วิวาท-สาดสุกี้ เด็กขวบเศษรับเคราะห์!!

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเอื้ออารี กรณีทะเลาะวิวาทในร้านสุกี้แล้วสาดน้ำร้อนใส่ จนเด็กวัยขวบเศษต้องมารับเคราะห์ หลังเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายต่างแจ้งความกันไปในข้อหาทำร้ายร่างกาย "คม ชัด ลึก" จะพาไปฟังความว่า วันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !?!

เริ่มจากพนักงานร้านสุกี้เอ็มเคในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาสามชุก จ.สุพรรณบุรี เล่าว่า เวลาประมาณทุ่มครึ่ง วันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้ต้อนรับครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกค้าขาประจำ พวกเขาและเธอกำลังหมายถึงครอบครัวของ "พัฒนนินท์ อุดมภักดีพงศ์" วัย 32 ปี ที่มากับภรรยา ลูก และญาติๆ ทั้งหมดเข้าไปนั่งที่โต๊ะเบอร์ 5 โดยมีเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งนั่งที่โต๊ะเบอร์ 6 ส่วนโต๊ะคู่กรณี ซึ่งหมายถึง ด.ต.ทวี เขียวไสว กับ "พงศกร สุกรเสพย์" ลูกเลี้ยงนั้น มากับครอบครัวเลือกนั่งโต๊ะเบอร์ 3

ก่อนจะเกิดเรื่องชกต่อยกันขึ้น พนักงานส่วนใหญ่กำลังให้บริการลูกค้าโต๊ะตัวอื่นๆ จึงไม่มีใครได้ยินถนัดว่าทั้งสองโต๊ะนี้มีปากเสียงกันเรื่องอะไร กระทั่งเกิดการชกต่อยชุลมุนขึ้น พนักงานจึงหันมาเห็นเหตุการณ์และช่วยกันแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน กระทั่งเห็นวัยรุ่นโต๊ะ 3 ยกหม้อสุกี้สาดไปทางโต๊ะเบอร์ 5 ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 เมตร

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกับร้านสุกี้พบว่า ทั้งสองฝ่ายไม่ได้สั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด โดยฝ่ายพัฒนนินท์จ่ายค่าอาหารหลังจากหักส่วนลดจากบัตรแล้ว 1,315 บาท ส่วนฝ่ายของ ด.ต.ทวี จ่ายไป 582 บาท

จากการพูดคุยกับ ด.ต.ทวี เขียวไสว เจ้าหน้าที่ธุรการคดี สภ.สามชุก ยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์จริง และรับรู้เรื่องราวทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในฐานะตำรวจคงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะเป็นคดีความขึ้นมาแล้ว ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าลูกเลี้ยงเป็นคนโมโหง่าย และเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก หลังเกิดเหตุก็ตำหนิเขาไปว่า ทำแบบนี้ได้อย่างไร ที่สำคัญคือไม่ได้ร่วมกับลูกชายรุมทำร้ายคู่กรณีอย่างที่เป็นข่าว ถ้าไม่เชื่อสามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิดของห้าง ซึ่งจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้ร่วมกับลูกชายสาดน้ำสุกี้ใส่คู่กรณี ตรงกันข้ามได้พยายามห้ามและปัดออก แต่ปัดไม่ทัน จนถูกน้ำร้อนลวกเช่นเดียวกัน

"ผมไม่ขอพูดอะไรอีก เดี๋ยวจะหาว่าเป็นการเข้าข้าง คู่กรณีเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า ณ เวลานั้นเป็นอย่างไร" ด.ต.ทวี ย้ำ

ด้าน "พงศกร สุกรเสพย์" คู่กรณีโดยตรง ก่อนจะพูดถึงข้อเท็จจริงเขาฝากขอโทษ ด.ญ.พิมพาภรณ์ อุดมภักดีพงศ์ ที่ถูกน้ำร้อนลวก พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาทำให้น้องเขาได้รับบาดเจ็บ และชนวนเหตุก็ไม่ได้มาจากเรื่องของน้อง !?!

