสอบปากคำที่กองบังคับการ กองปราบปราม (บก.ป.)
ต่อมา พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เข้าร่วมสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ทั้งสองเป็นพนักงาน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดีรังสิต ส่วนรายละเอียดในคดีขอให้การในชั้นศาล ก่อนใช้เงินสดคนละ 100,000 บาท ยื่นประกันตัว โดยพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวออกไป
รายงานข่าวแจ้งว่า การจับกุมครั้งนี้ พล.ต.ท.ไถงมีคำสั่งห้ามตำรวจให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน อ้างว่าปรึกษากับผู้ใหญ่แล้ว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดต่อคลิปเสียง เป็นเพียงผู้ส่งไฟล์คลิปเสียงผ่านทางอี-เมลของบริษัทเอสซี แอสเสทฯ โดยที่มาของคลิปเสียงนั้นพบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นผู้ได้รับแจกแผ่นซีดีมาอีกทอดหนึ่ง ก่อนนำไปไฟล์ไปแปลงเพื่อให้ส่งผ่านอี-เมลบริษัทได้ อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลว่าผู้ต้องหาได้แผ่นซีดีมาจากใคร และกำลังขยายผลเข้าตรวจค้นบริษัทเอสซี แอสเสทฯ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
อ้างเพื่อนหญิงนำแผ่นซีดีแจกมาให้
แหล่งข่าวชุดจับกุมเปิดเผยว่า เบื้องต้น น.ส.กันทิมา ระบุทำงานในแผนกธุรกิจสัมพันธ์ของบริษัท ได้รับคลิปเสียงดังกล่าวเป็นแผ่นซีดีมาจากเพื่อนร่วมบริษัทคนหนึ่งเป็นผู้หญิง ที่ได้รับแจกจ่ายมาระหว่างขึ้นรถตู้โดยสารสาธารณะที่ท่ารถ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อมาถึงที่ทำงานก็นำมาให้ตนลองเปิดฟัง จึงคิดว่าจะส่งไปให้เพื่อนทางอี-เมล แต่ทำไม่เป็นจึงวานให้นายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานแผนกเดียวกันแปลงไฟล์ให้ ก่อนส่งไฟล์เสียงดังกล่าวมาให้ตนทางอี-เมล ตนจึงส่งต่อไปยังเพื่อนๆ ก่อนแพร่กระจายไปในระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนซีดีที่ได้มานั้นหลังจากแปลงไฟล์เรียบร้อย ตนหักทำลายทิ้งทันที
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายสมศักดิ์นำคลิปเสียงเข้าไปสู่ระบบคอมพิวเตอร์เป็นคนแรก และส่งต่อให้กับ น.ส.กันทิมา เพียงคนเดียว ใช้ชื่อไฟล์ว่า คลิป ฟอร์ ยู และไม่ได้ส่งต่อให้กับใครอีกตามที่ น.ส.กันทิมา ให้การ ซึ่งการนำเสียงดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นถือเป็นความผิดทันทีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจากนั้น น.ส.กันทิมาส่งต่อไปยังเพื่อนๆ รวม 6 คน ก่อนที่คลิปจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่ง น.ส.กันทิมา ถือว่ามีความผิดด้วยเพราะเป็นผู้กระจายคลิปออกไป ส่วนผู้ที่ส่งคลิปต่อไปอีกจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่นั้นกำลังสอบสวน และอาจจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง
ตร.บุกค้นที่ทำงานยึดคอมพ์ตรวจ
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า การสืบสวนให้ถึงตัวผู้ตัดต่อคลิปแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ในส่วนของแผ่นซีดีที่ น.ส.กันทิมา อ้างว่าได้มาจากการแจกจ่ายคล้ายใบปลิว อาจต้องตามหาทางด้านเทคนิค ขณะเดียวกันจะต้องนำเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาตรวจสอบทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย และส่วนที่ 2 การสืบสวนตามที่นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ระบุว่าได้คลิปเสียงมาจากเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์พีทีวีที่มีคนนำไปโพสท์ไว้ ก่อนนำไปเปิดกระจายเสียงที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร ส่วนนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า นายขวัญชัยนำคลิปเสียงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่ เพราะหากไม่ได้นำเข้าสู่ระบบก็ไม่สามารถดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้ แต่นายกรัฐมนตรีสามารถร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในความผิดฐานหมิ่นประมาท หากคิดว่าเสียหาย
เวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน สั่งการให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี (ศตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นโต๊ะทำงานของนายสมศักดิ์ และ น.ส.กันทิมา ที่แผนกธุรกิจสัมพันธ์ ชั้น 19-20 อาคารชินวัตร 3 เลขที่ 1010 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงและเขตจตุจักร โดยเจ้าหน้าที่ ศตท.นำอุปกรณ์โคลนนิ่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานผู้ต้องหามา รวมทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของพยานบางคนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ต้องหามาตรวจสอบอย่างละเอียด
ไอซีทีเร่งตรวจสอบ"ไอพี"หาต้นตอ
