ผงะ จระเข้โผล่เขาใหญ่ อุทยานฯติดป้ายเตือนนักท่องเที่ยว
อุทยาน แจงทราบนานแล้วว่ามีอยู่ แต่ตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก ตั้งทีมตามล่าด่วน วิเคราะห์สายพันธุ์ อาจต้องเคลื่อนย้าย ขอร้องหากพบอย่าทำร้ายถือเป็นสัตว์หายาก
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กรณี มีการส่งฟอร์เวิดเมล์ เผยแพร่ภาพนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเล่นน้ำที่ น้ำตกเหวสุวัต เส้นทางเดินป่าผากล้วยไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สามารถถ่ายภาพจระเข้ขนาดใหญ่มีความยาวเกือบ 2 เมตร นอนนิ่งอยู่บนลานหินในบริเวณใกล้ๆ กับจุดท่องเที่ยวดังกล่าว ว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้รับแจ้งว่ามีคนเคยพบจระเข้มาแล้ว แต่ขณะนั้นตัวยังไม่โตมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ก็ได้ออกติดตามดูพฤติกรรมมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามจากที่ตนดูจากภาพถ่ายที่ได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์ พบว่าจระเข้มีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นมากและอาจจะเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ เบื้องต้นจึงได้สั่งการให้จัดทำป้ายเตือนอันตรายที่อาจจะเกิดจากจระเข้ไปติดตามจุดต่างๆ ในบริเวณที่พบจระเข้ ให้มากขึ้น รวมทั้งสั่งการด่วนให้ตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อตามล่าจระเข้ ที่เชื่อว่ามีอยู่ 2 ตัว ให้ได้โดยเร็ว
"หากได้ตัวมาแล้วเราก็คงจะนำไปตรวจดีเอ็นเอ ดูว่า จระเข้ที่พบนี้เป็นจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทย (Siamese Crocodile) ตามธรรมชาติหรือไม่ ถ้าหากเป็นพันธุ์แท้ ก็แสดงว่ามันจะต้องมีพ่อแม่ ซึ่งคงต้องคุยกับนักวิจัยว่า จะทำอย่างไร ซึ่งอาจจะต้องเคลื่อนย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่มีจระเข้น้ำจืดอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้มี 2 ที่ คือที่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา และ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ส่วนกรณีที่สองเมื่อตรวจสอบดีเอ็นเอแล้วพบว่าไม่ใช่จระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทย ก็จะต้องนำออกมา ซึ่งถ้าไม่ใช่พันธุ์น้ำจืดธรรมชาติ ก็เชื่อได้ว่าจะต้องมีคนนำไปปล่อยเอาไว้ อย่างไรก็ตามก็ขอเตือนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเที่ยวในบริเวณนี้ ขอให้ระมัดระวัง อย่าเข้าไปใกล้หรือไปทำร้าย ไปแหย่ มันเพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพยายามติดตามอยู่ ตอนนี้ผมสั่งให้ทีมติดตามออกเดินหาตั้งแต่ผากล้วยไม้ตลอดลำน้ำไปจนถึงลำตะคอง" นายเกษมสันต์กล่าว
ด้านนายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ภาพดังกล่าวเป็นจระเข้ที่พบในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนใหญ่จะพบว่ามันขึ้นมานอนผึ่งแดดอยู่ที่บริเวณลำน้ำตะคอง และลานกางเตนท์ผากล้วยไม้อยู่เป็นประจำ ในช่วงที่แดดอ่อนๆ อากาศดีๆ ขณะนี้ทางอุทยานเขาใหญ่ ได้ทำป้ายติดประกาศเตือนให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังจระเข้คู่นี้ไว้ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณที่พบจระเข้บ่อยๆ โดยติดไว้ห่างจากฝั่งไม่เกิน 100 เมตร รวมทั้งแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงไปเล่นน้ำในจุดดังกล่าวด้วย
"ขอความร่วมมือหากพบจระเข้ทั้งสองตัว ขออย่าได้ทำร้ายมันเพราะนอกจากที่จะเป็นสัตว์ดุร้ายที่อาจจะได้รับอันตรายแล้ว ถ้าหาก จระเข้คู่นี้เป็นสายพันธุ์ไทยแท้ก็จะนับว่าเป็นสัตว์ที่หายากในปัจจุบัน ที่ผ่านมาพบว่ามีจระเข้พันธุ์ไทยแท้อยู่ที่ อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอุทยานแห่งชาติปางสีดาเท่านั้น" นายมาโนชกล่าว