"ปราง กัญญ์ณรัณ" เผยความสำเร็จที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย และรักดีๆ ที่อยู่บนความเชื่อใจ
นับเป็นสาวสวยครบเครื่องที่เก่งทุกด้านจริงๆ สำหรับนางเอกสาวตามคม ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล หรือ "แม่หญิงจันทร์วาด" จากละครสุดฮอตในดวงใจ "บุพเพสันนิวาส" ที่เธอโชว์ฝีมือเอาไว้จนโด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง และล่าสุดเธอกลับมาอีกครั้งกับบทบาทที่ทำให้แฟนๆ ต้องยกนิ้วให้ในบท "ดาว" สาวสวย ปากกล้า สุดมั่นในละครเข้มข้น "เมียอาชีพ" ทางช่อง 3 ที่ฉายไปเพียงตอนแรกก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนละคร
งานนี้พลาดไม่ได้ sanook.com ขอคว้าตัวนางเอกสาวคนเก่งมาพูดคุยถึงผลงานชิ้นล่าสุดและเปิดใจถึงชีวิตในวงการที่ผ่านมา ที่ต้องบอกว่ากว่าจะถึงวันนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ
พร้อมด้วยค้นเรื่องราวหวานๆ ในหัวใจกับแฟนหนุ่ม โต้ง-พิทวัส พฤกษกิจ หรือ โต้ง ทูพี แร็ปเปอร์หนุ่มสุดฮอตว่าตอนนี้ความสัมพันธ์แฮปปี้กันขนาดไหน
ฟีดแบ็ก "เมียอาชีพ" ออกมาดีมาก รู้สึกยังไงบ้าง?
"ดีใจมากค่ะ เพราะพูดตรงๆ ก็ลุ้นมาตั้งนานว่าจะออกมาเป็นยังไง ท่านผู้ชมจะชอบไหม เพราะเริ่มมีฟีดแบ็กมาตั้งแต่เริ่มปล่อยโปรโมทเลย เราก็รู้สึกเกร็ง กลัวว่าละครออนมาแล้วจะถูกใจหรือเปล่า แต่พอออนแอร์ออกไปก็ได้รับการตอบรับที่ดีก็ดีใจมากๆ เลยค่ะ"
"ถามว่าปรางคาดหวังกับเรื่องนี้ไหม ปรางตื่นเต้นมากกว่าค่ะ เพราะเรื่องนี้เป็นละครคัมแบ็กของช่องหลังจากช่วงโควิด-19 ด้วย ก็ไม่คิดว่าช่องจะเลือกเรื่องนี้มาลงช่วงนี้ ก็ลุ้นเหมือนกันว่าคนดูเขาจะพร้อมหรือยังในเรื่องของสภาพจิตใจ แต่พอละครออนไปตอนแรกแล้วปรากฏว่าเรตติ้งและฟีดแบ็กกลับมาดีเลยปรางก็ดีใจมากค่ะ"
กระแสเข้ามาชมเรื่องความสวยของนางเอกเยอะมาก?
"ตามบทนางเอกเขามาจัดเต็มมาก ด้วยตัวละคร นางเอกเขาต้องเป็นคนสวยมาก เราเองก็แอบตื่นเต้นที่ว่าเราจะแสดงออกมาเป็นคนสวยขนาดนั้นได้ไหม เพราะในบทเขาต้องสวยมากจริงๆ ขนาดแค่ไปล้มใส่คนคนนึงเขายังมาชอบเราได้เลย (หัวเราะ) ตอนเราอ่านบทเราก็คิดนะว่าต้องเป็นสวยขนาดไหนถึงทำได้ขนาดนี้ แล้วเราแสดงออกไปจะสวยได้ขนาดนั้นมั้ย กลัวเล่นออกไปแล้วคนดูจะรู้สึกขัดๆ หรือเปล่า ดังนั้นตอนถ่ายทำก็เลยต้องตั้งใจเล่นให้เป็นคนสวยมากๆ (หัวเราะ)"
กับพระเอก "ไม้ วฤษฎิ์" เคมีก็ดีมากๆ
"เกินคาดเลยค่ะ เพราะเราสองคนไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน แถมก่อนถ่ายก็ไม่ได้เวิร์คช็อปกันเลย พอมาถึงฉากแรกต้องเลิฟซีนเลยค่ะ เราก็ค่อนข้างอึ้งว่าต้องเลิฟซีนตั้งแต่ซีนแรกเลยเหรอ หลังจากนั้นก็สนิทกันเลยค่ะ (หัวเราะ)
พลิกจากลุคสาวหวาน มาเป็นสาวมั่น ปากกล้า คนบอกว่าเข้ากับเรามากกว่าการเล่นบทเรียบร้อยเสียอีก?
"ละครเรื่องนี้จะค่อยๆ ลบภาพความเรียบร้อยของปรางเองค่ะ (หัวเราะ) ปรางเอ็นจอยกับการแสดงบทนี้มากเลยนะคะ บทมีอะไรให้เราเล่นเยอะมากและต้องทำการบ้านเยอะ คิดว่าคนน่าจะรอดูปรางได้รับบทแบบนี้มานานแล้ว เรื่องนี้คงตอบโจทย์คนที่รออยู่ และตอบโจทย์คนที่ชอบแนวนางเอกแบบใหม่ ที่ไม่ได้เจ้าน้ำตาแต่สู้คน ตลอดเวลาจะมีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าอยากเห็นปรางแสดงแนวนี้บ้าง เพราะส่วนมากจะได้แต่บทสาวเรียบร้อยๆ"
"ยังไงต้องฝากละครเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของนางเอกละครไทย รับรองว่าสนุกสนานเข้มข้น มีเรื่องให้ลุ้นแน่นอนค่ะ"
คนมักติดภาพปรางในลุคสาวเรียบร้อย จริงๆ ปรางเป็นสาวแบบไหน?
"จริงๆ ปรางไม่ใช่คนเรียบร้อยค่ะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดเป็นคนก๋ากั่น จัดจ้านอะไรขนาดนั้น แต่ด้วยความเป็นปรางเสียงก็จะเนิบๆ คนก็เลยคิดว่าเรียบร้อย แต่จริงๆ ปรางว่าปรางเป็นคนอัธยาศัย ค่อนข้างมองโลกในแง่ดี แต่ถ้าจะให้ระบุว่าเป็นแนวไหน หวาน น่ารัก สวย เท่ อะไรแบบนั้น ปรางว่าปรางน่าจะออกแนวเท่ๆ มากกว่าค่ะ"
อย่างเรื่องการแต่งตัวก็เซ็กซี่ไม่เบา ถึงขนาดมีคนตั้งกระทู้ถามว่าจริงๆ แล้วปรางเรียบร้อยหรือเป็นแนวเซ็กซี่กันแน่?
"ปรางเป็นคนเอ็นจอยกับการแต่งตัวค่ะ ปรางเป็นคนชอบแต่งตัวมาก (ลากเสียง) แต่จะไม่มีแบบหวานกระโปรงบาน หรือ เซ็กซี่แบบกระโปรงสั้นมากอะไรแบบนั้น จะออกแนวเซ็กซี่เท่ๆ มากกว่า แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็มาจากความชอบในการแต่งตัวแค่นั้นเลย"
"ถ้าถามคนใกล้ตัวปรางจะรู้เลยว่าจริงๆ ปรางไม่ใช่คนเซ็กซี่ ไม่ใช่ว่ามาเห็นเราแล้วเราทำท่าเซ็กซี่ตลอดเวลา (หัวเราะ) ตัวจริงไม่ได้เซ็กซี่แค่ชอบแต่งตัวค่ะ"
หากมองจากสายตาคนทั่วๆ ไป ตอนนี้ชีวิตปรางแฮปปี้มาก ความจริงเป็นแบบนั้นมั้ย?
