ไม่ได้ขโมยแค่หนังสือบุด! อาวุธโบราณหายไปอีกเพียบ เตรียมออกหมายจับคนใน 3 ราย

ไม่ได้ขโมยแค่หนังสือบุด! อาวุธโบราณหายไปอีกเพียบ เตรียมออกหมายจับคนใน 3 ราย

ไม่ได้ขโมยแค่หนังสือบุด! อาวุธโบราณหายไปอีกเพียบ เตรียมออกหมายจับคนใน 3 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ความคืบหน้าในการติดตาม "หนังสือบุด" จำนวนหลายร้อยเล่มที่ถูกโจรกรรมครั้งใหญ่จากศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะสงฆ์ศูนย์รับบิณฑบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อยนครศรีธรรมราช ที่ถูกส่งมอบจากผู้ครอบครอบจากจังหวัดขอนแก่นและเพชรบุรี ซึ่ง ได้ซื้อไปจากกลุ่มผู้ก่อเหตุและผู้ขายที่เกี่ยวข้องกับโจรกรรม โดยคณะสงฆ์ได้ร่วมกันอนุโมทนากับกุศลให้การส่งคืน

พระครูเหมเจติยาภิบาล พระสงฆ์ผู้ประสานงานศูนย์รับบิณฑบาต ได้เปิดกล่องใหญ่พบเป็นหนังสือบุดเล่มสำคัญคือ “พระมาลัย” วัดท่าโพธิ์วรวิหาร พระอารามหลวงอายุกว่า 200 ปี โดยมีพระราชญาณมุณี เจ้าอาวาสวัดท่าโพธิ์วรวิหารเข้าร่วมตรวจสอบ และแสดงเจตจำนงขอรับหนังสือบุดของวัดท่าโพธิ์กลับไปอยู่ในความครอบครองของวัด และที่ผ่านมานับตั้งแต่เป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี 2508 ไม่ทราบว่าสมบัติตกทอดของวัดชิ้นนี้ไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชได้อย่างไร และถูกนำไปเมื่อไหร่

โดยการรวบรวมจำนวนหนังสือบุดจากผู้ที่ส่งมอบให้กับศูนย์รับบิณฑบาตหนังสือบุดสมุดข่อยในวันนี้แบ่งออกเป็น หนังสือบุดขาว หนังสือบุดดำ หนังสือบุดตีนช้าง รวมทั้งสิ้น 54 เล่ม นอกจากนั้น พันตำรวจโทจรินทร์ ขาวเอี่ยม รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้นำหนังสือบุดที่ตรวจยึดได้จากบ้านของผู้ต้องหารายแรกที่ถูกจับได้ รวมทั้งการสอบสวนเครือข่ายที่ตามยึดคืนรวมทั้งมีการส่งคืนอีก 37 เล่ม และพบว่านอกจากหนังสือบุด ยังมีดาบโบราณอายุกว่า 400 ปี เป็นชวา ดาบญี่ปุ่น และดาบไทยรวม 7 เล่ม ที่ถูกโจรกรรมจากศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไปด้วย โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดกลับมาได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันรูปพรรณว่าเป็นสมบัติของมหาวิทยาลัยราชภัฎ

พลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่าในส่วนของคดีนั้นชัดเจนว่าลักทรัพย์รับของโจร ส่วนผู้ที่ลักทรัพย์นั้นอยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ยืนยันว่าต้องการผู้ที่ก่อเหตุตัวจริง แต่เรื่องที่คำนึงถึงในขณะนี้คือพยายามที่จะติดตามทำอย่างไรให้ได้ของกลับคืนมา เร่งรัดเรื่องนี้ให้ได้เร็วที่สุดผู้ที่ครอบครองนั้นจากการสืบสวนเชื่อว่าผู้ที่ครอบครองซื้อไปไม่ทราบว่าได้ไปโดยมิชอบ อยากเรียกร้องให้ส่งกลับคืนมา

นอกจากนั้นพลตำรวจตรีสนธิชัย ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายหลังว่าผู้ที่อยู่ในข่ายออกหมายจับในขณะนี้อาจมีถึง 3 ราย เป็นคนในทั้งหมด แต่ทั้งนี้ยังไม่เร่งรีบในการดำเนินการในขณะนี้ขอให้มีการรวบรวมพยานหลักฐานให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด

ส่วนจำนวนการครอบครองหนังสือบุดของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ยังไม่สามารถตอบคำถามถึงตัวเลขการครอบครองที่ชัดเจนได้ว่าทั้งหมดมีอยู่กี่พันเล่ม โดยนายสมผอง รักษาธรรม รักษาการอธิการบดี เปิดเผยว่าจะเร่งกลับไปดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จโดยเร็วรวมทั้งการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งบอกได้ว่าทิศทางของการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปในทิศทางเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างไรก็ตามตัวเลขความเสียหายที่ถูกรายงานโดยนายธีรวัฒน์ ช่างสาน ผู้อำนวยกานศูนย์ศิลปวัฒนธรรม ได้รายงานตัวเลขหนังสือบุดสูญหายไปทั้งหมด 309 เล่ม แบ่งจากตู้โชว์ใหญ่ 3 เล่ม ตู้โชว์นอกอีก 1 เล่ม และอยู่ในตู้จัดเก็บอีก 305 เล่ม โดยไม่ได้มีการรายงานจำนวนทั้งหมด และไม่ได้รายงานจำนวนอาวุธโบราณที่สูญหาย โดยอาวุธที่ยึดได้นั้นพบภายหลังว่าเป็นของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ที่ถูกโจรกรรมไปเช่นเดียวกัน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook