รวบไอ้หื่นสวมรอยเป็นตำรวจ ลากสาวขึ้นรถกระบะ บังคับอมนกเขา ถ้าไม่ยอมจะยัดยาบ้า
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 พ.ต.ท.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.บรรจง พาโคตร ร.ต.อ.เวนิส ประเสริฐ ร.ต.อ.บรรเทิง ทัพโยธา รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้นำกำลังจับกุมนายธีระศักดิ์ อายุ 37 ปี ชาว จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานีที่ 101/2563 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2563
ข้อหา“พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้กลอุบาลหลอกลวงขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดหรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจ ต้องกระทำการนั้น หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” โดยจับกุมที่บ้านพัก จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ และรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา ไปโรงพักทำการสอบสวน
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 2 กรกฎาคม ร.ต.ท.สถาพร ก้อนสันทะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 24 ปี ชาว สปป.ลาว เล่าว่า หลังเลิกงานเมื่อคืนนี้ (1ก.ค.63) ขณะที่ตนกำลังยืนรอสามีที่จะมารับอยู่บริเวณหน้าร้านได้มีคนเมาเดินมาตนกลัวก็เลยเดินหนีไปหน้าร้านสะดวกซื้อห่างกันประมาณ 50 เมตร ซึ่งจังหวะเดียวกันมีคนร้ายเป็นชายขับรถปิกอัพ แต่จำยี่ห้อ สี และป้ายทะเบียนไม่ได้มาจอดแล้วถามตนว่าจะไปไหน ตนบอกว่ารอแฟนมารับกลับบ้าน ตนแต่งงานกับชายชาวอุดรธานีได้ 3 ปี และอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งตนทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านเนื้อย่างแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี
น.ส.เอ เล่าต่อว่า ได้มีชายเดินลงจากรถมาถามตนว่าบ้านอยู่ไหน พร้อมกับขอดูบัตรประชาชนตน แต่ตนไม่ให้ดู ชายคนนั้นอ้างว่าเป็นตำรวจสายตรวจเกี่ยวกับยาเสพติด และถามตนว่าเล่นยาหรือเปล่า จากนั้นก็ดึงแขนตนไปขึ้นรถ พร้อมกับยึดโทรศัพท์มือถือ แล้วบอกว่าจะนำไปส่งตำรวจที่ด่านตรวจ แต่พบว่าไม่มีด่านตรวจเลย และจากนั้นก็ขู่ว่าจะนำไปส่งโรงพัก แต่กลับพาขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงหนองน้ำสาธารณะแล้วก็จอดที่มืดและเปลี่ยว หลังจากนั้นชายคนนี้ก็หันมาลวนลาม กอด จูบ จับหน้าอก และพยายามถอดเสื้อผ้าตน แต่ตนไม่ยอม และดิ้นรนขัดขืน ชายคนนี้ได้ขู่อีกว่า หากตนไม่ยินยอมจะยัดยาบ้า 50 เม็ด
น.ส.เอ เล่าต่ออีกว่า พอตนไม่ยอมชายคนนี้ได้ลงจากรถมาเปิดประตูรถด้านที่ตนนั่ง แล้วปรับเบาะเอนลงนอน และขึ้นมาพยายามจะข่มขืน แต่ตนก็พยายามดิ้นขัดขืนพอเห็นตนไม่ยินยอม จึงบังคับให้ตนอมนกเขาแทน แต่ตนไม่ยอมทำให้ ชาบคนนี้จึงช่วยตัวเองจนสำเร็จความใคร่แทน ซึ่งตนก็อาศัยจังหวะที่คนร้ายเผลอรีบคว้าเอาโทรศัพท์แล้ววิ่งหลบหนีออกจากรถ แล้วโทรหาแม่สามีให้มารับกลับบ้าน และปรึกษาสามีกับญาติ จึงให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับชายดังกล่าว และนำไปชี้จุดที่ถูกคนร้ายฉุดขึ้นรถปิกอัพ ซึ่งตำรวจได้มาตรวจภาพวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อไปด้วย “ตนกลัวมากเพราะเห็นแต่ในข่าว กลัวว่าจะโดนข่มขืนแล้วฆ่า แต่ตนก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด ต่อไปหลังเลิกงานจะนั่งรอสามีอยู่ในร้าน ไม่ออกมายืนหน้าร้านรออีกแล้ว”
จากการสอบสวนนายธีระศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเป็นช่างเชื่อมแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขับรถปิ๊กอัพ โตโยต้า สีบรอนซ์เทา ไปซื้อของในตัวเมืองอุดรธานี และขับมาพบหญิงสาวยืนอยู่หน้าร้านอาหารคนเดียว และมองเห็นหญิงสาวได้เดินหนีคนเมา และข้ามถนนมายืนรอหน้าร้านสะดวกซื้อ จึงจอดรถแล้วด้วยความหวังเลยลงไปถาม หญิงสาวบอกว่ายืนรอสามีมารับ และถามว่าบ้านอยู่ไหนจะไปส่ง ตนจึงจูงมือให้พาหญิงสาวไปดูคนวิกลจริตไม่ได้ฉุดกระชากบังคับให้ไปด้วย ก่อนอาสาพาไปส่งบ้าน เมื่อมาถึงบริเวณหนองน้ำสาธารณะหญิงสาวบอกให้ตนจอดรถ แล้วจะเดินกลับบ้านเอง ซึ่งตนก็ได้แต่มองด้วยความเป็นห่วงจนลับสายตา
”ขณะนั่งอยู่ในรถหญิงสาว เล่าให้ฟังว่า โดนสามีทำร้ายมาตลอดไม่สนใจมารับมาส่ง ส่วนตนไม่ได้ลวนลามหรือล่วงเกิน กอดหรือจูบแต่อย่างใด หากตนลวนลามก็คงไม่หยุดแค่นั้น คงจะใช้ความรุนแรงบังคับข่มขืนไปแล้ว ตนยอมรับว่าหวังดีจะพาหญิงสาวไปส่งบ้าน แต่ไม่ได้บังคับข่มขืน หรือกระทำอนาจาร และไม่ได้อ้างตัวเป็นตำรวจแต่อย่างใด ตนรู้สึกตกใจเมื่อถูกตำรวจจับ”
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงควบคุมตัวนายธีระศักดิ์ ผู้ต้องหา นำส่ง ร.ต.ท.สถาพร ก้อนสันทะ สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป