ป.ป.ช.ชี้มูล "7 วัดดัง" เอี่ยวทุจริตเงินทอนวัด 27.5 ล้าน อดีต ผอ.สำนักพุทธโดนอ่วม
วานนี้ (22 ก.ค.63) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล โฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยถึง กรณีการชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กรณีทุจริตการเบิกจ่ายเงิน งบประมาณอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัด (คดีเงินทอนวัด)
โดยร่วมกันจัดให้มีการเบิกจ่ายเงินให้แก่วัด ทั้ง 7 วัด ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด และเมื่อมีการเบิกจ่ายเงินให้กับวัดไปแล้ว บางวัดมีการติดต่อขอเงินบางส่วนคืนหรือขอคืนทั้งหมด แล้วนำไปเป็นประโยชน์ส่วนตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต ดังนี้
1. วัดช้าง ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี งบประมาณประจำปี 2558 จำนวน 4,200,000 บาท
โดยชี้มูลความผิดนายพนม ศรศิลป์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ น.ส.ประนอม คงพิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน และนายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ มีมูลความผิดทางอาญา และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 มาตรา 157 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ประกอบมาตรา 83 มาตรา 91 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง นายพยงค์ สีเหลือง นายช่างโยธา มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
2. วัดดอนสะท้อน ,วัดท้องตมใหญ่ ,วัดเล็บกระรอก อ.สวี จ.ชุมพร รวม 3 วัด งบประมาณประจำปื 2559 จำนวนวัดละ 2,000,000 บาท รวมจำนวน 6,000,00 บาท
โดยชี้มูลความผิดนายพนม ศรศิลป์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายชยพล พงษ์สีดา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ น.ส.ประนอม คงพิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายฉัตรชัย ชูเชื้อ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวการกองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และนายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกลุ่มบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ กองพุทธศาสนสถาน มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/ 1 ประกอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง พระครูกิตติพัชรคุณ หรือนายสมเกียรติ ขันทอง เจ้าคณะอำเภอชนแดน เจ้าอาวาสวัดลาดแค อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ พระครูนิวิฐสีลวัตร เจ้าอาวาสวัดท้องตมใหญ่ อ.สวี จ.ชุมพร มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
3. วัดพร้าวโสภณาราม ต.นครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา งบประมาณประจำปี 2557 และปี 2558 จำนวน 6,000,000 บาท
โดยชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายพนม ศรศิลป์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ น.ส.ประนอม คงพิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน และนายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และพระราชบัญญัติประกอบการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
4. วัดราชสิทธารามราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร งบประมาณประจำปี 2556 และปี 2557จำนวน 6,300,000 บาท
โดยชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ น.ส.ประนอม คงพิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ เมื่อครั้งตำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ มีมูลเป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง นางวรัญญา เพชรัตน์ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
5. วัดถาวรวราราม ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี งบประมาณประจำปี 2557 จำนวน 5,000,000 บาท
โดยชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นางสาวประนอม คงพิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน และนายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ มีมูลความผิดอาญา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง