ผบช.ก.ไม่ปักใจเชื่อ2พนง.เอสซีมือทำคลิปอภิสิทธิ์
ผบช.ก.วาง 3 แนวทางเดินหน้าสืบค้นไล่ล่าต้นตอบงการเผยแพร่คลิปเสียงนายกรัฐมนตรี มั่นใจไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ ย้ำยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ 2 ผู้ต้องหาพนักงานเอสซี แอสเสทฯ เตรียมขยายผลสอบโยงระดับบิ๊กที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี
วันที่ 1 ก.ย. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนหาต้อตอคลิปตัดต่อเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่คลิปดังกล่าวผ่านทางอีเมล จนนำไปสู่การที่เจ้าหน้าที่กองปราบฯ เข้าตรวจค้นโต๊ะทำงานของนายสมศักดิ์ แซ่อึง และน.ส.กันทิมา แต้มครู สองพนักงานบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาคดีเผยแพร่คลิปเสียงนายกฯ ที่แผนกธุรกิจสัมพันธ์ ชั้น 19-20 อาคารชินวัตร 3 เมื่อวานที่ผ่านมาว่า ในการสอบสวนสืบคดีตัดต่อเสียงคลิปนายกรัฐมนตรี คณะทีมงานแบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1.การหาต้นตอใครเป็นคนบงการให้กระทำ 2.คนที่นำส่งไฟล์คลิปเสียงผ่านทางอีเมลของบริษัท เอสซี แอสเสทฯ 3.การนำไปเผยแพร่สู่สาธารณะชน
พล.ต.ท.ไถง กล่าวต่อไปว่า ตนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสองคน ซึ่งจะต้องขยายผลสอบผู้ที่มีส่วนถูกพาดพิงอีก 5-7 คน ซึ่งคาดอาจจะมีการตัดต่อคลิปเสียง และมีส่วนฟอร์เวิร์ดข้อมูล รวมถึงสอบพยานแวดล้อมในย่านพื้นที่ที่มีการอ้างว่ามีผู้หญิงผมยาวเดินแจก แผ่นวิดีโอคลิปเสียงตามคิวรถตู้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า แม้ว่าผู้ต้องหาทั้งสองปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดต่อคลิปเสียง แต่เป็นเพียงผู้ส่งไฟล์คลิปเสียงผ่านทางอีเมลของบริษัท เอสซี แอสเสทฯ โดยที่มาของคลิปเสียงนั้นพบว่า หนึ่งในผู้ต้องหาเป็นผู้ได้รับแจกแผ่นซีดีคลิปเสียงดังกล่าวมาอีกทอดหนึ่ง จากนั้นได้มีการนำไปไฟล์ไปแปลงเพื่อให้สามารถส่งต่อผ่านอีเมลบริษัทฯ ได้ ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนขยายผลอยู่ว่าผู้ต้องหานั้นได้แผ่นซีดีมาจากใคร และกำลังขยายผลหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป
ผบช.ก.กล่าวย้ำว่า ผู้ต้องหา 2 คนที่ได้ให้การไว้จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งการสืบหาต้นตอดังกล่าว เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบขยายผล ในข้อเท็จจริงต่อไป
เพื่อไทยอัดรัฐบาลสองมาตรฐานเร่งสอบคดีคลิปนายกฯ
เมื่อเวลา 15.30 น.ที่พรรคเพื่อไทยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการดำเนินการของรัฐบาลในการจับกุมบ.เอสซีแอสเซส ในข้อหาเกี่ยวข้องกับการแปลงไฟล์และเผยแพร่คลิปเสียงของนายอภิสิทธิ์ว่าพรรคเพื่อไทยได้หารือกันและตั้งข้อสังเกตุว่ารัฐบาลมีความพยายามโยงมาถึงพรรคเพื่อไทย และดำเนินการเป็น 2 มาตราฐาน เพราะกรณีคลิปเสียงดำเนินการอย่างเร่งรัดรวดเร็วผิดกับกรณีพันธมิตรที่บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะกรณีที่รัฐบาลมอบหมายให้พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู สามีนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ให้เข้ามาควบคุมการดำเนินคดีถึงขั้นลงมาสอบปากคำด้วยตัวเอง ซึ่งภายในไม่กี่วันก็สามารถเข้าควบคุมตัวพนักงานเอสซีฯได้ ต่างจากกรณีพันธมิตรฯที่เวลาล่วงผ่านเกือบ 1 ปีกับไม่มีความคืบหน้าอีกทั้งมีฐานความผิดที่ร้ายแรงกว่า เป็นการก่อการร้ายสากลมีโทษถึงประหารชีวิต พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าใช้ 2 มาตรฐานเร่งดำเนินคดีกรณีพันธมิตรฯด้วยเช่นกัน