ทิ้งสร้างบ้าน แม่โดมแจ้งจับ

บ.รับเหมาหนีเฉย เหยื่ออื้อ50ล้าน แม่นักร้องหนุ่มหล่อขั้นเทพ โดม ปกรณ์ ลัม แจ้งกอง ปราบฯจับบ.รับสร้างบ้าน รับเงินแล้วทิ้งงานจนต้องไปจ้างเจ้าอื่นมาทำต่อหมดเงินไปอีกหลายล้าน เผยมาพร้อมเจ้าทุกข์อื่นๆรวม 11 ราย

ระบุเจอโฆษณาและเห็นออกบูธใหญ่โตในงานที่เมืองทองธานี และมีของแถมอีกมากมายตกลงทำสัญญาสร้างบ้านราคาเกือบ 6 ล้านบาท โดยบริษัทเบิกเงินเป็นงวดๆกว่า 5 ล้าน แต่สร้างบ้านแค่ครึ่งเดียวก็หายไปดื้อๆ ติดต่อก็บ่ายเบี่ยง ทั้งรู้ว่ามีเหยื่อรายอื่นๆ โดนแบบเดียวกันอีกกว่า 10 ราย รวมเป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท ตัดสินใจรวมตัวแจ้งความ ตร.ตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนเร่งตามผู้รับผิดชอบมาสอบสวน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่กองปราบปราม นางรัตนาภรณ์ คูภิรมย์ อายุ 54 ปี มารดานักร้อง-พระเอกชื่อดัง"โดม"ปกรณ์ ลัม อยู่บ้านเลขที่ 122 ถ.เกษตร-นวมินทร์ แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. พร้อมผู้เสียหายอีก 11 คน เข้าพบพ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาท รองผบก.ป. เพื่อเข้าร้องเรียนกรณีบริษัท ควีนเฮาส์ จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านไม่ทำตามสัญญา หลังจากจ่ายเงินค่าจ้างไปแล้วทิ้งงานไม่เสร็จตามที่ตกลงกันไว้

นางรัตนาภรณ์ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนและผู้เสียหายรายอื่นเห็นโฆษณาของบริษัทรับสร้างบ้านดังกล่าว ทั้งจากทางนิตยสารต่างๆ ร่วมทั้งไปเจอบูธของบริษัทภายในงานแสดงบ้านและสวนที่เมืองทองธานี โดยบริษัทแห่งนี้โฆษณาว่ารับสร้างบ้านราคาไม่สูง ออกแบบบ้านฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แถมอุปกรณ์ต่างๆ ฟรีหลายรายการ เช่น เครื่องปรับอากาศ ประตูบ้านปิดเปิดอัตโนมัติ ถังน้ำสแตนเลส กล้องวงจรปิด

"จนเมื่อ เดือนม.ค.2550 ตัดสินใจว่าจ้างบริษัทแห่งนี้ปลูกสร้างบ้าน 2 ชั้น เนื้อที่ 300 ตร.ว. ภายในซอยประเสริฐมนูกิจ ถ.เกษตร-นวมินทร์ ร่วมค่าก่อสร้างทั้งวัสดุและค่าแรงเป็นเงิน 5.98 ล้านบาท สัญญาที่ทำต้องจ่ายค่าจ้างก่อสร้างเป็นงวดๆ ทั้งหมด 11 งวด รวมเวลาก่อสร้าง 1 ปี หลังจากเซ็นสัญญางานก่อสร้างก็เริ่มขึ้น จนจ่ายค่าก่อสร้างไปได้ 9 งวด คิดเป็นเงิน 5.5 ล้านบาท การก่อสร้างผ่านไปได้ประมาณ 50% ทางบริษัทได้ทิ้งงานไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ตนต้องไปว่าจ้างบริษัทอื่นมาก่อสร้างต่อจนแล้วเสร็จ ต้องเสียเงินไปอีก 3 ล้านบาท" นางรัตนาภรณ์กล่าว

มารดานักร้องหนุ่ม เจ้าของฉายา "หล่อขั้นเทพ" กล่าวอีกว่าหลังจากที่บริษัททิ้งงานก็พยายามติดต่อกับนางมุกดา บุญหมั่น เจ้าของบริษัทมาตลอด แต่ถูกบ่ายเบี่ยงและไม่ได้รับความร่วมมือ และระหว่างติดตามอยู่นั้นพบเพื่อนร่วมชะตากรรมอีก 11 ราย ซึ่งถูกกระทำคล้ายๆ กัน คือจ้างให้สร้างบ้านระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป และจ่ายเงินไปเกือบครบ แต่บ้านก็สร้างไม่เสร็จ รวมเงินค่าเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท จึงตัดสินใจรวมตัวกันมาร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม เพื่อนำเจ้าของบริษัทมาดำเนินคดี

หลังรับแจ้งพ.ต.อ.สุพิศาลสั่งการพ. ต.ต.จตุพร งามสุวิชชากุล พนักงานสอบสวนกองปราบฯรับแจ้งความไว้ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และประสานไปยังบริษัทที่ถูกกล่าวหาให้มาพบเพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อ เจรจากับเจ้าทุกข์