แม่ไขข้อสงสัย "น้องชมพู่" คือลูกแท้ๆ ของสามีหรือไม่ แจงปม "น้องสะดิ้ง" โกหกว่าหลับ
แม่เคลียร์ข้อสงสัย “น้องชมพู่” คือลูกแท้ๆ ของสามีหรือเปล่า ยันไม่พร้อมเจอหน้า “ลุงพล” ลั่นไม่ได้ปรักปรำ หากบริสุทธิ์จริงพร้อมขอโทษ
รายการ “โหนกระแส” วันที่ 10 ก.ค. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 วันนี้ลงพื้นที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ด้วยตัวเอง เพื่อเคลียร์ข้อคาใจคดี "น้องชมพู่" กันพร้อมหน้า โดยเปิดใจสัมภาษณ์ แม่น้องชมพู่, พ่อน้องชมพู่, น้าแต โดยมี ตายายน้องชมพู่ ร่วมรายการด้วย พร้อมเคลียร์ทุประเด็นที่สังคมสงสัย
วันนี้แม่รู้ใช่มั้ยว่า ลุงพลโกรธแม่มาก มีทัวร์ลง เพราะแม่ไปสงสัยลุงพล
แม่น้องชมพู่ “แม่มองว่าแม่ก็ไม่ได้ปรักปรำลุงพลนะ ถ้าลุงพลพิสูจน์ตัวเองได้แล้ว ตอบปัญหาแม่ได้แล้ว แม่ก็พร้อมที่จะขอโทษเขา”
ทำไมวันนั้นแม่ถึงไม่เจอเขา ผมพยายามจะให้เจอกัน
แม่น้องชมพู่ “ประเด็นมันเพิ่งร้อน แม่คิดว่ายังไม่พร้อมที่เจอกัน แม่ยังไม่พร้อม ทะเลาะกันออกสื่อมันไม่ดี”
เท่าที่ผมตามข่าวมา แม่บอกว่า แม่สงสัยลุงพลมาตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมไม่พูดตั้งแต่วันแรกที่สงสัย
แม่น้องชมพู่ “นักข่าวก็มาถามแม่ตลอดว่า แม่สงสัยลุงพลหรือเปล่า สงสัยญาติแม่หรือเปล่า ถามนานแล้ว ถามแทบทุกวัน ว่าถ้าวันหนึ่ง หวยออกที่ญาติแม่ สุดท้ายแม่ก็หลุดคำนี้ออกมา หลุดว่าสงสัยลุงพล แม่ก็ต้องรับผิดชอบคำพูด แม่ก็ดูจากข่าวเหมือนกัน แม่ก็สงสัย แต่แม่ไม่ได้ปรักปรำ แม่สงสัยจากที่เขาพูดไม่เหมือนกัน ตอนที่เขาให้ปากคำแม่ไม่รู้หรอกคะ เพราะอย่างแม่กับพ่อ ก็แยกห้องกันสอบ ถ้าวันหนึ่งลุงพลพิสูจน์ตัวเองได้แล้ว แม่ก็พร้อมที่จะขอโทษคะ”
ทำไมละแม่บ้านก็อยู่ใกล้กัน แม่สงสัยแม่ไม่เดินไปหาเขาเลย
แม่น้องชมพู่ “ลุงพลเปลี่ยนไปคะ ไม่ใช่ว่าลุงพลไม่มางานศพนะ ลุงพลมาคะ แต่หลังจากลุงพลออกจากป่าช้า ลุงพลไม่มาฟังสวด มีทำบุญที่บ้าน ก็ไม่มา คือ อันนี้ลุงพลเปลี่ยนไป จากที่เคยไปมาหาสู่กัน แต่ไม่มาเลย”
ถ้าย้อนไปดูในรายการโหนกระแส ลุงพลพูดว่าไม่ได้ไปมาหาสู่ที่บ้านอยู่แล้ว
แม่น้องชมพู่ “แล้วพูดกับสื่ออื่นว่าไปตลาด หรือไปไหน ก็ไปด้วยกันบ่อยๆ ถ้าไม่สนิทกันแล้วพาน้องไปได้ยังไง แม่จะอนุญาตให้น้องไปเหรอ ลุงพลมาที่นี่บ่อยคะ แล้วอีกอย่างหนึ่งขอแก้ด้วย ที่ลุงพลบอกว่าแม่เด็กสงสัย แอ๋ม แม่ไม่ได้สงสัยนะ แม่ยังไม่ได้คุยกับลุงพลด้วยซ้ำ แม่ได้ดูรายการ โหนกระแส ลุงพลบอกว่าแม่สงสัยแอ๋ม ซึ่งแม่ก็รีบไปขอโทษเขา แม่ไม่ได้บอกให้ลุงพลไปขอโทษพ่อแม่แอ๋มด้วย”