"แฮปปี้ค่ะๆ อย่างเรื่องงานที่ผ่านมาก็มีโอกาสทำอะไรเยอะที่ไม่เคยทำ ทั้งการขึ้นคอนเสิร์ตพี่เบิร์ด ตอนนี้ก็ได้รับบทต่างๆ ที่ท้าทายเข้ามา ตั้งแต่บุพเพฯ ที่ตอนนั้นพีคมากๆ จนถึงตอนนี้ก็ 2 ปีแล้วแต่ก็ยังมีงานดีๆ เข้ามาเรื่อยๆ เราเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าเหมือนตอนนี้เราก็ยังเป็นแม่หญิงจันทร์วาดของทุกคนอยู่เลย"
"เรื่องครอบครัวก็แฮปปี้เพราะเราก็โตพอสมควรแล้ว ครอบครัวเราก็มีความสุข ธุรกิจก็โอเค ส่วนความรักก็แฮปปี้ไม่มีอะไรที่ต้องเครียดค่ะ"
ช่วงละคร บุพเพสันนิวาส เราพีคมาก เรากลัวไหมว่าต่อไปเราอาจจะไม่ได้พีคหรือประสบความสำเร็จแบบเดิม?
"ไม่กลัวหรอกค่ะ เพราะปรางรู้สึกว่าช่วงบุพเพฯ ตอนนั้นอาจจะเป็นจุดสูงสุดของเราแล้วก็ได้ ซึ่งปรางก็พอใจกับชีวิตตอนนี้แล้วด้วย ทุกวันนี้ก็เลยใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เราไม่ต้องเซ็ตเป้าหมายอะไร เพราะเราก็เคยผ่านจุดที่มันพีคๆ มาแล้ว และเราก็ไม่ได้เสียใจด้วยถ้าเราจะไมประสบความสำเร็จเท่าเดิม"
"ปรางมีความเชื่ออยู่ตลอดว่า ไม่มีใครอยู่จุดสูงสุดแบบนั้นตลอดไป พอมันผ่านจุดนั้นมาแล้วมันก็เหมือนว่าเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น หมายถึงว่าเราไม่ได้คาดหวังกับตัวเองจนมากเกินไปแต่เราเต็มที่กับงาน เพราะ ความสำเร็จมันสอนเราด้วยว่า สิ่งที่เราทำมาตั้งแต่แรก เหนื่อยมาตลอดชีวิตมันไม่เสียเปล่านะ มันทำให้เรามาถึงวันนี้ ถ้าไม่มีวันนั้นเราก็ไม่มีวันนี้นะ ทุกช่วงเวลามีคุณค่าค่ะ ถ้าวันนั้นที่เราไปดูถูกบทเล็กๆ เราก็อาจจะไม่ได้มาถึงจุดนี้ อย่าไปดูถูกโอกาส ถ้าเราตั้งใจจริงๆ วันหนึ่งที่โอกาสมาถึงเราทุกอย่างลงตัวเราก็อาจจะมีวันของเรา"
พูดได้มั้ยว่าเราเองก็ภูมิใจในการเดินทางของตัวเองบนเส้นทางนี้เหมือนกัน?
"ภูมิใจค่ะ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเราจะผ่านอะไรมาเยอะ มีเหนื่อยมีท้อ มีปัญหาในชีวิต มันไม่ได้ดั่งใจไปซะหมดทุกเรื่อง แต่ก็ภูมิใจมากๆ เลยในวันที่เรามาถึงจุดที่เราแฮปปี้ ปรางบอกน้องๆ ที่เข้ามาใหม่ๆ เสมอว่าขอให้ตั้งใจและเตรียมตัวเองให้พร้อมเสมอ เพราะเราจะได้พร้อมสำหรับโอกาสที่เข้ามา อย่างช่วงบุพเพฯ ดัง มีโอกาสได้ร้องเพลง ได้ขึ้นคอนเสิร์ต เล่นละครเวที"
"ถ้าวันนั้นที่คอนเสิร์ตพี่เบิร์ดติดต่อมาแล้วเราร้องเพลงไม่ได้ เราเต้นไม่ได้ หรือเล่นดนตรีอะไรไม่ได้เลยเราก็อาจจะพลาดโอกาสนั้นไปก็ได้ เพราะฉะนั้นปรางมองว่าสิ่งที่เราค่อยๆ สะสมมามันไม่ได้เสียหายหรอกค่ะ"
ก่อนจะประสบความสำเร็จก็ท้อมาหลายครั้ง?
"ก่อนหน้านี้ปรางไม่ใช่คนที่เก่งเรื่องแอคติ้งมากค่ะ พอเราทำออกมาแล้วผลงานไม่ดีเท่าที่ควรก็จะมีคำติชมเข้ามา มันก็กลายเป็นว่าเราท้อ มีคิดว่าเราจะถอยหรือจะยังไงต่อกับงานนี้ดี แต่ก็โชคดีที่เราคิดได้ว่าทำไมอย่างอื่นเราทำได้และนี่คืออาชีพนะ ทำให้เราเริ่มจริงจังกับมันมากขึ้นอีก พยามทำมันออกมาให้ดีที่สุดในแบบของเรา"
คิดอยากลาวงการบ้างไหม?
"ก็มีค่ะ เพราะต้องบอกว่า เราเองจบเกียรตินิยม มหิดลมา ถ้าเราไม่ทำงานตรงนี้เราก็ยังพอที่จะไปทำงานอื่นๆ ได้ แต่ด้วยความที่ว่าพอเรายิ่งทำงานเกี่ยวกับการแสดงไปมากๆ เรากลับยิ่งหลงรักอาชีพนี้มากๆ เลย มันอาจจะเป็นอาชีพที่เหมาะกับเราที่สุด เพราะปรางเป็นคนที่ชอบอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาชีพนี้ทำให้เราเจออะไรใหม่ๆ ตลอดเวลาจริงๆ"
"ถ้าเราไปทำอาชีพที่ต้องทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ เราอาจจะไม่ชอบก็ได้ ก็เลยหันมาสนใจงานแสดงให้มากขึ้น และก็ทำให้เราเห็นเสน่ห์ของงานตรงนี้มากขึ้นด้วย ก็เรียกว่าเกือบจะทิ้งงานตรงนี้ไปทำอย่างอื่นละ"
โดนวิจารณ์หนักๆ เรื่องอะไร?
"คำวิจารณ์เราเข้าใจว่ามีเป็นปกติอยู่แล้วค่ะ ก็ยอมรับว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ก็มีส่วนทำให้เราท้อ แต่โชคดีที่ไม่ใช่เรื่องข่าวอะไร แต่จะเป็นในเรื่องของคำวิจารณ์เรื่องการแสดง เรื่องที่บอกว่าเราไม่สวยเลย ก็เป็นบทเรียนหลายๆ อย่าง คอมเมนต์ที่เข้ามาปรางอ่านหมดแหละค่ะ ถามว่าเสียใจบ้างไหมก็มีเสียใจอยู่แล้ว เพราะเราเองก็ตั้งใจแต่ผลที่ออกมามันอาจจะยังไม่ได้ดีพอ หรือเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกคน แต่เราก็เก็บคำติชมมาปรับตลอด"
"พี่หน่อง อรุโณชา จะสอนเสมอว่า เราเลือกอ่านคอมเมนต์ดีๆ ได้แต่คอมเมนต์ที่เข้ามาวิจารณ์เราก็ต้องอ่านด้วยเพราะเราจะได้เก็บไว้เป็นเคสศึกษาและเพื่อปรับปรุงค่ะ เราเป็นคนของประชาชนการที่คนพูดถึงเราในทางต่างๆ มันต้องมีอยู่แล้ว แต่เราก็ผ่านมาได้ สมมติว่าในอนาคตจะโดนวิจารณ์อีกเราก้คิดว่าโอเค เรารับได้ค่ะ"
อีกเรื่องที่ถูกมองว่าดีมากๆ คือ ความรัก สำหรับปรางความสัมพันธ์กับ "โต้ง ทูพี" ตอนนี้ถือว่าแฮปปี้เลยไหม?
"แฮปปี้ค่ะ เราโตๆ กันแล้ว รู้จักกันมาเป็น 10 ปี และรู้จักกันดีเลย รู้ว่าการที่เขาทำแบบนั้นแบบนี้เป็นเพราะอะไร หรือ การที่เราทำอะไรบางอย่างเขาก็รู้ว่าเราทำเพราะอะไร แต่บางทีเราก็อาจจะทำอะไรไม่ดีต่อกันไปบ้าง เช่น หงุดหงิดอารมณ์เสียแต่แป๊บเดียวเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ตอนนี้เรากลายเป็นคนที่เข้าใจกันและกัน"
"ปรางก็เลยมองว่าต่อให้เราทำงานหนักแค่ไหนมันก็ไม่มีปัญหาเรื่องที่ว่าต้องมาเลิกกันเพราะไม่มีเวลาให้กัน กลายเป็นว่าเราเข้าใจในสิ่งที่แต่ละคนเป็นและมีความเชื่อใจกัน ไม่ต้องมานั่งตาม ไม่ต้องมานั่งคิดสงสัยกันและกัน"
แต่กว่าจะเข้าใจกันก็ล้มลุกคลุกคลานพอสมควรใช่ไหม?
"ใช่ๆ ต้องใช้เวลา ต้องบอกว่าเป็นเรื่องโชคดีในชีวิตเหมือนกันเพราะเราเองก็ไม่ได้คาดหวังเหมือนกันว่าจะเป็นแบบนี้ ทุกคู่ก็มีปัญหาเรื่องความรักกันหมด แต่ปรางรู้สึกว่าปรางโชคดีที่เราเจอคนที่เขาเข้าใจเราถึงแม้จะไม่ได้เข้าใจร้อยเปอร์เซ็นต์ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่มีทางที่จะเข้าใจกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว แต่ความรักของเราตอนนี้ไม่ได้มาเป็นปัญหาในชีวิตเราเลยค่ะ"
คนอาจจะมองว่าความเป็นแร็ปเปอร์ของเขาอาจจะทำให้สาวๆ เข้าหาเยอะ ปรางมองเรื่องนี้ยังไง?
"ปรางมองอีกมุมนึงค่ะ ปรางมองว่าเป็นเรื่องน่ารักๆ ปรางรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนมาชื่นชอบสิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับความไว้ใจที่เรามีให้กัน บางทีเขาอาจจะไม่ไว้ใจปรางก็ได้เพราะจริงๆ เขาเป็นคนขี้หึงมากกว่าปรางเยอะ สำหรับปรางเขาเป็นคนขี้หึงมากแต่โชคดีที่เราก็ดันมองว่าเป็นเรื่องน่ารัก เราไม่ได้ไปซีเรียสกับเขามากไง"
"เวลามีคนมาถามว่ารู้สึกยังไที่เขามีสาวๆ เข้าหาเยอะ เราก็บอกว่าเราเฉยๆ เราคุยกันอยู่แล้ว เวลาเขาทำอะไรเขาก็จะบอก แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนเราเด็กกว่านี้เราอาจจะหึงก็ได้ แต่ตอนนี้ปรางโตแล้วและเราก็รู้จักเขาดีค่ะ"
ที่บอกเขาขี้หึง ลองเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม?
"เขาเป็นคนดีเทลเยอะ ขี้สงสัยมากกว่าค่ะ เป็นคนมีคำถามในใจเยอะ เราอาจจะต้องตอบคำถามเขาละเอียดหน่อย คือ อย่างปรางเราจะถามแค่ไปไหน ไม่ได้มานั่งถามว่ามีใครไปบ้าง แต่เขาจะถามละเอียดกว่าเราเช่น ที่ไหน ยังไง กี่โมง อะไร คนนั้น คนนี้คือใคร ประมาณนั้น แต่ตัวปราง ปรางจะไม่ถามเลยเพราะปรางรู้สึกว่าเราก็ไม่ได้จำเป็นต้องรู้จักทุกคนในชีวิตเขาก็ได้ ปรางไม่ใช่คนที่จะมานั่งจู้จี้กกับใครในชีวิต ไม่ใช่เฉพาะกับเขานะคะทุกคนในชีวตปราเลย อาจจะเป็นเพราะเรามองโลกในแง่ดีด้วยค่ะ"
เห็นเป็นแร็ปเปอร์เขามีมุมน่ารักไหม?
"เขาเป็นคนน่ารักค่ะ แต่ปรางคิดว่าคงไม่มีใครรู้และคงไม่มีใครได้เห็นนอกจากปรางนี่แหละ (หัวเราะ) มีความมุ้งมิ้ง ใส่ใจรายละเอียด โรแมนติกและเป็นคนอบอุ่นค่ะ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ยอมแสดงออกสิ่งเหล่านี้ให้คนอื่นๆ เห็น ซึ่งปรางมีโอกาสได้เห็น เลยคิดว่าตรงนั้นที่เป็นเสน่ห์ของเขา"
อย่างที่ทราบกันว่าก่อนหน้านี้เราสองคนมีช่วงเบรกความสัมพันธ์ การกลับมาคบกันอีกครั้งวันนี้เรารู้สึกว่าตัดสินใจถูกใช่ไหม?
"ค่ะ เอาจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายกับการตัดสินใจที่จะกลับมา แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นซึ่งเราสัมผัสได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่เราไม่ต้องพยายาม มันไม่ได้หมายความว่าเรากลับมาเจอกันแล้วเราสามารถคลิกกันได้เลยในวันแรก แต่เราก็กลับมาเริ่มจากการเป็นเพื่อนกันก่อน"
อะไรที่ทำให้เรามั่นใจว่าเรากลับมาคบกันแล้วจะไม่ต้องเบรกความสัมพันธ์อีก?
"ปรางว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่ตอบยากนะคะ คือ เหมือนเรากลับมาคุยกันแล้วกลายเป็นว่าเรารู้สึกด้วยกันทั้งคู่ว่ามันไม่ต้องพยายามเหมือนเมื่อก่อนนะ เมื่อก่อนมันปรับจูนกันยากมาก ความรักที่มีให้กันน่ะมีแต่ว่าเรื่องความเข้ากันมันอาจจะเหนื่อยไป แต่เราแยกกันแต่ละคนไปผ่านอะไรกันมา พอกลับมาคุยกันอีกทีพบว่าคามรักยังมีให้กันอยู่ แต่เรื่องการปรับตัวเราไม่ต้องเหนื่อยกันแล้ว"
เราอยากแต่งงานหรือยัง?
"ยังค่ะ ตอนนี้อายุ 29 ปรางว่าปรางยังอยากเอ็นจอยกับการทำงานอยู่ เขาเองก็เหมือนกัน โชคดีที่เราคิดเหมือนกัน เราอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นอะไรที่เราแฮปปี้แล้ว"
เคยลองจิตนาการไหมว่าถ้าเราแต่งงานกันไปแล้วจะเป็นยังไง?
"ก็คงเป็นเหมือนตอนนี้แหละค่ะ เพราะตอนนี้เราก็เหมือนไม่ได้เป็นแค่แฟนกัน เราเป็นที่ปรึกษาคุยกันได้ทุกเรื่องเลย ต่อให้แต่งงานกันไปก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่แต่งนะคะ แต่งค่ะแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ (หัวเราะ)
เรียกว่าเรามั่นใจในตัวเขาแล้ว?
"มั่นใจค่ะในทุกๆ เรื่องค่ะ (ยิ้ม)"
ถ้ามีคนบอกว่าชีวิตปรางเพอร์เฟ็กต์จนน่าอิจฉา ปรางอยากบอกอะไรเขาไหม?
"ปรางว่าชีวิตทุกคนมีปัญหาหมดแหละค่ะ สุดท้ายแล้วสิ่งที่คนมองว่าปรางมีชีวิตที่ดีที่แฮปปี้มันเป็นเพราะเรามองโลกในแง่ดีมากกว่า ทำให้คนสัมผัสได้ว่าเรามีความสุข สำหรับปรางคนที่มองโลกในแง่ดีคือคนที่มีความสุขค่ะ"
นอกจากจะสวยภายนอกแล้วเรื่องหัวใจและความคิดของเธอยังสวยไม่ผิดหวังที่แฟนๆ ให้ใจไปเต็มๆ ยังไงแฟนๆ ของแม่หญิงจันทร์วาดก็อย่าลืมเฝ้าจอรอติดตามผลงานปัจจุบันและงานใหม่ๆ ของเธอกันเรื่อยๆ ยังมีอะไรเด็ดๆ ให้ชมอีกเพียบแน่นอน
อัลบั้มภาพ 55 ภาพ