Sanook คลุกข่าวเช้า 30 ก.ค. 63 พี่น้องอยู่วิทยาจี้ บอส ขอโทษสังคม-นาจิบ ราซัก จ่ออุทธรณ์โทษคดี 1MDB

Sanook คลุกข่าวเช้า 30 ก.ค. 63 พี่น้องอยู่วิทยาจี้ บอส ขอโทษสังคม-นาจิบ ราซัก จ่ออุทธรณ์โทษคดี 1MDB

Sanook คลุกข่าวเช้า 30 ก.ค. 63 พี่น้องอยู่วิทยาจี้ บอส ขอโทษสังคม-นาจิบ ราซัก จ่ออุทธรณ์โทษคดี 1MDB
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อรุณสวัสดิ์ค่าทุกคน พบกับ Sanook คลุกข่าวเช้าประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม 2563 เผลอแป๊บเดียวก็จะสิ้นเดือนกรกฎาคมแล้วเวลาช่างผ่านไปเร็วเสียจริงๆ เอาล่ะ ในวันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะนำประเด็นข่าวสุดร้องแรงมาอัปเดตกัน แน่นอนว่าเรื่องร้อนๆ ในตอนนี้ก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องคดีดังเมื่อปี 2555 อย่าง บอส อยู่วิทยา ที่ล่าสุดพี่น้องตระกูลอยู่วิทยาเขียนจดหมายเปิดผนึกขอให้เจ้าตัวเร่งรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปกดลำโพงอัปเดตข่าวสารกันได้เลย

พี่น้องอยู่วิทยา ขอโทษสังคม เร่ง "บอส" รับผิดชอบ ลั่นครั้งนี้กระแสหนักเกินแบกรับไหว!

พี่น้องตระกูลอยู่วิทยา ร่อนจำหมายเปิดผนึกสังคมกรณีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถชนตำรวจจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เมื่อปี 2555 โดยในเนื้อหาระบุว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ ครอบครัวคุณวรยุทธไม่ได้หารือหรือบอกเล่าการตัดสินใจหรือการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับพี่น้องเลย และพวกเราก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการตัดสินใจหลายเรื่องของคุณวรยุทธที่เราติดตามจากข่าว แต่พี่น้องก็ไม่เคยออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ ด้วยเพราะให้เกียรติครอบครัวของคุณวรยุทธ และคาดหวังว่าครอบครัวของคุณวรยุทธจะทำทุกอย่างให้เป็นที่ยอมรับของสังคมในที่สุด แต่ในวันนี้กระแสทางลบที่มากระทบกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวมีมากจนเกินกว่าจะแบกรับเหมือนทุกครั้งได้

ทุกคนล้วนเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และยืนยันว่าพวกเราทุกคนให้ความเคารพในกฎหมาย และยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม ที่ต้องสามารถสร้างความยุติธรรมให้กับทุกคนด้วยความเท่าเทียมกัน พี่น้องทุกคนขอเรียกร้องให้คุณวรยุทธออกมาแสดงความกระจ่างและความบริสุทธิ์ใจ ให้ครอบครัวอยู่วิทยาที่เหลือ รวมทั้งสังคมและสื่อมวลชนให้เร็วที่สุด และดำเนินการให้ถูกต้องตามครรลองของสังคม

ราคาทองคำปรับตัวร้อนแรง แนะติดตามความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า สัปดาห์นี้ราคาทองคำยังคงปรับขึ้นร้อนแรงทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ เดือน ก.ค. ลดลง ความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐ ซึ่งราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง ทำให้มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ แต่จะมีความผันผวนสูง โดยมีแนวต้าน 1,980 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โดยจะต้องจับตาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนมิถุนายน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกรกฎาคม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคา PCE พื้นฐาน เดือนกรกฏาคม ดัชนี PMI เขตชิคาโก เดือนกรกฎาคม

"นาจิบ ราซัก" ไม่ยอมแพ้ เตรียมอุทธรณ์โทษจำคุก 12 ปี

ศาลสูงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประกาศคำพิพากษาในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ให้อดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก มีความผิดฐานใช้อำนาจมิชอบ ทำลายความเชื่อมั่น และฟอกเงิน ในคดีของกองทุน 1Malaysia Development Berhad หรือ 1MDB อดีตผู้นำมาเลเซียบอกกับผู้สื่อข่าวว่า คำพิพากษานี้ไม่ใช่ “วันสิ้นโลก เพราะยังมีกระบวนการอุทธรณ์ ที่เราหวังว่าจะประสบความสำเร็จให้ได้”

อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งอัยการกล่าวหาว่า ยอมรับเงินเกือบ 10 ล้านดอลลาร์จากหน่วยงานหนึ่งภายใต้กองทุนดังกล่าว และถูกฟ้องรวมกันถึง 42 ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการโกงเงินถึงราว 4,500 ล้านดอลลาร์ อ้างว่า ตนถูกหลอกโดย โจ โลว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินชาวมาเลเซียและเจ้าหน้าที่กองทุน 1MDB ที่ร่วมขบวนการโกง ว่าเงินที่นำเข้าบัญชีของตนเป็นเงินบริจาคจากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย

ทั้งนี้ ทีมสอบสวนของสหรัฐฯ กล่าวว่า เงินที่หายไปจากกองทุนนั้นถูกนำไปใช้ซื้อกิจการโรงแรม และสินค้าหรูหรา เช่น เครื่องประดับอัญมณี และงานศิลป์ราคาแพง รวมทั้งนำไปลงทุนในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Wolf of Wall Street เป็นต้น ขณะที่เงินราว 1,000 ล้านดอลลาร์ นั้นเข้าไปอยู่ในบัญชีของอดีตนายกฯ มาเลเซียรายนี้ด้วย อีกทั้งรอสมาฮ์ มานซูร์ ภรรยาของเขา ก็ถูกฟ้องข้อหาทุจริตประพฤติมิชอบ หลังเจ้าหน้าที่บุกคนบ้านและพบสินทรัพย์ต่างๆ เช่น เงินสด อัญมณี กระเป๋าถือหรูหราราคาแพงและของมีค่าอื่นๆ รวมกันเป็นมูลค่ากว่า 270 ล้านดอลลาร์

คดีกองทุนฉาวนี้ ทำให้ชาวมาเลเซียโกรธแค้นมาก และส่งผลให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เสียงลงคะแนนขับพรรค United Malays National Organisation (องค์การมลายูรวมแห่งชาติ) ของเขา ออกจากสภาไปเมื่อปี 2561

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook