"พุทธิพงษ์" เดือด ส่งเคสเพจผิดกฎหมายให้ "เฟซบุ๊ก" 4,676 เรื่อง แต่จัดการไม่ถึงครึ่ง

"พุทธิพงษ์" เดือด ส่งเคสเพจผิดกฎหมายให้ "เฟซบุ๊ก" 4,676 เรื่อง แต่จัดการไม่ถึงครึ่ง

"พุทธิพงษ์" เดือด ส่งเคสเพจผิดกฎหมายให้ "เฟซบุ๊ก" 4,676 เรื่อง แต่จัดการไม่ถึงครึ่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า กรณีที่ระบบของเฟซบุ๊ก มีการแปลที่ทำให้เกิดคำไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้องบนหน้าเพจไทยพีบีเอส (Thai PBS) ในระหว่างที่มีการดำเนินการถ่ายทอดสดพระราชพิธีสำคัญในหัวใจของคนไทยทุกคน ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ

ทั้งนี้กระทรวงได้ดำเนินการสื่อสารกับทางเฟซบุ๊คเพื่อให้เฟซบุ๊คแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยต้องดำเนินการทางกฎหมาย เรื่องการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่ถูกต้อง เนื่องจากเฟซบุ๊กได้นำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเข้าสู่ระบบ และมีผู้ร้องทุกข์คือ Thai PBS จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อบริษัท เฟซบุ๊ก ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ต่อไป

“กระทรวงได้เตรียมการในการดำเนินการต่อแพลตฟอร์มใดก็ตามในต่างประเทศที่ให้บริการคนไทย ทำธุรกิจในประเทศไทย ต้องเรียนรู้ที่จะเคารพกฎหมายไทย และให้เกียรติ และรับผิดชอบต่อความรู้สึกของคนไทยและสิ่งที่ประเทศไทยยึดมั่นยึดถือด้วย ด้านเรื่องความมั่นคง กระทรวงได้ขอความร่วมมือไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศ ซึ่งทาง ยูทูบ ได้ดำเนินการตามที่ขอประมาณ 90% แต่เฟซบุ๊กดำเนินการเพียง 28% ส่งไป 4,676 เรื่อง ทางเฟซบุ๊คดำเนินการไป 1,316 เรื่อง จึงต้องสื่อสารยัง เฟซบุ๊ก ว่าเมื่อดำเนินการในเมืองไทยก็อยากให้ให้ความร่วมมือในการให้ความเคารพ มีความรับผิดชอบต่อสังคมไทย” นายพุทธิพงษ์กล่าว

ขณะที่ในรอบ 7 เดือนแรกของปี 2563 กระทรวงดิจิทัลฯ ได้มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และประสานงานร่วมกับไอเอสพี จนนำไปสู่กระบวนการตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน และยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งปิดหรือลบข้อมูลในเว็บไซต์ผิดกฎหมายไปแล้ว จำนวน 7,164 ยูอาร์แอล (ขัอมูล ณ วันที่ 23 ก.ค.2563) จากจำนวนที่กระทรวงฯ ได้รับแจ้งทั้งสิ้น 8,715 ยูอาร์แอล และมีการส่งศาล 7,164 ยูอาร์แอล

สำหรับการกระทำผิดส่วนใหญ่ที่ได้รับข้อมูลจากการแจ้งข้อมูลเข้ามา พบว่าส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ และมีช่องทางอื่นๆ บ้าง ทั้งนี้ ดีอีเอส ได้ดำเนินการส่งข้อมูลให้กับ บก.ปอท. จำนวน 7,164 ยูอาร์แอล พร้อมพยาน หลักฐาน และคำสั่งศาล เพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook