ผู้ค้ายอมหั่นราคาน้ำมัน50-60สตางค์มีผล3ก.ย.

ผู้ค้ายอมหั่นราคาน้ำมัน50-60สตางค์มีผล3ก.ย.

ผู้ค้ายอมหั่นราคาน้ำมัน50-60สตางค์มีผล3ก.ย.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข่าวดีคนใช้น้ำมัน ผู้ค้าประกาศลดราคาเบนซิน 60 สตางค์ และดีเซล 50 สตางค์ หลังน้ำมันตลาดโลกลดลง มองตลาดยังคงผันผวน ด้านกรมธุรกิจพลังงานเผยจ่ายค่าชดเชยการลดราคาน้ำมันดีเซล 925 ล้านบาท

หลังจากราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มปรับลดลง ผู้ค้าน้ำมันได้ประกาศลดราคาขายปลีกน้ำมันในกลุ่มเบนซิน ยกเว้นอี 85 ลง 60 สตางค์ต่อลิตร และกลุ่มดีเซลลดลง 50 สตางค์ต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2552 ซึ่งการลดราคาครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือนเศษ หากไม่นับรวมการลดราคาของกลุ่มดีเซลที่เป็นผลจากรัฐบาลลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

นายสมชัย เตชะวณิช ผู้อำนวยการอาวุโสสายตลาดค้าปลีก บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลดราคาน้ำมันครั้งนี้เป็นผลมาจากตลาดโลกลดลง แต่ก็ถือว่ายังมีความผันผวนตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่หลายฝ่ายยังไม่แน่ใจว่าจะฟื้นในลักษณะรูปตัววี ซึ่งก่อนลดราคาขายในประเทศค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อยู่ที่ 2.20 บาทต่อลิตร สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยที่สถานีบริการน้ำมันมีกำไรในระดับเหมาะสมที่ 1.50-1.80 บาทต่อลิตร

บริษัท ไทยออยล์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน ราคาน้ำมันดิบตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 1.20 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 69.37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ในส่วนของเบนซินลดลง 1.64 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 78.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และดีเซล ลดลง 66 เซนต์ ปิดที่ 77.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ด้านนายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ผลจากการตรวจเช็กสต็อกน้ำมันคงเหลือ เพื่อคำนวณค่าชดเชยจากการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ในเบื้องต้นกรมธุรกิจพลังงานประมาณการจำนวนเงินที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องจ่ายชดเชยแก่ผู้ค้าน้ำมันและเจ้าของสถานีบริการประมาณ 925 ล้านบาท ซึ่งการลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 5 ปรับลดลง จำนวน 2.00 บาท และ 0.40 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2552 กระทรวงพลังงานจึงกำหนดให้มีการจ่ายเงินชดเชยผลขาดทุนให้แก่ผู้ค้าน้ำมันและเจ้าของสถานีบริการที่มีปริมาณน้ำมันคงเหลือที่ได้มาก่อนการปรับลดราคาขายปลีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook