มท.ยันไม่มีอำนาจให้สัญชาติด.ช.หม่องทำได้แค่ออกหนังสืออ้างช่วยคนเดียวอาจเจอต่างด้าวประท้วงเป็นแสน

มหาดไทยยันไม่มีอำนาจให้สัญชาติด.ช.หม่องทำได้แค่ออกหนังสือรับรองส่งเรื่องให้บัวแก้ว ตัดสิน ชวรัตน์ ยังไม่ว่างพบ มท.อ้างช่วยคนเดียวอาจจะเจอต่างด้าวประท้วงขอสัญาชาติอีกเป็นแสนแนะส่งกลับพม่าทำหนังสือเดินทางดีกว่าฝืนกม.ไทย นายดวงฤทธิ์ เภติมา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยทราย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม กรณีกระทรวงมหาดไทยจะทำหนังสือรับรองให้ ด.ช.หม่อง ทองดี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านห้วยทราย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนให้ได้ไปแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน ภายหลังมีปัญหาไม่ได้รับการอนุมัติให้เดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากเป็นบุตรแรงงานต่างด้าว สัญชาติพม่า ไม่มีสัญชาติไทยว่า ด.ช.หม่องต้องเลื่อนการเดินทางเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกไปก่อน เนื่องจากในวันที่ 1 กันยายน ตามที่กำหนดไว้เดิมนายชวรัตน์มีภารกิจเร่งด่วน กระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า หากนายชวรัตน์พร้อมจะส่งหนังสือแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ขณะที่นายอำนาจ กิตติจริยา ครูกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านห้วยทรายนำ ด.ช.หม่องไปถ่ายรูปเพื่อติดบัตร ที่ฝ่ายทะเบียนและบัตร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แจ้งขออนุญาตนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เดินทางออกนอกพื้นที่ไปกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 1-20 กันยายน เพื่อเตรียมพร้อมเดินทางไปแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับที่ญี่ปุ่น หากได้รับอนุญาตเดินทางจากกระทรวงมหาดไทย

นายทวีพงษ์ หินคำ นายกเทศมนตรี ตำบลสุเทพ กล่าวว่า เทศบาลสนับสนุน ด.ช.หม่องและโรงเรียน ด้านยานพาหนะ น้ำมัน และค่าเดินทางเข้า กทม. ส่วนตัวได้ช่วยไปแล้ว 10,000 บาท หากโรงเรียนอยกให้สนับสนุนไปแข่งขันที่ญี่ปุ่นก็ยินดี เพราะถือว่าเป็นนักเรียนในพื้นที่ แม้เป็นเด็กไร้สัญชาติ แต่มีความสามารถสร้างชื่อเสียงแก่จังหวัดและประเทศจึงสนับสนุนเต็มที่

นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรณีนี้ยืนยันว่าไม่สามารถให้สัญชาติไทยได้ เพราะพ่อและแม่เด็กเป็นชาวพม่าที่อพยพเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ดังนั้นกระทรวงจึงสามารถทำหนังสือรับรองได้เพียงอย่างเดียวว่า ด.ช.หม่องเป็นลูกแรงงานต่างด้าว ที่เกิดในประเทศไทย และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยจริง ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในระหว่างการดำเนินงานของกองการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย จากนั้นเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะออกหนังสือเดินทางได้หรือไม่ เพราะหนังสือเดินทางเปรียบเสมือนหนังสือรับรองความเป็นสัญชาติไทย

เรื่องการให้สัญชาติไทย ไม่สามารถทำได้แน่นอน เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจาก พ.ร.บ.สัญชาติไม่ได้ให้ข้อยกเว้นในการใช้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีเพียง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ที่ให้อำนาจรัฐมนตรี ตามมาตรา 16 ในกรณีที่มีพฤติการณ์ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่ประเทศหรือเพื่อความสงบเรียบร้อย วัฒนธรรมหรือศีลธรรมอันดีหรือความผาสุกของประชาชน ไม่สมควรอนุญาตให้คนต่างด้าวผู้ใดหรือจำพวกใดเข้ามาในราชอาณาจักร รัฐมนตรีมีอำนาจสั่งไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวผู้นั้นหรือจำพวกนั้นเข้ามาในราชอาณาจักรได้ อธิบดีกรมการปกครองกล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยอ้างว่า หากให้สัญชาติไทยแก่ ด.ช.หม่องอาจจะกระทบความมั่นคงของประเทศ เพราะอาจจะทำให้เด็กสัญชาติพม่าที่พ่อแม่หนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวนนับแสนคนมาประท้วงขอสัญชาติ ซึ่งอาจจะส่งผลตามมาในภายหลัง อีกทั้งถึงแม้ว่าตาม พ.ร.บ.สัญชาติ มาตรา 11 (1) ได้กระทำความดีความชอบเป็นพิเศษต่อประเทศไทย คุณประโยชน์ให้แก่ทางราชการ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นสมควร แต่กรณีดังกล่าวไม่เข้าข่าย เนื่องจากไม่ใช่ความสามารถเฉพาะตัวที่มีเพียงคนเดียวในประเทศ อย่างไรก็ตาม หากคณะผู้จัดต้องการที่จะให้ ด.ช.หม่องไปแข่งที่ประเทศญี่ปุ่น ควรจะนำตัว ด.ช.หม่องกลับไปทำหนังสือเดินทางที่ประเทศพม่าเสียก่อน หรือติดต่อผ่านทางสถานทูตพม่าเพื่อทำหนังสือเดินทาง เพราะจะง่ายกว่าฝืนกฎหมายไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 39 ระบุว่า คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว หากเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรให้ถือว่าการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุด แต่ถ้าก่อนเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ให้กลับเข้ามาในราชอาณาจักรได้อีก และคนต่างด้าวนั้นได้กลับเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เป็นผู้ต้องห้ามตามมาตรา 12 ถ้าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังมีเหลืออยู่ ให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อไปได้เท่าระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่นั้น การขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก ให้คนต่างด้าวยื่นคำขอตามแบบและเสียค่าธรรมเนียมตามอัตราและหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง