สู้มา 15 ปี! "น้องบีม" ชนะคดี 18 ล้อชนพิการ-ทนายโกง ศาลฎีกาสั่งชดใช้ 5 ล้าน

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

ต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2548 จบคดี "น้องบีม" เด็กถูกรถบรรทุกชนพิการ-ทนายโกงเงินซ้ำ ล่าสุด ศาลฎีกาพิพากษาให้คู่กรณีชดใช้กว่า 5 ล้าน

วานนี้ (14 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่เนติบัณฑิตยสภา ถนนกาญจนาภิเษก เขตตลิ่งชัน กทม. ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายเนติบัณฑิตยสภา พร้อมด้วยคณะทนายความ น.ส.พรทิพย์ จันทรัตน์ อายุ 47 ปี แม่ของน้องบีม และ น.ส.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือ น้องบีม อายุ 17 ปี หนึ่งในคณะนักร้องประสานเสียงโฆษณาบริษัทประกันชื่อดัง นั่งรถวีลแชร์ เดินทางมาร่วมแถลงข่าว

โดย คณะทำงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เนติบัณฑิตยสภา แถลงการช่วยเหลือทางคดีให้กับน้องบีม ผู้เสียหาย ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุก 18 ล้อ ชนจนพิการ และพ่อเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2548 ว่า คดีนี้ศาลฎีกาคดีแพ่ง พิพากษาให้ 2 แม่ลูกชนะคดี โดยให้บริษัทเจ้าของรถบรรทุก และบริษัทประกันภัย ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 5 ล้านบาทให้กับผู้เสียหาย

แต่ นายพิสิษฐ์ อดีตทนายความผู้เสียหาย กลับออกอุบายให้ผู้เสียหาย เซ็นมอบอำนาจโดยไม่ชอบ นำไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และนำเช็ค 29 ฉบับ เป็นเงินกว่า 3,050,000 บาท ไปขายคืนในราคา 900,000 บาท ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้เสียหายไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำเช่นนั้น เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อลูกความ จึงพิพากษาแก้ให้ผู้เสียหายดำเนินการบังคับคดี ยึดทรัพย์นำมาชำระหนี้ต่อไป

ด้าน น้องบีม เปิดใจว่า ปัจจุบันกำลังศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน หรือ กศน. เทียบเท่าชั้น ม.5 อนาคตก็อยากเดินตามความฝัน คืออยากเป็นผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ ตอนนี้ช่วยแม่ขายกาแฟสดที่กรมชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และมีเพจโกโก้ บราวนี่ by บีม ภัทรดา

หลังทราบว่าชนะคดี รู้สึกดีใจมาก ที่ผ่านมา ใช้ชีวิตยากลำบาก ต้องทำกายภาพต่อเนื่อง หวังจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้การช่วยเหลือ แม้จะรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะถูกทอดทิ้งอีกหรือไม่ และอยากฝากไปถึงบริษัทรถบรรทุก ให้เข้ามาเจรจา เพราะเราสองแม่ลูกลำบากแค่ไหน

"สิ่งที่หนูอยากจะบอกถึงบริษัทรถบรรทุก คือถ้าคุณดูอยู่ หนูอยากให้คุณเมตตาหนูกับคุณแม่อยากให้เรามานั่งคุยกันว่า ต่อไปนี้เราจะทำอย่างไรดี อยากให้ดูหนูกับคุณแม่ว่าที่ผ่านมาชีวิตเราลำบากกันขนาดไหน จะผ่านแต่ละวัน มันไม่ง่าย เลย" น้องบีม กล่าวตอนท้าย

ปัจจุบัน นายพิสิษฐ์ ทนายความถูกจำคุกจากคดีฉ้อโกง และไม่พบว่ามีทรัพย์สินที่จะมาใช้หนี้ ส่วนบริษัทรถบรรทุกยังคงประกอบกิจการตามปกติ และ ว่าที่ พ.ต.สมบัติ ยอมรับว่า เสียดายประเด็นการคิดดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี ที่ครอบครัวน้องบีมไม่ได้ร้องขอไปตั้งแต่ศาลชั้นต้น เพราะน้องบีมอาจได้รับดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนกว่า 10 ล้านบาท