น้าแตมีปัญหากับลุงพลใช่มั้ย
น้าแต น้าน้องชมพู่ “มีอยู่ครับ มีทะเลาะกันเรื่องด้วง ผมทำร่วมกับพี่ต่ายซึ่งทำนานแล้ว ทำมาก่อนลุงพล พอขายดีพี่ต่ายก็บอกว่าชวนพี่น้องมาทำด้วยกัน แต่ถ้ามีใครไม่พร้อมที่จะทำก็ให้เขาบอกเอง พี่ต่ายกลัวว่าจะเสียใจ ถ้าเกิดทำแล้วได้เงิน แล้วไม่ได้ชวน ก็เลยชวนพี่นุชมา ชวนน้องมา การลงทุนไม่มีอะไรมาก เรามีทุน มีของอยู่แล้ว ได้กำไรก็แบ่งกัน เรื่องที่ทะเลาะกันคือว่าเจ้าหน้าที่เขามีงบอยู่หมื่นนึง เขาจะซื้อไปแจกชาวบ้าน แล้วให้เขาไปเลี้ยง แล้วค่อยรับซื้อกัน ช่วงเย็นผู้ใหญ่บ้านมาปรึกษาว่า เจ้าหน้าที่เขาจะมาเรา จะทำอะไรเลี้ยงเขากัน ผมก็คุยกันอธิบาย เขาก็บอกว่าเราไม่ได้มีหน้าที่อะไรเลย ทำไมมีอะไรไม่ปรึกษาเขาซึ่งเป็นปราญชาวบ้าน ผมก็เลยบอกว่าเขามาขอความช่วยเหลือให้ผมไปพูด ผมก็ไปพูด มีปัญหากันตรงนี้ จนแกเสียงดังขึ้น ผมก็เลยบอกให้กลับไปก่อน จนลุงพลจะคว่ำโต๊ะ”
แล้วที่เราไปรับเงินบริจาคคืออะไร
น้าแต น้าน้องชมพู่ “วันนั้นไปรับน้องชมที่อุบลฯ ผมพี่ไปกับพี่ต่าย ก็มีคนพิมพ์เข้ามาบอกว่าจะช่วยบริจาคเงินช่วยน้อง ก็ปรึกษาะพี่ต่าย และน้องสาว ก็โทรมาหาพี่นุช แล้วให้เขาโอนเงินเข้าบัญชีพี่นุชเลยแล้วกัน ผมก็เลยไปโพสต์ว่าใครจะร่วมทำบุญ ให้โอนเข้าบัญชีแม่เขาเลย”
แต่เขาบอกว่าคุณเอาเรื่องหลานมาหากิน
น้าแต น้าน้องชมพู่ “เช็กเงินได้บัญชีผมได้เลย เงินในบัญชีไม่มีเยอะแยะ ผมยังซื้อมาม่าอะไรมาช่วยพี่เลย”
พ่อกับแม่ผมถามนิดนึง เขาบอกว่า ชมพู่ลูกแม่แต่ไม่ใช่ลูกพ่อ สะดิ้งลูกพ่อแต่ไม่ใช่ลูกแม่
แม่น้องชมพู่ “ยืนยันเลยว่าเป็นลูกแม่ ที่บอกว่าแยกห่างจากกันไม่มี แม่เอาหลักฐานให้ดู แล้วให้ตายายเป็นพยาน มีหลักฐานใบทะเบียนสมรส ไม่เคยหย่ากัน ไม่เคยแยกกัน”
ล่าสุดรายการ โหนกระแส โทรไปหาทางตำรวจ เอาดีเอ็นเอน้องชมพู่ไปตรวจ ผลออกมาชมพู่เป็นลูกของคุณสองคน
อีกประเด็น เรื่องของสะดิ้ง ข่าวว่าวันที่สะดิ้งน้องนอนหลับอยู่กับน้องชมพู่ แล้วน้องชมพู่ลุกขึ้นไปเล่น แล้วปรากฏกว่าก่อนสะดิ้งบอกว่าหนูหลับ น้องหายไปแล้วไปตามหากัน แต่มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าแม่ให้น้องสะดิ้งโกหกว่าหลับ
แม่น้องชมพู่ “แม่ไม่เคยบอกน้องสะดิ้งให้โกหกตำรวจ แม่รู้จากตำรวจว่าน้องไม่ได้นอนหลับจริงๆ จนไล่มาดูในโทรศัพท์น้อง มีการเล่นโต้ตอบจนถึงเก้าโมงสี่สิบเก้า แม่รู้มาตลอด ตำรวจรู้มาตลอด น้องอาจจะกลัวว่าพ่อแม่จะตำหนิว่าทำน้องหาย พอข่าวออกมาน้องหลับ แม่ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องว่าน้องหลับไปเลย เพราะว่าตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ แม่ก็ห่วงความปลอดภัยของลูก”
สะดิ้งบอกว่าไม่เล่าเคยเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย แล้วทำไมบูลถึงรู้เรื่องนี้
แม่น้องชมพู่ “แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน หรือว่าสะดิ้งไปเล่นกับเพื่อนแล้วหลุดหรือเปล่า”
แต่แม่ยืนยันนะว่าตำรวจรู้แล้ว
แม่น้องชมพู่ “รู้แล้ว รู้นานแล้ว แม่จะบอกน้องตลอดว่าเวลาสื่อถามให้บอกว่าหลับไปเลย หลับตลอด เพราะแม่รู้ว่าตำรวจได้ข้อมูลหมดแล้ว”
แม่รู้ใช่ว่าสังคมมองว่าการเสียชีวิตของน้องน่าจะเกี่ยวข้องกับพ่อแม่
แม่น้องชมพู่ “ทุกคนมีสิทธิ์สงสัยเรา ที่บอกว่าแม่ไม่รักลูก แล้วแม่จะอุ้มทองเขามาได้ยังไง”
เขาบอกน้องเสียชีวิตไปดูเหมือนแม่ไม่เสียใจ
แม่น้องชมพู่ “แม่สัมภาษณ์สื่อนึงบางครั้งห้านาที แล้วแม่จะร้องไห้ได้ทั้งวันมั้ย หัวอกคนเป็นแม่อะ”
พ่อน้องชมพู่ “ถ้าเกิดสื่อกลับหมด ชาวบ้านกลับหมด เหลือแต่พ้อแม่กับสะดิ้งก็มีร้องไห้ ไม่มีใครเห็นหรอก”
มีรายการรายการหนึ่งที่แม่ไปออกแล้วแม่บอกว่าลุงพลไม่ได้ไปงานศพ
แม่น้องชมพู่ “แม่จำได้นะว่า แม่ไม่ได้ว่าลุงพลไม่ไปงานศพ แม่อาจจะพลาดก็ได้ หลังจากออกมาจากป่าช้าแล้วลุงพลไม่ได้มาสวดที่บ้าน ตอนเผาก็ไป”
วันนี้จะเอาเรื่องลุงพล
แม่น้องชมพู่ “ถ้าชี้ชัดได้ว่าลุงพลบริสุทธิ์ ก็จะขอโทษ ถ้าทำให้เขาเสียหาย แต่ไม่พร้อมคุย รอเวลาทำใจก่อน ให้ใจเย็นกว่านั้นก่อน วันนึงต้องเคลียร์กัน อาจจะไม่ได้ออกสื่อให้ตายายเป็นพยายาน”
แม่ไม่กลัวเหรอว่าทิ้งเวลาไปนานจะหมางใจกันมากกว่าเดิม
แม่น้องชมพู่ “แม่ต้องรับผิดชอบที่แม่สงสัย และลุงต้องเคลียร์ก่อน แม่ไม่สบายใจ ให้ชี้ชัดก่อน”
แล้วตัวพ่อละ บอกว่าไปทำงานตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า แต่มีคนเห็นตอนแปดโมงอยู่เลย
พ่อน้องชมพู่ “อันนี้มีพยานบุคคล มีช่างวา ยุ้ยคนข้างบ้าน”
ยุ้ย คนข้างบ้าน “เห็นตอนช่วงเช้าแต่กะเวลาไม่ได้ เห็นช่างวาเข้ามาก่อน”
แม่น้องชมพู่ “อย่าต้องให้เราต้องเถียงกัน พ่อพกโทรศัพท์ตลอดเวลา เช็กได้ว่าอยู่ตรงไหน ไปไหนมาไหนหรือเปล่า ตำรวจเช็กแล้ว”
ลุงพลก็ไปที่วัดในช่วงเวลานั้น
แม่น้องชมพู่ “ไปที่วัดแล้วรู้ก่อนหรือรู้หลัง คำตอบก็ยังไม่ชัดเจน มีพระมายืนยันว่าลุงพลอยู่ที่วัดแล้ว แต่หลังจากนั้นพระก็มาเปลี่ยนนะ”
วันนี้อยากจะบอกอะไรกับสังคม
แม่น้องชมพู่ “แม่ก็อยากบอกขอให้เห็นใจเราด้วย ไหนๆ เราก็เสียลูกแล้ว มีพ่อแม่คนไหนไม่เสียใจ”
พ่อน้องชมพู่ “อย่าซ้ำเติมเรา ไหนๆ ลูกเราก็ตายไปแล้ว”