"ต้องฝากขอโทษน้องเขาด้วย"

อย่างไรก็ดี พงศกรยอมรับว่า เขาเป็นคนใจร้อน และเป็นอารมณ์ชั่ววูบ คิดว่าคู่กรณีเข้าใจผิดเขาตั้งแต่แรก โดยก่อนจะมากินสุกี้ที่ร้านเขากับแฟนสาวมีปากเสียงกันมาก่อนแล้ว กระทั่งพากันมากินสุกี้ที่ร้าน มีทั้งพ่อแม่และแฟนสาว ก็ยังมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่ จนเกิดความอึดอัด พงศกรยืนยันว่าได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่แล้ว แต่สาเหตุที่พูดคำว่า "ทนไม่ไหวแล้วโว้ย" นั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับเด็กร้องเลยแม้แต่น้อย แม่ของเขาจึงร้องเตือนว่า "เบาๆ" เนื่องจากคู่กรณีหันมามองจึงเงียบเสียง กระทั่งผู้เสียหายเดินตรงมาที่โต๊ะถามว่า "มีปัญหาอะไรหรือเปล่า" ด้วยความใจร้อนเลยสวนกลับไปว่า "แล้วยังไง" พร้อมกับกระโดดชกหน้าจนเกิดการชุลมุนและมีคนเข้ามาห้าม

"จังหวะนั้นผมเห็นคนที่โต๊ะขว้างแก้วมา เลยยกหม้อสุกี้สาดใส่ ไม่คิดว่าจะโดนเด็ก กระทั่งกลายเป็นเรื่องเป็นราว ผมยอมรับว่าเป็นฝ่ายลงมือกับพ่อของเด็กก่อน ที่สำคัญอยากขอร้องสื่อมวลชนว่า ผมผิด ผมยอมรับผิดทุกอย่าง แต่อย่าลากพ่อผมที่เป็นตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พ่อผมเองก็ได้รับบาดเจ็บจากฝีมือผม พ่อพยายามปัดหม้อสุกี้แต่ก็ไม่ทัน" พงศกร กล่าว

ทั้งนี้ "คม ชัด ลึก" พยายามติดต่อไปยังพัฒนนินท์ที่เบอร์มือถือ 08-1443-7xxx เพื่อให้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ขณะเข้าไปขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน พัฒนนินท์เคยเล่าเอาไว้ว่า ระหว่างเช็กบิลกลับบ้านน้องพีชส่งเสียงร้องอ้อแอ้ตามประสาเด็ก จู่ๆ โต๊ะข้างๆ ซึ่งทราบภายหลังว่ามี ด.ต.ทวี เขียวไสว กับพงศกร สุกรเสพย์ ลูกเลี้ยง และพวกรวม 5 คนตะโกนด่าลอยๆ ผ่านโต๊ะตลอดเวลาว่ารำคาญเสียงเด็กร้อง จึงอุ้มลูกพาเดินไปรอญาติข้างนอก แต่ยังถูกด่าตลอดเวลา จึงตอบโต้กลับไปว่า อะไรกันนักหนาแค่เด็กร้อง จู่ๆ พงศกรก็เดินเข้ามาชกที่ใบหน้าจนล้มลง จากนั้น ด.ต.ทวีได้เข้ามาล็อกจับมือไพล่หลังให้ลูกเลี้ยงชกอีกหลายครั้ง จนภรรยาเข้ามาห้ามก็ยังถูกผลักจนล้มลง จากนั้นพงศกรได้กลับไปที่โต๊ะยกหม้อสุกี้ร้อนๆ สาดไปที่น้องพีชจนน้ำร้อนลวกทั่วตัว ภรรยาและแม่ก็โดนลูกหลง

ด้าน พ.ต.อ.สมเจต ทองปาน ผกก.สภ.สามชุก ได้ประสานขอเทปวงจรปิดของห้างเทสโก้ โลตัส ที่บันทึกภาพคนเข้าออกห้าง และสามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ไม่ขอบอกเล่ารายละเอียดที่ปรากฏในภาพ เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย แต่ได้นำมาประกอบสำนวนการสอบสวนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พงศกรก็ผิดที่ทำให้เด็ก 5 เดือนบาดเจ็บ แต่มีสาเหตุมาจากอะไร และความจริงแท้จะเป็นอย่างไรนั้น ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจใคร่รู้พอๆ กัน !?!