ออสเตรเลียเริ่มทดลองวัคซีนโควิด-19 ในมนุษย์แล้ว คาดอีก 3 เดือนรู้ผล
ซิดนีย์, 13 ก.ค. (ซินหัว) — วันจันทร์ (13 ก.ค.) คณะเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเปิดเผยว่าวัคซีนสำหรับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ภายใต้การพัฒนาของมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (UQ) ในออสเตรเลีย ได้เริ่มต้นการทดลองในมนุษย์แล้ว
การทดลองระยะที่ 1 จะครอบคลุมอาสาสมัครอายุ 18-55 ปี ประมาณ 120 คน แต่ละคนจะได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดส และต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำการเว้นระยะห่างทางสังคมเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป
ความคืบหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเสร็จสิ้นการทดลองก่อนการทดสอบในมนุษย์ (Pre-clinical Testing) อันยาวนานหลายเดือน นับตั้งแต่วัคซีนทดลองตัวนี้ถูกเลือกให้เป็นวัคซีนที่มีแนวโน้มสำเร็จมากที่สุดของมหาวิทยาลัยฯ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์
ศาสตราจารย์พอล ยัง ผู้นำร่วมในโครงการวัคซีนของมหาวิทยาลัยฯ เปิดเผยว่า จากการทดลองนั้น วัคซีนตัวนี้ช่วยกระตุ้นแอนติบอดีหรือโปรตีนภูมิคุ้มกันที่สามารถลบล้างฤทธิ์ของไวรัสได้ ขณะที่ผลการทดลองเบื้องต้นชี้ว่ามีความปลอดภัยต่อมนุษย์
รายงานเสริมว่าผลการทดลองระยะที่ 1 จะปรากฏในอีกราว 3 เดือนข้างหน้า พร้อมแผนเดินหน้าสู่การทดลองขั้นตอนต่อไปอย่างเร็วที่สุด โดยยังกล่าวว่า “การทดลองขั้นต่อไปจะเป็นการทดลองกลุ่มใหญ่ขึ้น โดยมีผู้ร่วมทดลองจากหลากหลายช่วงอายุ เพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนใช้ได้ผลกับคนทุกกลุ่ม”
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์เป็นหนึ่งในสถาบันจำนวนมากที่ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อนวัตกรรมความพร้อมรับมือโรคระบาด (CEPI) และซีเอสแอล (CSL) ยักษ์ใหญ่ด้านชีวเวชของออสเตรเลีย ซึ่งมุ่งมั่นผลิตวัคซีนหากการทดลองประสบผลสำเร็จ
“หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ซีเอสแอลจะเดินหน้าผลิตวัคซีนจำนวนหลายสิบล้านโดสอย่างรวดเร็ว และผลักดันโครงการสู่การทดลองทางคลินิกขั้นตอนสุดท้าย การอนุมัติโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบการผลิตและจำหน่าย การผลิตปริมาณมาก และการแจกจ่ายต่อไป” ศาสตราจารย์เทรนต์ มุนโร ผู้อำนวยการโครงการข้างต้น กล่าวสรุป