ดร.ฟอซี เตือน รัฐที่มีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม ควรหยุดเปิดเมืองชั่วคราว
หลังจากที่สหรัฐอเมริกาทำลายสถิติโลก จากการมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นสูงที่สุดถึง 60,000 ภายในระยะเวลาเพียง 1 วัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ดร.แอนโธนี ฟอซี สมาชิกอาวุโสของคณะทำงานป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงกล่าวเตือนว่า รัฐต่างๆ ที่มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น จำเป็นต้องระงับการเปิดระบบเศรษฐกิจภายในรัฐเป็นการชั่วคราว
“แทนที่เราจะกลับไปปิดเมืองทั้งหมด ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องให้รัฐต่างๆ ระงับกระบวนการเปิดระบบเศรษฐกิจเป็นการชั่วคราว” ดร.ฟอซีกล่าว
นอกจากนี้ ดร.ฟอซียังได้ให้ความเห็นผ่านรายการพอดแคสต์ของ Wall Street Journal ว่า รัฐใดก็ตามที่ประสบปัญหาหนัก ต้องพิจารณามาตรการปิดเมืองอย่างเข้มงวด
รัฐต่างๆ ที่มีเป้าหมายจะเปิดเมืองในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เช่น เท็กซัสและฟลอริดา ต่างก็ประสบกับจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และสร้างแรงกดดันให้กับทรัพยากรในโรงพยาบาล ส่วนแอริโซนาก็เผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ ส่งผลให้มีคิวการตรวจหาเชื้อจำนวนมาก รวมทั้งมีการอ้างว่าชนกลุ่มน้อยถูกรัฐบาลทอดทิ้ง ขณะที่ในฟีนิกซ์ หน่วยงานรัฐหลายแห่งต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง
อย่างไรก็ตาม ดร.ฟอซีกล่าวว่า เขาไม่ได้มีอำนาจชี้ว่ารัฐใดควรปิดเมืองและต้องปิดเมื่อไร เนื่องจากแต่ละรัฐมีความแตกต่างกัน แต่ก็สามารถสังเกตเห็นรูปแบบการระบาดได้ โดยรัฐเท็กซัส ฟลอริดา และแอริโซนา ปกครองโดยผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดี เช่นเดียวกับโอกลาโฮมา ที่มีรายงานว่าการระบาดระลอกใหม่ในเมืองทัลซา อาจเกี่ยวข้องกับการปราศรัยหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์