อภิสิทธิ์โต้เดือดเฉลิมตอบกระทู้คลิปมีเปรียบเป็นหมา
ส.ส.ประท้วงกันวุ่นวาย หลังจาก ร.ต.อ.เฉลิม ยื่นกระทู้ถามสดเรื่องคลิปเสียงอภิสิทธิ์ ประธานในที่ประชุมไม่อนุญาตให้เปิด
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นกระทู้ถามสด เรื่องคลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ระบุลักษณะสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่าคลิปเสียงนี้มีการตัดต่อ โดยตัดส่วนอื่นที่ไม่ใช่คำพูดของนายอภิสิทธิ์ออกไป แล้วมีส่วนหนึ่งเป็นคำพูดของคนอื่นมาคั่นกลาง จากนั้นนำคำพูดของนายอภิสิทธิ์มาเชื่อมต่อ ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ขอเปิดคลิปเสียงในที่ประชุมสภา แต่นายสามารถ ไม่อนุญาต เนื่องจากนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา กำชับมาแล้ว
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม จึงอ่านเนื้อหาในคลิป ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนลุกขึ้นประท้วงว่า ผิดข้อบังคับการประชุม ที่ห้ามนำเอกสารมาอ่านในที่ประชุม และห้ามนำข้อความเท็จ ใส่ร้ายผู้อื่นมากล่าว แต่นายสามารถอนุญาตให้อ่านต่อ ทำให้มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงจำนวนมาก และถูกส.ส.เพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงกลับเป็นการตอบโต้ ทั้งนี้ นายสามารถ ประธานที่ประชุม พยายามเร่งรัดให้ ร.ต.อ.เฉลิม ตั้งคำถามเพื่อให้นายกรัฐมนตรี ตอบคำถาม
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า ที่มีการโต้แย้งว่าจะให้สภาฯเปิดคลิปเสียงหรือไม่เปิดนั้น ขอทำความเข้าใจว่าไม่มีอะไรน่าเกรงกลัว แต่สภาฯนี้ต้องมีบรรทัดฐาน หากเสียงดังกล่าวมีการพิสูจน์ว่าเป็นเท็จแล้วใช้ประโยชน์ทางการเมืองก็เป็นเรื่องที่แย่อยู่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองเป็นเรื่องที่แย่มากกว่า และเมื่อพิสูจน์เบื้องต้นเป็นเท็จก็เป็นการสมคบทำร้ายประเทศชาติบ้านเมือง ที่จะตอบคือตนได้ฟังข้อความทั้งหมด 3 นาที 28 วินาที
ยืนยันว่ามีข้อความหลายตอนเป็นเสียงตน แต่ไม่สามารถยืนยันเป็นเสียงตนทั้งหมดหรือไม่ และถ้าฟังและวิเคราะห์ตรวจสอบข้อเท็จจริง จะทราบจุดมุ่งหมายของคนทำคลิปนี้มีจุดมุ่งหมายอะไร และเสียงที่ยืนยันได้คือส่วนใหญ่เป็นเสียงที่ตนที่ไปออกรายการเชื่อมั่นประเทศไทยวันที่ 19 และ 26 เม.ย. และมีทีมงานของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยอยู่ด้วย ส่วนผู้ติดตามวอล์เปเปอร์มีหรือไม่ จำไม่ได้
ที่บอกว่าตัดมา 6 ช่วงเฉพาะไม่มีตนนั้นไม่ใช่ เป็นเท็จ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเอาคำพูดของตนในสองรายการหลักมาเรียบเรียงใหม่ เนื้อหาสาระไม่ใช่อยู่แล้ว และกังวลข้อความที่อ่านที่ขอให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบในการชุมนุม ซึ่งคำพูดว่าใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบเป็นเสียงตน ซึ่งพูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย วันที่ 26 เม.ย. 2552 นาทีที่ 3 วินาทีที่ 28 ตนพูดต่อเนื่องว่าทุกมาตรการที่ใช้ 1.ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ 2 .พึ่งหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ แต่คนทำคลิปนี้ตัดข้อความที่ว่าพึ่งหลักเหลี่ยงออก เป็นการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ซึ่งทางวิทยาศาสตร์พูดสองครั้งมันจะไม่เหมือนกันแบบนี้ เห็นว่าคนที่ทำจงใจบิดเบือนและจงใจให้เป็นเรื่องเท็จจงใจใส่ร้ายและเข้าใจผิดในตัวตนเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย อย่างถ้อยคำที่บอกว่าให้ปิดสถานีวิทยุโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง ตนได้พูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยวันที่ 19 เม.ย. ซึ่งตนพูดว่าทราบดีว่าจะไปปิดสถานีวิทยุโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง แต่มีการตัดออกให้เหลือแค่ปิดสถานี ดังนั้นจบเพียงแค่นี้และตนจะตอบแค่นี้ อย่าให้ไร้สาระไปมากกว่านี้จะผิดข้อบังคับ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เหตุที่ตนและพรรคเพื่อไทยไม่เชื่อถือในการพิสูจน์หลักฐานเพราะที่รัฐบาลอ้างว่ามีการตรวจสอบเทปดังกล่าวทางวิทยาศาสตร์แล้ว แล้วมีการตัดต่อโดยอ้างว่า พ.ต.ท.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นักวิทยาศาสตร์(สบ 3) ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบแล้ว ที่ฝ่ายค้านไม่เชื่อเพราะคนที่เชี่ยวชาญต้องขึ้นทะเบียนกับศาล แต่จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และ พ.ต.ท.วิวัฒน์ ทางกระทรวงวิทยาศาตร์แต่งตั้งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ จบปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอกด้านฟิสิกส์ แต่ไม่เคยขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกองพิสูจน์หลักฐาน
ส่วน คุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ จบนิติวิทยาศาสตร์ มีความน่าเชื่อถือว่าด้านการชันสูตรพลิกศพ แล้วมาตรวจเทปตนจะเชื่อได้หรือ ส่วนรมต.ไอซีทีบอกว่าส่งเทปเจ้าปัญหาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแล้วส่งให้ใคร ตนไปตรวจสอบพบว่าส่งไปให้บริษัทกันตนา ซึ่งเขาเชี่ยวชาญด้านละคร แบบนี้จะเชื่อได้อย่างไร แล้วส่งไปที่ดีเอสไอ กรมนี้ตนเขียนยกร่างก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร บอกว่าตนไม่เคารพผู้เชี่ยวชาญ แต่จริง ๆ ไม่ได้ตรวจโดยผู้เชียวชาญ เพราะการตรวจสอบของผู้เชียวชาญต้องใช้คำว่าอาจเชื่อได้ว่าไม่ใช่ฟันธงแบบนี้ แบบนี้มันเป็นการอุ้มรัฐบาล อยากให้พูดตรงไปตรงมาข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
"หมอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทป กันตนาเชี่ยวชาญด้านละคร พ.ต.ท.วิวัฒน์ ก็ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญ แล้วแบบนี้ให้ฝ่ายค้านเชื่อได้อย่างไร การอัดเทปครั้งนี้ผมเชื่อว่าเป็นการลักลอบอัดเทป แล้วอาจเดินไปเดินมาทำให้เสียงคลื่นไม่ตรงกัน แล้วเรื่องนี้ข่าวออกมาตอนไหนก็ออกมาตอนช่วงอภิสิทธิ์ขัดแย้งกับหน่อยงานความมั่นคง เรื่องตั้งผบ.ตร. เนื้อหาในเทปพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความสงบและพูดหลังประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งการยึดสถานีมีจริง การสลายการชุมนุมก็มี ซึ่งพูดอะไรก็มีหมด แล้วหากฟังก็เป็นเสียงของคนคนเดียวและน่าเชื่อว่าคำพูดทั้งหมดเป็นของนายกฯ ดังนั้นนายกฯเอา 19 เม.ย. และ 26 เม.ย.เอามาแล้วชี้แจง ผมกล่าวหาท่านบอกว่าเป็นเสียงของท่าน ก็ต้องพิสูจน์ว่าตัดต่ออย่างไร อย่าไปเชื่อกองพิสูจน์หลักฐาน คนส่งไปตรวจสอบเป็นคนของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศจึงส่งไปตรวจเร็วมาเร็ว และหากถอดเทปถอยคำไม่กระโดด" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า ตนทนฟังการตั้งกระทู้ของร.ต.อ.เฉลิมมาและเกรงเสียหายต่อสภาฯจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ เกิดการประท้วงเพราะไม่ดำเนินการตามข้อบังคับ ซึ่งตามข้อบังคับที่ 143 มีการพูดเสียดสีอยู่ตลอด และ( 5 )เป็นการออกความเห็น ซึ่งผิด( 6 ) ดังนั้นจึงไม่เข้าข่ายกระทู้ถามสดและการตั้งกระทู้ดังกล่าวจะสร้างความเสียหายให้กับท่านเอง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวตอบโต้ว่า จะเสียหายตนเสียหายเอง และถามว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน ต้องถามเรื่องนี้แน่นอน แล้วที่บอกว่าเป็นของปลอมแล้วของจริงอยู่ไหน เอาออกมา ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ทางการเมืองเรียกว่าขี้ขลาดตาขาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงทันที และให้เรียกร้องให้ ร.ต.อ.เฉลิม ถอนคำพูดว่าขี้ขลาดตาขาว แต่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ตนบอกว่าพฤติกรรมแบบนี้ของรัฐบาลเรียกว่าขี้ขลาดตาขาว
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า มีกระบวนการขัดขวางไม่ให้อภิปราย เกรงความจริงจะปรากฏ นายอภิสิทธิ์ บอกว่าอันนี้ของปลอมของจริงอยู่ไหน บอกว่าเทปนี้ตัดแล้วที่ไม่ตัดอยู่ไหน ตนรู้ถามอย่างไรไม่ชนะแต่ตนต้องการให้สังคมไทยได้รับทราบพฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ จึงถามว่าภายหลังจากที่เทปซีดีเผยแพร่สู่ประชาชน แล้วนายกฯบอกว่าตัดต่อเทปจริงๆอยู่ที่ไหนตัดต่ออย่างไรบ้าง ขอให้ชี้แจงให้ละเอียด
นายกฯ ชี้แจงว่า เวทีกระทู้ถามต้องมีปฏิสัมพันธ์พอสมควรและคำถามทั้งหมดตนตอบไปหมดแล้วแต่ก็จะตอบอีกที ส่วนที่กล่าวหาว่าไม่มีคณะกรรมการตรวจสอบนั้น จริงๆแล้วมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งมี 3 คน และตนบอกชัดเจนถ้อยคำเป็นปัญหายืนยันว่าส่วนใหญ่มาจากการพูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยวันที่ 19 และ 26 เม.ย. ทั้งหมดชัดเจนว่ามีการตัดคำว่าไม่ออกแล้วไปต่อบ้าง ซึ่งตนก็อยากทราบว่าต้องการอะไร แล้วให้คิดว่าเป็นปัญหาพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง ตนอยากคิดว่าถ้าเชื่อว่าเป็นเสียงตนจริง ๆ กล้าประกาศไหมว่าเป็นเสียงตนจริง พูดที่ไหน เมื่อไหร่ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถ้ามีคนไปเอาเสียงร.ต.อ.เฉลิมพูดว่า ถ้าแบบนี้ผมก็เป็นหมา แล้วไปตัดคำว่าเป็นหมาจะทำอย่างไร ซึ่งคลิปเสียงที่พยายามทำให้เกิดความสับสนบ้านเมืองว่านายกฯพยายามวางแผนให้เกิดความวุ่นวายเป็นเรื่องไร้สาระจริงๆและตนจะให้ผู้เกี่ยวข้องเผยแพร่ตนฉบับว่าเป็นอย่างไร เพราะมีหลายช่วงในคลิปดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงคำถามที่สาม ร.ต.อ.เฉลิม ได้พยายามที่จะอ่านคำถอดเทปอีกครั้ง ซึ่ง นายบุญยอด ได้ประท้วงตลอดเวลา ทำให้ประธานในที่ประชุมต้องขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม ถามคำถามสุดท้าย
ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถ้าพวกตนทำเทปนี้อย่างที่ฝ่ายรัฐบาลหลายคนเข้าใจ จะมีถ้อยคำเหล่านี้ได้อย่างไร ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ได้พยายามอ่านถ้อยคำ ส่วนส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ได้ประท้วงจนทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายไม่ได้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า พวกตนมีสติปัญญาพอ ถ้าพวกตนทำเทปพวกนี้มาจะไปด่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯทำไม จึงอยากถามว่า คลิปเทปนายอภิสิทธิ์ตัดต่อตรงไหน
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวชี้แจงว่า ตนตอบเรื่องนี้มาสองรอบแล้ว แล้วที่บอกว่าถ้าพวกท่านทำคลิปนี้จะไปพาดพิงทักษิณทำไม ซึ่งตนก็แค่บอกว่าคนที่ทำคลิปนี้ต้องการให้เกิดความเข้าใจว่าตนไปใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายของการอภิปรายของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่กำลังตอบโต้กับ นายอภิสิทธิ์ ปรากฏว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ตะโกนสวนมาว่า เมื่อไหร่จะตั้งคำถามเสียที อภิปรายวกวน ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม หยุดอภิปรายและหันไปมองต้นเสียงทันที พร้อมเรียกร้องให้ประธานวินิจฉัยว่าพฤติกรรมแบบนี้เรียกว่าอย่างไร ซึ่งภายหลังเสียงของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็มีเสียงจากลุ่มส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า "เลว"