ตำรวจเผยคดีอุบัติเหตุ "จารุชาติ" พบแอลกอฮอล์ทั้งคู่ แม่เพิ่งรู้ลูกเป็นพยานคดีใหญ่

ตำรวจเผยคดีอุบัติเหตุ "จารุชาติ" พบแอลกอฮอล์ทั้งคู่ แม่เพิ่งรู้ลูกเป็นพยานคดีใหญ่

ตำรวจเผยคดีอุบัติเหตุ "จารุชาติ" พบแอลกอฮอล์ทั้งคู่ แม่เพิ่งรู้ลูกเป็นพยานคดีใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันบริเวณสามแยกฟ้าธานี ถนนห้วยแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหตุให้ คนขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา คือ นายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี ชาวอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ที่เป็น 1 ใน 2 พยานปากเอกในคดี "บอส อยู่วิทยา" เมื่อปลายปี 2562 จนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง

โดยช่วงบ่ายวันนี้(30ก.ค.63) ทางครอบครัวและญาติของนายจารุชาติ ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพ ออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เพื่อนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน ที่ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ทางนี้ ทั้งพ่อและแม่ของนายจารุชาตไม่ได้เดินทางมารับศพด้วย แต่รอจัดงานอยู่ที่บ้าน ส่วนญาติที่เดินทางมารับศพบอกว่าได้รับแจ้งข่าวและมารับศพแทนพ่อแม่ สำหรับเรื่องที่นายจารุชาติ เป็นพยานปากเอกในคดี "บอส อยู่วิทยา" นั้น ไม่ทราบรายละเอียดแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคดีดังกล่าวเป็นคดีอุบัติเหตุจราจร โดยจากหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า นายจารุชาติ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ตามหลังคู่กรณีมา บนถนนห้วยแก้ว ขาเข้าเมือง จนกระทั่งถึงบริเวณ สามแยกฟ้าธานี นายจารุชาติได้พยายามจะขับแซง แต่ไม่พ้น เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ของคู่กรณี ทำให้รถจักรยานยนต์ของนายจารุชาติแฉลบไปชนเกาะกลางถนน และนายจารุชาติหัวฟาดได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่คู่กรณีได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เจ้าหน้าที่นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ แต่ปรากฏว่านายจารุชาติเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ ภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ บอกด้วยว่าจากการตรวจสอบคู่กรณีทั้งสองคน พบว่า อยู่ในอาการมึนเมาและตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกายทั้งคู่ ขณะเดียวกันเพิ่งทราบว่านายจารุชาติ เป็นพยานปากเอกในคดีสำคัญ อย่างไรก็ตามไม่เป็นปัญหาอุปสรรคในการทำงานแต่อย่างใดโดยจะเร่งคลี่คลายคดีและทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว โดยเฉพาะการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้เคียงโดยละเอียด ซึ่งในส่วนของคู่กรณีที่ได้รับบาดเจ็บนั้นเบื้องต้น ได้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปรักษาตัวที่บ้านแล้วและ ในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.63) จะเชิญตัวมาให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

ขณะที่ นางตา มารดาของนายจารุชาติ เปิดเผยว่าตนมีลูก 3 คน โดยนายจารุชาติเป็นคนโต มีน้องสาวอีก 2 คนทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ และบาเรนห์ ซึ่งปัจจุบันน้องสาวก็ยังกลับบ้านไม่ได้ เพราะปัญหาโรคโควิด-19 สำหรับนายจารุชาตินั้นเรียนหนังสือจบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นก็เร่ร่อนออกไปทำงานรับจ้างทั่วไป ในหลายจังหวัด โดยไม่ค่อยได้กลับบ้าน

ทั้งนี้นายจารุชาติได้เลิกรากับอดีตภรรยาไปตั้งแต่ลูกสาวของเขาอายุได้เพียง 8 เดือน และจากนั้นก็เริ่มออกไปทำงานนอกบ้าน ทำให้ตนและญาติทำหน้าที่ดูแลหลานสาวมาตั้งแต่นั้น แต่เขาก็กลับไปเยี่ยมบ้านนานๆครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้เดินทางกลับในช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับบ้านอีกเลย และไม่เคยโทรศัพท์คุยกันตลอดระยะเวลาหลายเดือนมานี้ด้วย

นางตา กล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมาบุตรชายไม่เคยบอกกล่าวว่า ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นพยานให้กับคดีดังดังกล่าว เพราะตามปกติ เขาไม่ชอบให้ใครไปซักถามเรื่องของตัวเอง และไม่เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้คนอื่นทราบมากนัก แม้แต่ตนก็พึ่งจะทราบว่าลูกชายเข้าไปเป็นพยานในคดีเมื่อช่วงคืนวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมานี้เอง เพราะปรากฎชื่อในข่าวสาร แต่ก็มีเพียงชื่อโดยไม่มีนามสกุลก็ไม่ได้สนใจ และคิดว่าไม่น่าจะเป็นลูกชายตน กระทั่งเกิดอุบัติเหตุที่ จ.เชียงใหม่ และมีคนแจ้งให้ทราบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้วและเป็นบุคคลเดียวกับคดีดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook