อดีตทูตชี้คนไทยด่ารัฐบาลไม่ถูกต้อง กรณีลูกทูตซูดาน เป็นเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ

อดีตทูตชี้คนไทยด่ารัฐบาลไม่ถูกต้อง กรณีลูกทูตซูดาน เป็นเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ

อดีตทูตชี้คนไทยด่ารัฐบาลไม่ถูกต้อง กรณีลูกทูตซูดาน เป็นเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงพบผู้ป่วยรายใหม่ 3 รายในไทย โดยเป็นกรณีของคณะทูตซูดาน ซึ่งพบว่าเด็กหญิงวัย 9 ขวบติดเชื้อ กระทั่งในเวลาต่อมา รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยอมรับอย่างชัดเจนว่า เด็กคนดังกล่าวถูกตรวจและพบเชื้อ นับตั้งแต่เดินทางเข้ามาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่จำต้องปล่อยให้เข้ามาในประเทศเนื่องจากด้วยระบบสิทธิทางการทูต จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างรุนแรงตามมา

ล่าสุดวานนี้(14 ก.ค.) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว อธิบายในประเด็นเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ โดยระบุว่าเป็นเรื่องมีความซับซ้อน และละเอียดอ่อนที่คนไทยยังไม่ทราบ และได้ระบุข้อความว่า

 

กม.ระหว่างประเทศ มีความละเอียดอ่อนที่คนไทยไม่ทราบ

กรณีที่เกิดขึ้น นักการทูตต้องกักตัวเองตามระเบียบของรัฐผู้รับ (ในที่นี้คือไทย) ภายใต้สถานการณ์โควิด ก็ถูกต้องแล้ว นักการทูตต้องทำตามระเบียบของรัฐผู้รับด้วย

คราวนี้ว่าถึงสถานที่กักตัว ในทางการทูต สถานทูตและที่พักของคณะทูตทุกคนอยู่ภายใต้เอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่รัฐผู้รับต้องดูแลให้การคุ้มกันและอารักขา กรณีการ SQ เรามีข้อตกลงแต่แรกหรือเปล่าว่า นักการทูตต่างชาติต้องเข้าไป SQ ในสถานที่ๆ รัฐผู้รับจัดให้?

ถ้าเราไม่ได้เขียนระบุชัดแจ้ง เขาก็เลี่ยงได้ว่า เขาขอ SQ ในที่พักของเขา กรณีเด็กซูดาน ถ้าเขาถือว่าเขา SQ ในที่พักของเขาที่เป็นคอนโด เพราะเราไม่ได้เขียนไว้ชัดเจน เขาก็ไม่ผิด แต่ที่เราเดือดร้อนเพราะเด็กซูดานดันติดเชื้อ ซึ่งก็เปรียบเหมือนคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศอยู่ใน SQ แล้วติดเชื้อ แต่ต่างกันที่คนไทยติดเชื้อใน SQ ที่ไทยกำหนด ส่วนซูดานติดเชื้อใน SQ ที่เป็นที่พักของเขาซึ่งได้เอกสิทธิ์และความคุ้มกัน

ดังนั้น ล่าสุดข่าวว่า ศบค.ออกกฏเข้มว่านักการทูตต้องกักตัวก็ขอให้ระบุไปเลยว่าต้องเป็น SQ ที่ไทยเรากำหนด เอาให้ชัดๆไปเลย

สำหรับเรื่องเที่ยวบินพิเศษนั้นทุกประเทศเขาเปิดช่องไว้หมดครับ เผื่อกรณีฉุกเฉิน และต้องร้องขอ diplomatic clearance เป็นกรณีๆไป เครื่องบินพิเศษที่ส่วนใหญ่เป็นเครื่องทหาร หรือเครื่องเช่าจากสายการบิน จะบินตามเส้นทางบินปกติของเครื่องบินพาณิชย์ไม่ได้ เพราะบางประเทศเขาห้ามเครื่องบินทหารบินผ่าน ดังนั้น เครื่องบินทหารบางครั้งต้องบินอ้อม ซึ่งต้องลงจอดเป็นระยะๆเพื่อเติมน้ำมัน เราจะไปจำกัดสิทธิ์หรือตัดสิทธิ์เครื่องบินเที่ยวบินพิเศษคนอื่นก็เท่ากับเราตัดสิทธิ์ของเราเองด้วย ถ้าเกิดกรณีฉุกเฉิน เราก็ซวย

สมมุติเราต้องส่งเที่ยวบินพิเศษไปรับคนไทยที่ซูดาน (ซึ่งตอนนี้มีคนไทยไปทำงานที่ซูดาน เช่น ทหารไทยที่ไปปฏิบัติภารกิจภายใต้ UN เป็นต้น) และเครื่องอาจต้องแวะจอดที่อียิปต์ ถ้าเราไปตัดสิทธิ์เขา เขาก็ตัดสิทธิ์เราห้ามบินผ่านหรือห้ามจอดเช่นกัน

ดังนั้น ที่ผมออกมาเตือนคือ เราคนไทยด่ากันผิดประเด็น ไปด่า ผบ.ทบ. ด่าหมอทวีศิลป์ ด่า ศบค. กล่าวหาว่ารัฐให้สิทธิพิเศษปล่อยพวกนี้ออกมาเพ่นพ่าน เลือกปฏิบัติให้สิทธิพิเศษ Super VIP ซึ่งมันไม่ใช่ !!! ศบค.เขามีกฏออกมาแล้วต้อง SQ แต่อาจมีช่องโหว่ที่นึกไม่ถึง ก็ปิดช่องโหว่นั้นซะ ออกระเบียบให้ชัด ระบุไปเลยว่าต้องอยู่ในที่ๆเราจัดให้เท่านั้น

ส่วนเที่ยวบินพิเศษถ้าขอบินผ่าน แวะเติมน้ำมัน เราก็อาจออกกฏให้เขา seal ตัวเองอยู่บนเครื่อง หรือภายใต้สถานที่จำกัดที่เรากำหนด เมื่อเข้ามาแล้วต้องรีบออกไป ห้ามเข้าเมือง อะไรแบบนี้เป็นต้น ผมออกมาให้สติเตือนก็ถูกต่อว่า หาว่าปกป้องคนทำผิด !? ใครทำผิดครับ !?

เราทำถูกต้องมาตลอด ทุกอย่างเป็นไปตามสากลกฏเกณฑ์ทุกอย่าง แต่พอเกิดเหตุแทนที่จะมีสติกลับด่ากราด บางคนแรงถึงขนาดให้ขับไล่ออกนอกประเทศ ห้ามเที่ยวบินพิเศษเข้ามา ไปกันใหญ่เลย

หวังว่าคงจะพอเข้าใจกันบ้างนะครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook