นักวิจัยจีน หนีเข้าสถานกงสุลซานฟรานซิสโก หลัง FBI ล่าตัว เพราะพบปกปิดสัมพันธ์กองทัพจีน
นางสาวถัง จวน นักวิจัยด้านชีววิทยาสัญชาติจีน หลบหนีเข้าไปในสถานกงสุลจีน ในนครซานฟรานซิสโกของสหรัฐ วันนี้ (23 ก.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐพบว่าปกปิดความสัมพันธ์ระหว่างตนกับกองทัพจีน เพื่อขอวีซ่าเข้ามายังสหรัฐ
เอฟบีไอ ระบุว่า นักวิจัยรายนี้ทำการวิจัยอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเดวิส โดยระบุในเอกสารขอวีซ่าแบบ J-1 ว่าตนไม่เคยเข้าทำงานในกองทัพ และระหว่างการสอบสวนก็พบรูปของนักวิจัยรายนี้สวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่เสนาธิการฝ่ายพลเรือนของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ทั้งยังพบว่าได้รับการบรรจุให้เป็นนักวิจัยของมหาวิทยาลัยการแพทย์ทหารกองทัพอากาศจีน (มหาวิทยาลัยแพทย์ทหารที่ 4)
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. เจ้าหน้าที่เอฟบีไอก็สอบสวนนักวิจัยรายนี้อีกครั้ง ซึ่งนางสาวถังบอกว่าตนไม่ได้ทำงานให้กับกองทัพจีน และอ้างว่าตนไม่รู้ว่าเครื่องยศที่ติดอยู่บนเครื่องแบบหมายความว่าอย่างไร เพราะเป็นยูนิฟอร์มที่ต้องใส่ไปที่มหาวิทยาลัย
เอฟบีไอ ระบุอีกว่าหลังจากนั้นหน่วยงานก็ขอหมายค้นที่พักของนางสาวถังโดยด่วน และพบหลักฐานเพิ่มเติมที่เชื่อได้ว่านางสาวถังมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพปลดแอกประชาชนจีน
"เอฟบีไอประเมินว่า ณ จุดหนึ่งหลังการบุกค้นและสัมภาษณ์นางสาวถังเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2563 นางสาวถังหลบหนีไปยังสถานกงสุลจีนในนครซานฟรานซิสโก ซึ่งเอฟบีไอคาดว่าเธอยังคงอยู่ในนั้นจนถึงตอนนี้" เอฟบีไอ ระบุ
การเปิดเผยนี้เกิดขึ้นหลังจากกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐออกคำสั่งให้จีนปิดสถานกงสุลในนครฮูสตัน รัฐเท็กซัส ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐแย่ลง ซึ่งยังไม่รวมกับความขัดแย้งจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ปัญหาด้านการค้า ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน ปรเด็นเกี่ยวกับฮ่องกง และการเข้ายึดครองทะเลจีนใต้ของจีน