หนุ่มถูกทวงหนี้ที่ไม่ได้ก่อ ผูกคอตายกลางสุสาน นายจ้างเผยปมสลดเพื่อนหักหลัง
ชายวัย 35 ปี เครียดจากถูกตามหนี้นอกระบบที่ไม่ได้ก่อ หลังให้เพื่อนยืมบัตร ATM ไปกู้เงินแล้วไม่ยอมใช้หนี้ ตัดสินใจผูกคอตัวเองดับชีวิตตัวเองไว้สุสาน
เมื่อเวลา 10.30 น. (25 ก.ค. 63) พ.ต.ต.นธิป ธงไธสงค์ สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านบึง พร้อมหน่วยกู้ภัยศีลธรรม สมาคมบ้านบึง เข้าตรวจสอบภายในป่ากลางสุสานสุขาวดี หมู่ 5 ตำบลหนองซ้ำซาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี มีคนผูกคอตายกับต้นไม้ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ในสภาพถอดเสื้อ สวมกางเกงขายาว ได้ใช้เสื้อของตัวเองผูกคอกับต้นไม้ ที่มีความสูงประมาณ 2 เมตร ทราบชื่อต่อมา คือนายเอกพล อายุ 35 ปี ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุยังพบกระเป๋าสีดำ รองเท้า วางอยู่ และยังพบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ โดยที่มีหมวกนิรภัยอยู่ในน้ำ คาดว่าเป็นของผู้ตายจึงเก็บไปเป็นหลักฐาน ซึ่งไม่พบร่อยรอยการต่อสู้ กู้ภัยได้ช่วยกันนำร่างลงมาก่อนนำไปชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัด
จากการนายกฤษฎา อายุ 45 ปี ซึ่งได้เป็นคนมาดูศพ และโทรศัพท์แจ้งตำรวจ เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานลูกน้องได้มาหาปลา แล้วมาเจอคนผูกคอตาย ซึ่งตนเห็นว่าเริ่มจะค่ำแล้วอีกทั้งทั้งยังไม่แน่ใจ จึงให้พามาดูในช่วงเช้าและมาเจอกับทางคนรดน้ำสุสานจึงชวนมาดูด้วยกัน โดยมาถึงเจอรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ก่อน และมองเข้าไปได้พบว่ามีคนผูกคอตายจริงจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที
ด้านทางนายกิตติพงษ์ อายุ 43 ปี เป็นนายจ้างของผู้ตาย ที่ได้ว่าจ้างให้นำควายมาเลี้ยง เปิดเผยว่า เคยได้ยินผู้ตายบ่นเรื่องหนี้สินแต่ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่ก็พอทราบมาว่าได้มีเพื่อนยืมเอาบัตร ATM ไปกู้เงินนอกระบบ แล้วไม่ยอมจ่ายจนถูกตามทวง จึงได้ขอลางานไปตามหาเพื่อน โดยไปตามหา 3 วันแล้ว พอมารู้อีกทีก็กลายเป็นศพ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการส่งศพไปชันสูตร เพื่อรับทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด ว่ามีการฆ่าตัวเองจริงหรือไม่ เพราะเกรงว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรมอำพรางคดี พร้อมจะได้เรียกทางญาติของผู้ตาย มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนจะให้นำศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป