สั่งย้าย-แจ้งข้อหา ตำรวจปืนโหดยิงลุงเมาคลั่ง ยันให้ความเป็นธรรมสองฝ่าย
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2563 พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง ผกก.สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยความคืบหน้า เกี่ยวกับคดีตำรวจเข้าระงับเหตุชายเมาคุ้มคลั่ง จนมีการทำร้ายร่างกายและ ชายเมาสุราถูกยิงเสียชีวิต ในพื้นที่ บ้านค้อ ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2563
- ลุงเมาคลั่งฟันตำรวจถูกวิสามัญดับคาที่ ญาติร้องทำเกินกว่าเหตุ ทำไมต้องซ้ำถึงตาย?
- พี่สาวชายคลั่งแจ้งความเอาผิดตำรวจปืนโหด กำนันลั่นลูกบ้านต้องไม่ตายฟรี
ล่าสุดเกี่ยวกับการดำเนินคดี ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ให้สอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอน ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นในส่วนของญาติผู้ตายได้ นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดี กับ ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา อายุ 58 ปี รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ โดยทางพนักงานสอบสวนได้รับเป็นคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาไว้เบื้องต้น คือ กระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งทางตำรวจนายดังกล่าวรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ยังต้องรอสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากยังอยู่ช่วงการฟักฟื้นรักษาตัวจากบาดเจ็บถูกผู้ตายฟันศีรษะ ในส่วนของพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้ว สามารถปล่อยตัวชั่วคราว ไม่ต้องส่งฝากขัง รอขั้นตอนการสอบสวน นอกจากนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการประจำ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินคดี
พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินคดีแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือ ญาติผู้ตายแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับตำรวจ ซึ่งจะต้องรอกระบวนการการสอบสวน รวมถึงรอการส่งศพผู้ตายไปชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ซึ่งในส่วนของความผิดอื่นๆ จะต้องรอสรุปพยานหลักฐานสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ รวมถึงประเด็นว่า เจตนาฆ่าหรือไม่ รวมถึงกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ จะต้องรอขั้นตอนการสอบสวน เพียงแจ้งข้อหาเบื้องต้นตามพยานหลักฐาน
ในส่วนที่ 2 ทางตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาสำหรับผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย ในความผิด 2 ข้อหา คือ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยมีหรือใช้อาวุธมีด และข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ เพราะมีพยานหลักฐาน ผู้ตายใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
และส่วนที่ 3 ทางตำรวจจะได้เข้าไปพูดคุยวางแนวทางการดูแลเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายในส่วนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ตำรวจจะต้องดูแล ไม่ว่าจะผิดหรือถูก เพราะเกิดความสูญเสีย โดยทางตำรวจยืนยันขอให้ประชาชน มั่นใจในการทำงานของตำรวจเกี่ยวกับการดำเนินคดี เพราะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ถึงแม้คู่กรณีจะเป็นตำรวจหรือชาวบ้าน จะต้องมีมาตรฐานในการดำเนินคดีเช่นกัน ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอย่างแน่นอน หากพยานหลักฐานสรุปว่าตำรวจกระทำผิด จะต้องได้รับโทษเช่นกัน ซึ่งต้องรอขั้นตอนการดำเนินคดี ขอให้มั่นใจตำรวจทำงานเต็มที่ตรงไปตรงมา