ด้าน ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ไอซีทีอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีเว็บไซต์ใดที่โพสต์คลิปเสียงดังกล่าวหรือไม่ ทั้งที่อยู่ในและต่างประเทศ ถ้าพบจะบล็อกทันที ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายด้าน ทั้งจากต่างประเทศและหน่วยงานใต้สังกัดอย่างบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
"แม้ขณะนี้ตำรวจจะจับกุมผู้เผยแพร่แล้ว แต่ไอซีทียังต้องตรวจสอบหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือไอพี ที่ใช้โพสต์ส่งคลิปเสียงไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ว่ามีการส่งไปที่ไหนบ้าง ส่วนการโพสต์คลิปเสียงในเว็บไซต์ต่างๆ ขณะนี้ไอซีทีสามารถบล็อกเว็บไซต์ และยูอาร์แอล หรือชื่อที่อยู่คลิปเสียงดังกล่าวได้ครอบคลุมหมดแล้ว ซึ่งเว็บไซต์ล่าสุดที่เผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าว ไอซีทีใช้เวลาหลังเผยแพร่คลิปเสียงเพียง 15 นาที สามารถบล็อกได้" ร.ต.หญิง ระนองรักษ์กล่าว
"สุเทพ"ปัดรังแกคนตระกูลชินฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงการจับกุม 2 พนักงานบริษัทเอสซีฯ ว่า พล.ต.ท.ไถงจะต้องจัดการให้เจ้าหน้าที่ดูแลดำเนินคดีกับคนเหล่านั้นต่อไป เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่ารัฐบาลจะใช้โอกาสนี้เล่นงานคนในตระกูลชินวัตร เพราะบริษัทเอสซีฯเป็นของคนตระกูลชินวัตร นายสุเทพกล่าวว่า "ไม่มี รัฐบาลไม่แกล้งใครหรอกครับ ว่าไปตามข้อมูลหลักฐาน"
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก ศอ.รส. กล่าวในการประชุมศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ว่า ไม่มีการประชุมถึงคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี ซึ่งทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้ระบุว่ากองทัพไม่คิดทำแบบนั้น
พท.แถลงการณ์ขู่ยุบปชป.กลับ
เวลา 16.30 น. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้า พท. อ่านแถลงการณ์พรรคว่า ที่ผู้บริหาร ปชป.ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกรณีการเผยแพร่คลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ ว่าพรรคอาจมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ขอชี้แจงต่อประชาชนดังนี้ 1.พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ปชป.ไม่ควรกล่าวหาหรือใส่ร้ายป้ายสี พท. เพราะอาจเข้าข่ายการใส่ร้ายป้ายสี อันอาจส่งผลต่อการยุบ ปชป.ได้ 2.การให้ข่าวว่าจะฟ้องร้องให้ยุบ พท.นั้น ขอชี้แจงว่ามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้อย่างชัดเจน ขออย่าได้ใช้กระแสข่าวในเรื่องนี้ทำให้ประชาชนหลงประเด็น และการที่ ปชป.พูดเรื่องยุบพรรคในกรณีนี้ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อ พท.ได้ ซึ่งพรรคกำลังจะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
3.สำหรับกรณีมีเจ้าหน้าที่ของพรรคบางคนได้รับอี-เมล หรือส่งต่ออี-เมลไปให้ไครนั้น ขอเรียนให้ทราบว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล และตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าได้มีการส่งอี-เมลนี้กันไปมาก่อนแล้วทั่วประเทศ 4.พท.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและ ปชป.ตั้งคณะกรรมการที่มีความเป็นกลาง และเอาคำพูดที่นายอภิสิทธิ์ฉบับจริงที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาสาระของคลิปทั้งหมด ก่อนการตัดต่อมาแสดงกับสาธารณชน เพื่อแสดงความจริงใจต่อประชาชน สุดท้ายนี้ พท.ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงต่อสาธารณชนว่าได้พูดเรื่องดังกล่าวจากที่ไหน มีข้อความอะไรที่ขาดหายไป หรือมีข้อความอะไรที่เพิ่มเติมออกมา เพื่อให้สาธารณชนได้ทราบความจริง
กก.ชุด"สมศักดิ์"รับสอบคลิป
เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยมีนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กรรมการ ทำหน้าที่ประธานแทนนายสมศักดิ์ บุญทอง ประธานคณะกรรมการที่ติดภารกิจต่างประเทศ โดยที่ประชุมมีมติขยายกรอบเวลาการทำงานถึงวันที่ 15 กันยายน ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ที่มี พล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหา เป็นประธาน ได้รับหลักฐานใหม่เพิ่มเติมคือคลิปเสียงของนายกฯ จึงขอให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณานำเรื่องนี้เข้าพิจารณา ปรากฏว่าหลังถกเถียงมากว่า 3 ชั่วโมง ที่สุดแล้วที่ประชุมใหญ่มีมติให้นำกรณีคลิปเสียงนายกฯมาตรวจสอบ โดยเบื้องต้นจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงบุคคล อาทิ นายกรัฐมนตรีมาให้ข้อมูลและชี้แจงต่อคณะกรรมการในสัปดาห์หน้า ว่าเป็นเสียงของนายกฯจริงหรือไม่ มีการตัดต่อจริงหรือไม่ รวมถึงที่มาและต้นตอของการเผยเพร่