พ่อแม่ "น้องแจง" ที่ถูกอ้างว่าตาย ยังมีชีวิตอยู่ ตกใจลูกสาวหลอกเงินผู้ชาย 4 ล้าน
พ่อแม่ที่น้องแจงอ้างว่าตาย ขอเงินไปจัดงานศพ ที่จริงยังมีชีวิตอยู่ ยังไม่ปักใจเชื่อลูกสาวหลอกเงินผู้ชาย 4 ล้าน
(11 ก.ค. 63) จากกรณี นายปรีชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อดีตหัวหน้างานบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชาวจังหวัดสระบุรี เดินทางเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามเงินที่ถูกหลอกไปกว่า 4 ล้านบาท จาก นางสาวนิภาพร หรือ แจง อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ หลังรู้จักพูดคุยกันทางเฟซบุ๊กจนสนิทสนมคบหาเป็นแฟน และถูกหลอกให้โอนเงินไปทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้า
นายปรีชาระบุว่า เมื่อปี 2561 ตนเองรู้จักกับน้องแจงทางเฟซบุ๊ก พูดคุยกันตลอดทั้งวันทั้งคืนจนคบหาเป็นแฟน หลังจากนั้นน้องแจงก็บอกว่าคุณพ่อเสียชีวิตไม่มีเงินจัดงาน เลยโอนไปให้ 40,000 บาท เพื่อช่วยเหลือ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็มาบอกว่าคุณแม่เสียอีก พร้อมถ่ายรูปในงานศพมาให้ดูตนก็ช่วยงานไปอีก 40,000 บาท
โดยวันนี้ผู้สื่อข่าวนำภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นน้องแจง ไปสอบถามบิดา คือ นายชื่น อายุ 68 ปี ที่หมู่บ้านส้มป่อย อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง โดยนายชื่นยืนยันบอกว่า ภาพถ่ายดังกล่าวนี้ คือรูปของน้องแจงลูกสาวตนเองจริง ซึ่งลูกสาวบอกว่าเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ครั้งสุดท้ายที่มาบ้าน ก็ไม่ได้ให้เงินตนเองไว้ใช้แต่อย่างใด
ถ้าหากเรื่องการโอนเงินกว่า 4 ล้านบาท เป็นเรื่องจริง หรือบุตรสาวตนเองนำเงินไปจริงก็ขอให้ลูกนำเงินไปคืนเขาซะ แต่ตนเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเงินนั้นเป็นจำนวนมากตั้ง 4 ล้านบาท ถ้าเป็นเงินสัก 4 หมื่นบาทตนเองคิดว่าน่าเชื่ออยู่ แต่เงินมูลค่ามหาศาลนี้ คิดว่าลูกสาวตนเองไม่ได้ทำแน่นอน ตอนนี้พ่อได้ทราบข่าวพ่อก็หนักใจมาก ที่ผ่านมาย้อนหลังไป 2 ปี ตนเองก็ไม่เคยได้เงินจากลูกสาวเลย
หลังจากลูกสาวตนเอง ไปทำงานที่จังหวัดลำพูนและจังหวัดเชียงใหม่ ตนเองและภรรยาก็มีอาชีพปลูกผักสวนครัวและต้นลำไยอยู่ในบ้าน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงอยู่ในบ้านกัน 2 คนตายาย
พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก.สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้สั่งให้ตรวจสอบข้อมูล หลังมีข่าวว่านางสาวนิภาภรณ์เคยอยู่ที่ อ.สารภี และเคยถูกเจ้งความดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ เบื้องต้นทราบว่านางสาวนิภาภรณ์เป็นชาวจังหวัดลำปาง ได้แต่งงานและย้ายมาอยู่ที่ อ.สารภี แต่ได้เลิกรากับสามีและไปอยู่ที่อื่นนานหลายปีแล้ว
ล่าสุดจากการตรวจสอบพบ น.ส.นิภาภรณ์ หรือ แจง ถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ในท้องที่ สภ.สารภี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 หลังจากนั้นนางสาวนิภาภรณ์ได้เข้ามอบตัวและพนักงานสอบสวนได้ส่งฟ้องดำเนินคดีไปแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบในพื้นที่ สภ.สารภี มีคดีเดียว ส่วนคดีที่มีการแจ้งความล่าสุดเป็นคนละส่วนกับคดีเดิม เป็นการดำเนินการสอบสวนของโรงพักท้องที่ที่รับคดี