UN ชี้ “ปัญหาความไม่เท่าเทียม” ของโลกถึง “จุดแตกหัก” แล้ว

UN ชี้ “ปัญหาความไม่เท่าเทียม” ของโลกถึง “จุดแตกหัก” แล้ว

UN ชี้ “ปัญหาความไม่เท่าเทียม” ของโลกถึง “จุดแตกหัก” แล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า โลกของเรากำลังอยู่ใน“จุดแตกหัก” และเรียกร้องให้สร้างธรรมาภิบาลโลก (Global Governance) รูปแบบใหม่ เพื่อจัดการกับปัญหาความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 โดยกูเตอร์เรสชี้ว่า การระบาดของโรคโควิด-19 “เชื่อมโยงกับการเปิดเผยโครงสร้างอันบอบบางของสังคมที่เราทุกคนสร้างขึ้น”

โควิด-19 กำลังเผยให้เห็นการหลอกลวงและความเท็จที่ปรากฏอยู่ในทุกหนทุกแห่ง เช่น คำโกหกที่ว่า ตลาดเสรีจะช่วยให้ทุกคนเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ หรือนิยายที่บอกว่า งานผู้ดูแลที่ไม่ได้รับเงินตอบแทนไม่ใช่งาน ไปจนถึงภาพลวงตาที่แสดงว่า เราอยู่ในโลกที่ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติอีกต่อไป และความเชื่อที่ว่า เราทุกคนอยู่บนเรือลำเดียวกัน” กูเตอร์เรสกล่าว

เขาระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียม มีทั้งการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบ มรดกของลัทธิอาณานิคม ระบบชายเป็นใหญ่ ช่องว่างการเข้าถึงเทคโนโลยี และความไม่เท่าเทียมเรื่องธรรมาภิบาลโลก ทั้งนี้ กูเตอร์เรสยังมองว่า การรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น “ต้องขึ้นอยู่กับสัญญาทางสังคมฉบับใหม่และข้อตกลงระดับโลก ที่จะช่วยสร้างโอกาสที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน รวมทั้งเคารพในสิทธิและเสรีภาพของทุกคน” ทั้งนี้ สัญญาและข้อตกลงใหม่นี้จะนำไปสู่ความร่วมมือที่เท่าเทียมและครอบคลุมในสถาบันต่าง ๆ ของโลก โลกาภิวัฒน์ที่มีความยุติธรรม น้ำเสียงที่หนักแน่นของประเทศกำลังพัฒนาในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ และระบบการแลกเปลี่ยนพหุภาคีที่สมดุลมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น กูเตอร์เรสยังกล่าวว่า ประเทศพัฒนาแล้วจดจ่ออยู่กับการลงทุนเพื่อความอยู่รอดของตัวเองเท่านั้น และ “ล้มเหลวที่จะให้การช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา ในช่วงเวลาที่แสนอันตราย” และสิ่งที่โลกต้องการมากที่สุดในตอนนี้ คือ “การคุ้มครองทางสังคม” ซึ่งรวมไปถึงการดูแลสุขภาพถ้วนหน้า และการจัดสรรรายได้ขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชน ขณะที่การใช้เงินเพื่อการศึกษาในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ ต้องมีจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นภายในปี 2030 เช่นเดียวกับปัญหาโลกร้อนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากให้กับสิ่งแวดล้อม รัฐบาลก็ควรเก็บภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ให้มากขึ้น แทนที่จะเรียกเก็บจากประชาชน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook