ครอบครัวพนักงานรถลากวัย 27 ถูกเครื่องบินชนดับ ยื่นฟ้องนกแอร์เรียกค่าเสียหาย 19 ล้าน
จากกรณี นายธนิสร อ่อนชะอ่ำ อายุ 27 ปี พนักงานของบริษัทนกแอร์ ประสบเหตุถูกเครื่องบินชน ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถที่ใช้สำหรับลากเครื่องบิน เป็นเหตุให้บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วานนี้ (30 ก.ค.) ครอบครัวของนายธนิสร ได้เดินทางมายื่นฟ้องบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กับพวก รวม 5 คน เรียกค่าเสียหายกว่า 19 ล้านบาท ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก หลังเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.63 แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อ ช่วยเหลือเยียวยาใดๆ
นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความ เปิดเผยว่า ทางสมาคมได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากบิดาและมารดาของผู้เสียชีวิต เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากตั้งแต่วันที่เหตุเกิดจนถึงบัดนี้ บิดามารดาของผู้ตายยังไม่ได้รับการติดต่อ ช่วยเหลือเยียวยา ดูแลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ค่าเสียหายต่าง ๆ อันเกิดจากการเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ให้สายการบินนกแอร์ของลูกชายตนเองแต่อย่างใด
อีกทั้งในด้านกระบวนการสอบสวนของตำรวจก็ยังไม่คืบหน้า และสามารถสรุปสำนวนฟ้องร้องผู้กระทำความผิดทางอาญาได้ ทั้งที่เป็นที่ทราบดีถึงเรื่องที่ปรากฏหน้าสื่อมวลชนว่า ผู้ตายเป็นพนักงานของบริษัทนกแอร์ กรณีมีคนตายในทางละเมิดมีอายุความ 1 ปี ทางเราก็พยายามหาคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว ทั้งประสาน สน.ดอนเมือง หรือไปร้องที่กระทรวงยุติธรรมก็ไปมาแล้ว
เราเคยถามความคืบหน้าทางด้านคดีอาญา ว่ามีการสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องไปแล้วหรือไม่ แต่ก็มีการผัดผ่อนอ้างเหตุจนวันนี้ก็ยังฟ้องใครไม่ได้ เราคงไม่รอผลการสอบสวนในคดีอาญาแล้ว แต่สิ่งที่ยืนยันชัดเจนไม่ว่าแต่จากสื่อมวลชนหรือภาพถ่ายวันเกิดเหตุ ว่าผู้ตายเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ในรถลากกำลังลากเครื่องบินเข้ามายังหลุมจอดเพื่อรอรับผู้โดยสาร ซึ่งในทางละเมิดนายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในเรื่องละเมิด ส่วนคดีอาญาตนก็อยากเร่งรัดว่าใครต้องเป็นผู้รับผิดอย่างไรบ้าง เราต้องตามหาความจริงว่าสาเหตุการเสียชีวิตใครเป็นคนกระทำ
แต่ในทางแพ่ง นายจ้างไม่สามารถปฏิเสธความผิดละเมิดได้ เราได้มีหนังสือทวงถามไปยังบริษัทนกแอร์แล้ว ขอให้ดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือ แต่ไม่รับการตอบรับ วันนี้บิดาและมารดาต้องเดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วยทุนของตนเอง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยการยื่นฟ้องในวันนี้จะขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลเนื่องจากคดีมีทุนทรัพย์ 19 ล้าน หากต้องเสียค่าธรรมเนียมถือเป็นจำนวนมากกับบุคคลที่ไม่มีฐานะร่ำรวย ซึ่งศาลแพ่งก็ได้เมตตาให้ไต่สวนเรื่องค่าธรรมเนียมในวันนี้เลย
ขณะที่ พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย มีลูกชายเป็นเด็กดีเป็นเรี่ยวแรงของครอบครัว ตนดิ้นรนส่งลูกเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ หวังว่าสักวันลูกชายเรียนจบจะได้ดูแลครอบครัว แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดแบบนี้ขึ้นทำให้ครอบครัวอยู่กันลำบาก ที่ทำได้ตอนนี้คือการอดออมมัธยัสถ์เพื่อที่จะอยู่ในสังคมได้
สาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย ต้นเหตุมาจากการทุ่มเททำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของนายจ้างจนตัวเองเสียชีวิต แต่สิ่งที่ได้รับจากนายจ้างกลับเป็นศูนย์ ครอบครัวตนเหมือนกับคนที่กำลังจะจมน้ำตาย ยังดีที่ผมได้รับความเมตตาจากนายนรินทร์พงศ์ นายกสมาคมทนายแห่งประเทศไทย ที่เมตตาสงสารครอบครัว ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคดี ตนขอกราบขอบคุณอย่างสูง