ย้อนคดี "บอส อยู่วิทยา" ผ่าน 8 ปี คดีทยอยหมดอายุความ จนถึงวันสั่งไม่ฟ้อง-ถอนหมายจับ

ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2555 คดีดังที่ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก คือเหตุการณ์ชนแล้วหนี บนถนนสุขุมวิท เมื่อกลางดึกวันที่ 5 กันยายน 2555 คู่กรณีฝ่ายหนึ่งเป็นทายาทตระกูลดัง เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังเจ้าใหญ่ ซิ่งรถเฟอรารี่หรูชนรถจักรยานยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตในเครื่องแบบ จนถึงวันนี้ คดีที่ล่วงเลยมาเกือบ 8 ปีเต็ม ก็ถึงเวลาสิ้นสุดลง ด้วยบทสรุปที่ว่า “บอส วรยุทธ อยู่วิทยา” พ้นผิดทุกกรณี กว่าจะมาถึงวันนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง วันนี้ Sanook News ขอพาทุกท่านไปย้อนดูกันอีกครั้ง

• ย้อนความอุบัติเหตุสลด ซิ่งเฟอร์รารี่ชนตำรวจตาย เครื่องหมายดาบยังติดอยู่ที่รถ

ดาบตำรวจ วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจสายตรวจ สน.ทองหล่อ ถูกรถหรูพุ่งชนด้วยความเร็วสูง ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ตราโล่อยู่บนถนนสุขุมวิท ในที่เกิดเหตุพบร่างของดาบวิเชียร อยู่ห่างจากรถจักรยานยนต์ของตัวเอง ไกลถึง 200 เมตร แสดงให้เห็นว่าคู่กรณีชนลากร่างไปไกล โดยไม่คิดจะหยุดรถลงมาดูแม้แต่น้อย

ตำรวจแกะรอยตามคราบน้ำมัน ไปจนเจอว่ารถหรูคันที่ขับชนดาบวิเชียร ขับเข้าไปในคฤหาสน์ เนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 53 บ้านของ “เฉลิม อยู่วิทยา” เจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง ร้อนถึง “บิ๊กแจ๊ด” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในเวลานั้น นำกำลังถึง 2 กองร้อยล้อมบ้าน พร้อมลั่นวาจา “ถ้าไม่ได้ตัวคนผิด จะขอลาออก” กระทั่งได้หมายค้นเข้าตรวจสอบ จึงพบ รถเฟอร์รารี่ รุ่นพินินฟาริน่า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ญญ 1111 กรุงเทพมหานคร มีร่องรอยการเฉี่ยวชนอย่างรุนแรง กันชนหน้ารถพังยับเยิน ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่า เครื่องหมายยศดาบตำรวจของดาบวิเชียร ยังติดคากระจกรถหรูอยู่เลย

• พ่อบ้านรับผิดแทน ตำรวจกดดันจนเจ้าตัวยอมมอบตัว

ในเวลาต่อมา สารวัตรปราบปราม สน.ทองหล่อมีความพยายามนำตัว “นายสุเวศ” พ่อบ้านตระกูลอยู่วิทยามามอบตัว อ้างว่าเป็นคนขับรถชนตำรวจในวันดังกล่าว ค้านกับคำให้การของพยานหลายปากในที่เกิดเหตุ รวมทั้งนายสุเวศยังไม่มีร่องรอยจากอุบัติเหตุใดๆบนร่างกาย สุดท้ายเจ้าตัวรับสารภาพว่ามารับผิดแทนลูกของเจ้านาย เพราะสำนึกในบุญคุณของตระกูลอยู่วิทยา

ท้ายที่สุด บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา ลูกชายวัย 27 ปี ของ เฉลิม อยู่วิทยา ก็ยอมมามอบตัว พร้อมรับสารภาพว่าเป็นคนขับเฟอร์รารี่ชนดาบวิเชียร แต่ไม่มีเจตนาหลบหนี เพียงแค่ตกใจจึงขับรถกลับบ้านไปตั้งหลัก แม้ผลตรวจร่างกายจะพบแอลกอฮอล์ แต่เจ้าตัวก็อ้างว่าดื่มหลังจากประสบอุบัติเหตุแล้วเพราะเครียด

• คดีทยอยหมดอายุความ

ผ่านมาราว 4 ปี ตำรวจจึงสรุปสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง บอส อยู่วิทยา ใน 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ข้อหาขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย ขณะที่ข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถูกปล่อยให้หมดอายุความไปตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2556 ก่อนที่ในเวลาต่อมา ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน ซึ่งมีอายุความ 5 ปี ก็หมดอายุตามไปในวันที่ 3 ก.ย. 2560

•  ส่งทนายเลื่อนนัดถึง 7 ครั้ง

นับตั้งแต่อัยการเตรียมสั่งฟ้องคดีต่อศาล บอส อยู่วิทยา ส่งทนายขอเลื่อนพบอัยการถึง 7 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2559 ด้วยเหตุผลว่าติดภารกิจที่ต่างประเทศ กระทั่งวันที่ 27 เม.ย. 2560 อัยการสูงสุด ออกหมายเรียกให้ บอส อยู่วิทยา เข้ารับทราบข้อกล่าวหา คดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นข้อหาเดียวที่เหลืออยู่ เป็นครั้งที่ 8 พร้อมยื่นคำขาดว่าหากไม่มา จะออกหมายจับทันที ซึ่งก็เป็นไปตามคาด คือเจ้าตัวไม่มาตามนัด นำไปสู่การออกหมายจับในเวลาต่อมา

• ป.ป.ช.ชี้มูล ตำรวจ 7 นาย ผิดฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ แต่มี 2 นายเกษียณไปแล้ว

เดือนกรกฎาคม 2559 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แทงสำนวนให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีของบอส อยู่วิทยา ทั้งหมด 10 นาย ในความผิดฐานช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาไม่ถูกดำเนินคดี กระทั่ง เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมานี้เอง ที่ ป.ป.ช.มีมติ ชี้มูลความผิดตำรวจ 7 นาย ใน “ความผิดไม่ร้ายแรง” ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ซึ่งตำรวจ 2 จาก 7 นายนี้ เกษียณอายุราชการไปแล้ว

•  คดีถึงที่สุด “บอส” พ้นผิดทุกกรณี หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง ตำรวจไม่ค้าน

และท้ายที่สุด คดีนี้กลับมาอยู่กลางสปอตไลท์อีกครั้ง เมื่อสื่อนอกอย่าง CNN เป็นที่แรกที่ตีข่าว ว่า บอส อยู่วิทยา พ้นผิดทุกกรณี หลังอัยการสูงสุด “สั่งไม่ฟ้อง” ในทุกข้อกล่าวหา เรื่องดังกล่าวได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการในวันนี้ (24 ก.ค.63) เมื่อ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงยืนยันว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดสั่งไม่ฟ้อง เมื่อคณะกรรมการตำรวจพิจารณากับฝ่ายกฎหมายแล้ว ก็เห็นพ้องตามอัยการสั่งไม่ฟ้องด้วย ส่วนเหตุผลไม่สามารถเปิดเผยได้  ทำให้คดีนี้ถึงที่สุด และหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินการถอนหมายจับ บอส อยู่วิทยา ทั้งในไทย ประสานตำรวจสากลถอนหมายจับสากลอินเตอร์โพล

นั่นหมายความว่า บอส อยู่วิทยา กลายเป็นผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งและสามารถกลับเข้าประเทศได้ตามปกติ