สผ.ยันตีกลับEIAสหวิริยา100ข้อต้องแก้-ประเมินกระทบสุขภาพ
กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง500คนบุกก.อุตสาหกรรม ค้าน"อีไอเอ"โรงถลุงเหล็ก สผ.เผยตีกลับปีเศษติดใจกว่า100ข้อต้องแก้ไข และประเมินผลกระทบสุขภาพตามม.67
ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ประจวบคีรีขันธ์ นำโดยนางจินตนา แก้วขาว นายสุพจน์ ส่งเสียง พร้อมด้วยชาวบ้านในเขต อ.บางสะพาน คัดค้านโครงการโรงถลุงเหล็กในเครือบริษัทสหวิริยา จำนวน 500 คนได้เข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเรียกร้องไม่ให้ออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อผลกระทบ ตามกฎหมาย ประกอบมาตรา 66 และ 67 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 และเรียกร้องไม่ให้กำหนดขนาดโครงการที่เข้าข่ายรุนแรงจนเกินจริง จากนั้นช่วงบ่ายได้เคลื่อนย้ายมาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เพื่อทวงถามผลจากการยื่นจดหมายของชาวบ้านกรณีการยกเลิก อีไอเอ ของบริษัทสหวิริยา และให้เพิกถอนใบอนุญาต บริษัทที่ปรึกษา เนื่องจากใช้ข้อมูลเท็จในการทำอีไอเอ ซึ่งพบว่าทางทส.ตอบรับสัญญาว่าจะมีการตอบกลับมาภายใน 15 วัน หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือไว้ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา
ด้าน นางนิศากร โฆษิตรัตน์ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) กล่าวว่า ขณะนี้การพิจารณาอีไอเอโครงการโรงถลุงเหล็กของเครือสหวิริยา ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ(คชก.) จากก่อนหน้านี้ทางสหวิริยา ได้เคยถอนรายงานอีไอเอออกไปครั้งหนึ่ง จากนั้นได้ส่งกลับเข้ามาใหม่เมื่อเดือน มิ.ย.2551 และที่ประชุม คชก.ได้พิจารณาแล้วตีกลับให้กลับไปปรับปรุงอีไอเอใหม่อีกรอบในเดือน ก.ค.2551 เนื่องจากพบว่า รายงานอีไอเอยังไม่สมบูรณ์ในหลายประเด็น และมีให้แก้ไขมากกว่า 100 ประเด็นย่อยๆ ที่มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้เจ้าของโครงการก็ยังไม่ส่งอีไอเอกลับเข้ามาอีก ทั้งนี้ สผ.ยังคงถือว่าเป็นสิทธิ์ของเจ้าของโครงการ
ด้านนางสุชญา อัมราลิขิต ผู้อำนวยการกองวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สผ. กล่าวว่า สำหรับประเด็นต่างๆ ที่มติคชก.พิจารณาอีไอเอแล้วไม่เห็นชอบนั้น มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องปรับปรุงมากกว่า 100 ข้อ เนื่องจากมีความไม่ชัดเจน ตั้งแต่รายละเอียดของโครงการ รวมทั้งการวิเคราะห์อีไอเอด้านต่างๆ โดยเฉพาะโรงเหล็กมีรายละเอียดเรื่องกระบวนการผลิต เช่น ลานกองเก็บวัตถุดิบ สายพานลำเลียงที่ผ่านชุมชน โรงเตาอบถ่านโค๊ก โรงไฟฟ้าในโครงการ และพื้นที่โครงการและที่ดิน การจัดการน้ำ และการประเมินน้ำหล่อเย็น การบำบัดน้ำเสีย การระบายน้ำจากโรงงาน ปัญหามลพิษทางอากาศ ระบบฝังกลบกากของเสีย น้ำใต้ดิน การประเมินผลกระ ทบทางเสียง ระบบนิเวศทางทะเล ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและ สุนทรียภาพ ผลกระทบทางด้านสาธารณสุข การสำรวจความคิดเห็นของผู้นำชุมชน การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ และให้เสนอมาตรการลดผลกระทบและติดตามตรวจสอบ
นอกจากนี้ยังให้เพิ่มประเด็น 8 ข้อย่อยเรื่องผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพของป่าพรุ 4 ข้อย่อย การให้รับความเห็นของกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ทั้งหมด 9 ข้อ เป็นต้น
"ในภาพรวมเท่ากับต้องกลับไปแก้ไขทำรายละเอียดใหม่ และตอนนี้ผ่านมากว่า 1 ปีแล้ว แต่ถืออีไอเอยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอน เพราะเป็นการปรับแก้ทางวิชาการ แต่หากเจ้าของโครงการส่งอีไอเอ กลับมาที่สผ.ก็ต้องพิจารณาภายใน 30 วัน ทั้งนี้หากดูองค์ประกอบ 3 ประการคือการวิเคราะห์อีไอเอถูกต้องหรือไม่ วิธีการประเมิน ผลกระทบแต่ละด้าน ข้อมูลข้อเท็จจริง และการนำเสนอมาตรการลดกระทบ ซึ่งหากยังเห็นว่าไม่สมบูรณ์อีกสามารถรีเจ็กอีไอเอได้ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าอีไอเอโรงถลุงเหล็ก อาจเป็นโครงการแรก ๆ ที่จะถูกพิจารณาโดยคชก.ชุดใหม่ที่เพิ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมตามม. 67 ของรัฐธรรมนูญตามที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้เห็นชอบไว้แล้ว และตอนนี้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกแต่งตั้งคชก.เพิมเติม" นางสุชญา กล่าว
ด้านนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดทส. กล่าวระหว่างการรับฟังข้อเรียกร้องของชาวบ้านบางสะพาน โดยเฉพาะกรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องให้เพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทปัญญา และธาราคอนซัลแตนท์ ที่รับทำอีเอโครงการโรงถลุงเหล็กเครือสหวิริยา เป็นเท็จ โดยรับปากว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว