Top 10 deadline day flop deals

Top 10 deadline day flop deals

Top 10 deadline day flop deals
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่มีใครที่จะสามารถล่วงรู้อนาคตได้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น  เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อมันผ่านพ้นเป็นวันพรุ่งนี้ไปแล้วเท่านั้น จากวันนี้กลายเป็นวันพรุ่งนี้ของวันนี้ จากวันนี้กลายเป็นวันนี้ของเมื่อวันวาน .... งง มั๊ยครับ! ... งง ผมก็งง เอาเป็นว่าท็อป 10 สัปดาห์นี้เต็มใจเสนอ 10 การทำสัญญาซื้อขายยอดแย่ที่เกิดขึ้นในเกาะอังกฤษช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนตลาดปิด ลองมาดูกันเล่นๆว่ามีใครกันบ้าง และเหมือนเช่นเคย...จงอย่าเชื่อกับลิสต์รายชื่อข้างล่างนี้ ทางที่ดีจงบอกท็อป 10 ในใจคุณให้เรารับรู้บ้างก็จะดีไม่น้อย
 
อันดับ 10. ฌอน มาโลนี่ย์ (เซลติก มา แอสตัน วิลล่า, 1ล้านปอนด์), 31 มกราคม 2007
มาโลนี่ย์ ย้ายมาอยู่กับแอสตัน วิลล่า ในยุคของกุนซือ มาร์ติน โอนีล หลังจากเจ้าตัวไม่สามารถเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับเซลติก ได้ลงตัว, ศูนย์หน้าเจ้าของส่วนสูง 5 ฟุต 7 นิ้วลงประเดิมสนามให้กับวิลล่า ในแมตช์ที่เอาชนะเรดดิ้ง 2-0 เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2007ก่อนที่จะมาทำประตูแรกให้กับวิลล่า ได้ในแมตช์ที่พบกับแมนฯซิตี้  28 เมษายน 2007, ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวย แต่ด้วยความคิดถึงบ้านทำให้มาโลนี่ย์ ฟอร์มตกและถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง และท้ายที่สุด, สิงหาคม ปี 2008 มาโลนี่ย์ ย้ายกลับไปอยู่กับ เซลติก สโมสรเดิม, กับวิลล่า มาโลนี่ย์ ลงเล่น 30 นัด ยิงได้ 5 ประตู
 
อันดับ 9. ฮอสซัม กาลี (เฟเยนูร์ด มา สเปอร์ส, 2ล้านปอนด์), 31 มกราคม 2006
ชื่อนี้ไม่เป็นที่ต้อนรับของแฟนบอลสเปอร์ส อีกเลยนับจากแมตช์ที่สเปอร์ส พบกับแบล็กเบิร์นฯ เมื่อ 10 พฤษภาคม 2007, กาลี ถูกเปลี่ยนตัวออก เขาแสดงอาการฉุนขาดถอดเสื้อสโมสรแล้วขว้างลงที่พื้นต่อหน้าแฟนบอลทั้งสนาม และถึงแม้ภายหลังเขาจะออกมากล่าวขอโทษ และหวังว่าแฟนบอลจะให้อภัย แต่เขากลับถูกตราหน้าว่า ไม่สมควรสวมชุดสเปอร์ส ด้วยซ้ำ, กาลี ลงสนามให้สเปอร์ส 21 เกม ทำได้ 2 ประตู
 
อันดับ 8. ริคาร์โด้ กวาเรสม่า (อินเตอร์ มิลาน มา เชลซี, ยืม), 2 กุมภาพันธ์ 2009

หลังจากเชลซี แต่งตั้งหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ โค้ชชาวบราซิเลี่ยน เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมเชลซี  กวาเรสม่า ถูกยืมตัวจากอินเตอร์ มิลาน เพื่อหวังมาสร้างฟุตบอลสไตล์สวยงามให้กับยอดทีมจากอังกฤษ อย่างไรก็ตามการมาแทนที่โดย กุส ฮิดดิ้งค์ ทำให้อนาคตของกวาเรสม่า ที่ยากอยู่แล้วกับการปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่, 4 เดือนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษกับ เชลซี กวาเรสม่า ได้รับโอกาสให้ลงสนามเพียง 4 นัดเท่านั้น
 
อันดับ 7. แอนดี้ ฟาน เดอร์ เมย์เด (อินเตอร์ มิลาน มา เอฟเวอร์ตัน, 2ล้านปอนด์) 31 สิงหาคม 2005

ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2002 นี่คือผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุด สมัยนั้นฟาน เดอร์ เมย์เด ค้าแข็งอยู่กับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เล่นเคียงข้างกับดาวเตะซูเปอร์สตาร์อย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, คริสเตียน คิวู และ อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด้ ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับอินเตอร์ มิลาน และต่อมาในปี 2005 ก็ย้ายมาร่วมทีม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน, อย่างไรก็ตาม ตลอด 4 ปีมานี้ ฟาน เดอร์ เมย์เด เป็นที่จดจำที่สุดสำหรับแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน ก็คือ แมตช์ที่เขาถูกไล่ออกจากสนามในเกมเมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์กับลิเวอร์พูล โดยไปทำฟาวล์ใส่ ชาบี อลอนโซ่ , หลังจากนั้นเขาก็ตกเป็นข่าวเสื่อมเสียกับอนาคตการค้าแข้งกับสโมสรเมื่อเขาฝ่าฝืนกฎระเบียบแอบไปดื่มสุราที่บาร์แห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล และนั่นทำให้เขาหมดอนาคตในถิ่นอีวู้ด พาร์ค และปัจจุบัน เขากลายเป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่เวลานี้
 
อันดับ 6. ฮูลิโอ บัปติสต้า (เรอัล มาดริด มา อาร์เซน่อล, ยืม), 31 สิงหาคม 2006
เจ้าของฉายา "เดอะ บีสท์" เป็นหนึ่งในเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนการทำสัญญายืมตัวระหว่างเรอัล มาดริด และอาร์เซน่อล โดยเรอัล มาดริด ปล่อยบัปติสต้า เพื่อแลกกับการที่อาร์เซน่อลยอมปล่อยตัว โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส อย่างไรก็ตาม เมื่อเรอัล มาดริด ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญาถาวรกับเรเยส อาร์เซน่อล ก็ชวดคว้าตัวบัปติสต้า มาแบบถาวรเช่นกัน ซึ่งเจ้ายักษ์เองก็ต้องการการการันตีอนาคตจากสโมสร "ปืนใหญ่" เช่นกัน แต่ในที่สุดอาร์แซน เวนเกอร์ ตัดสินใจไม่ซื้อขาด ส่งผลให้บัปติสต้า ต้องกลับเรอัล มาดริด ตามเดิม บัปติสต้า ลงสนามให้อาร์เซน่อล 35 เกม ยิงได้ 10 ประตู
 
อันดับ 5. เบนจานี่ (พอร์ทสมัธ มา แมนฯซิตี้, 3.75ล้านปอนด์), 31 มกราคม 2008
ศูนย์หน้าทีมชาติซิมบับเว ย้ายมาร่วมทีมพอร์ทสมัธ และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของสโมสรและแฟนบอล อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถยกระดับตัวเองไปได้ไกลกว่านั้น จนกระทั่งมีโอกาสได้ย้ายมาร่วมทีมแมนฯซิตี้ ในยุคของกุนซือ สเวน โกรัน อิริคสสัน อย่างไรก็ตามเพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ต้นขา ทำให้ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา เขาลงสนามให้กับแมนฯซิตี้ แค่เพียง 21 นัดเท่านั้น ปัจจุบันไม่มีตำแหน่งตัวจริงในสโมสร และกำลังเจรจาหาต้นสังกัดใหม่อยู่
 
อันดับ 4. ปาสกาล ชิมบงด้า ( วีแกน มา สเปอร์ส, 4.5ล้านปอนด์), 31 สิงหาคม 2006
ถ้าจะเลือกผู้เล่นต่างชาติซักคนที่รอบรู้และมีประสบการณ์ในฟุตบอลในอังกฤษโชกโชนที่สุด ชิมบงด้า คือคนๆนั้น, นี่คือผู้เล่นจอมพเนจรที่สุด 4 ฤดูกาลกับการย้ายทีม 4 สโมสรในพรีเมียร์ชิพ และหลังจากเมื่อคืนวานที่ตลาดนักเตะปิดลง สถานีต่อไปของชิมบงด้า ก็มาถึงจนได้ เมื่อเขาย้ายไปร่วมทีมแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ซึ่งนับเป็นสโมสรในพรีเมียร์ชิพสโมสรที่ 4 และเป็นการย้ายทีมครั้งที่ 5 ของเขานับจากปี 2006-ปัจจุบัน
 
อันดับ 3. ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ( สเปอร์ส มา แมนฯยู, 31ล้านปอนด์ ), 1 กันยายน 2008
ออกสตาร์ตในสีเสื้อของ "ปีศาจแดง" ได้อย่างสวยหรูด้วยการลงเล่นในแมตช์แดงเดือดกับลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ โดยเป็นผู้จ่ายถวายพานให้คาร์ลอส เตเวซ ทำประตูขึ้นนำได้ด้วย อย่างไรตามตลอดทั้งฤดูกาลของเขา ไม่พีคเหมือนสมัยค้าแข้งอยู่กับสเปอร์ส ที่นั่นเบอร์บาตอฟ เป็นกำลังหลักในแนวรุกที่ทั้งยิงทั้งจ่ายให้กับทีม แต่กับแมนฯยู เขาถูกรัศมีของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเวย์น รูนี่ย์ บดบังจนโชว์ฟอร์มได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยเฉพาะช็อตที่ติดตาแฟนบอลแมนฯยู จนทุกวันนี้ก็คือ ลูกจุดโทษที่เขาพลาดในเกมรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพกับเอฟเวอร์ตัน เมื่อปีที่แล้ว นั่นทำให้หลายฝ่ายมองว่าเม็ดเงินจำนวน 31 ล้านปอนด์ที่เสียไปนั้น ไม่คุ้มเลยกับสิ่งที่ได้มา
 
อันดับ 2. โรมัน พาฟลูเชนโก้ ( สปาร์ตัค มอสโกว์ มา สเปอร์ส, 15 ล้านปอนด์), 1 กันยายน 2008
ถูกคาดหมายว่าจะมาแทนที่ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ โชว์ฟอร์มให้กับทีมชาติรัสเซียในศึกยูโร 2008 ได้อย่างยอดเยี่ยม จนก้าวขึ้นไปติดผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นท์ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ค่าตัว 15 ล้านปอนด์นั้น แฟนบอลสเปอร์ส ไม่ต้องการเห็นเขายิงแค่ 5 ประตูจากการลงสนาม 30 เกมแน่
 
อันดับ 1. อฟองโซ่ อัลเวส ( ฮีเรนวีน มา มิดเดิ้ลสโบรช์, 13ล้านปอนด์), 31 มกราคม 2008
ดาวเตะบราซิเลี่ยนผู้นี้เป็นผู้เล่นที่มิดเดิ้ลสโบรช์คว้าตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวอันเป็นสถิติของสโมสร แต่กับ 4 ประตูในพรีเมียร์ชิพที่เขาทำได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วให้กับมิดเดิ้ลสโบรช์ ก็เป็นเหตุผลเพียงพอแล้วที่ทำให้ "เดอะ โบโร่" ลงไปเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนส์ ชิพ อังกฤษอยู่เวลานี้

 

ฮันนิบาล
 
 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook