"ทนายษิทรา" แจ้งความ "อัจฉริยะ" ดูหมิ่นเหยียดหยามศพ แพร่ภาพร่างเปลือยน้องชมพู่

"ทนายษิทรา" แจ้งความ "อัจฉริยะ" ดูหมิ่นเหยียดหยามศพ แพร่ภาพร่างเปลือยน้องชมพู่

"ทนายษิทรา" แจ้งความ "อัจฉริยะ" ดูหมิ่นเหยียดหยามศพ แพร่ภาพร่างเปลือยน้องชมพู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์สดเปิดประเด็นว่า น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่ยังเสียชีวิตปริศนา ว่าอาจถูกทรมานจนช็อคเสียชีวิต พร้อมนำภาพถ่ายศพน้องชมพู่และผลทีมแพทย์มาวิเคราะห์

นายอัจฉริยะ เชื่อว่าน้องชมพู่ถูกทรมานอย่างสาหัส มีการตีลงโทษ ไม่เชื่อว่าเด็กจะหิวจนเป็นลมและเสียชีวิต โดยมีบาดแผลที่เห็นเชื่อว่าเกิดจากการตีอย่างหนักก่อนเสียชีวิต โดยอ้างผลแพทย์ระบุ พร้อมบอกมีรอยตีที่ก้น ขาและแขน จนเกิดการชักเกร็ง กำมือแน่น จากการกลัวสุดขีด ซึ่งถ้านอนตายเลือกจะตกที่แผ่นหลัง แต่น้องชมพู่มีเลือดตกที่ปลายขาทั้ง 2 ข้าง แสดงว่ามีคนอุ้มหลังจากเสียชีวิตไม่นาน ไปอำพรางศพบนเขา

ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า ร่องรอยบาดแผลที่นายอัจฉระยะออกมากล่าวอ้างว่าน้องชมพู่ถูกตี ยังเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานเท่านั้น เพราะผลชันสูตรระบุว่า รอยดังกล่าวเป็นรอยขีดข่วน ส่วนที่น้องชมพู่จะถูกตีจนเกิดอาการตกใจช็อกเสียชีวิต คงจะไม่สามารถพิสูจน์ได้

ล่าสุด (20 ก.ค.63) เมื่อเวลา 11.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม อายุ 39 ปี เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางมาที่ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อพบ ร.ต.อ. ทิวัตถ์พล ทวิชสังข์ศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กระทุ่มแบน  เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมจากการรับชมเพจตอนเปิดปมคดีน้องชมพู่ถูกทรมานจนช็อกเสียชีวิต ซึ่งมีการนำภาพศพมาเปิดเผยซึ่งเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามศพ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิป ภาพ มามอบให้พนักงานสอบสวน  

นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้มากล่าวโทษดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ ที่เมื่อคืนได้มีการไลฟ์สดในคดีของน้องชมพู่และก็มีการเอารูปของน้องชมพู่ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วและก็เป็นภาพที่เปลือยเอามาโพสต์เพื่อจะสร้างกระแสในโซเชียลซึ่งเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การที่เอาภาพมาเปิดเผยซึ่งภาพนี้เป็นหลักฐานจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะเอามาเรียกกระแสเรียกยอดไลค์ยอดแชร์ ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสำนวนไม่ได้ช่วยให้ตามจับคนร้ายได้เลย

ภาพและหลักฐานเป็นหลักฐานของทางนิติเวชซึ่งทางคุณหมอและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาได้มีเก็บไว้นานแล้วแต่ว่าเขาก็ไม่ได้เอามาเปิดเผยเพราะว่ามันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสังคมอะไรไม่ได้ช่วยให้จับผู้ต้องหาได้ วันนี้เลยต้องมีการปราม โดยมาดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ การที่เอาสำนวนสอบสวนมา เผยแพร่แบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มาดำเนินคดีในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในเรื่องของการเอาภาพเปลือยของน้องชมพู่ เอาไปโพสต์ลงในสื่อโซเชียลทำให้คนได้ดูภาพตรงนี้หลายแสนคนและในความผิดฐานเหยียดหยามศพโทษความผิดของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี

จริงๆ แล้วคดีของน้องชมพู่ มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เขาทำคดีมาตั้งนานแล้วคนที่ไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็อย่าไปทำให้สังคมวุ่นวายแล้วก็อย่าไปทำให้สำนวนมันยุ่งเหยิง มากกว่านี้ ก็อยากจะฝากคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอย่าให้เข้าไปรู้ถึงสำนวนการสอบสวนเพราะว่าสำนวนสอบสวนเป็นความลับ เราทำเพื่อที่จะหาคนทำผิดแต่บางคนทำเพื่อที่จะหากระแสเพื่อที่จะให้มีที่ยืนในสังคมเท่านั้นเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook