“ต๊อก ศุภกรณ์” เผยเหตุบวชเงียบเตรียมพร้อมก่อนตาย เกือบไม่รอดหวิดตกเหว-ผีป่าเล่นงาน

“ต๊อก ศุภกรณ์” เผยเหตุบวชเงียบเตรียมพร้อมก่อนตาย เกือบไม่รอดหวิดตกเหว-ผีป่าเล่นงาน

“ต๊อก ศุภกรณ์” เผยเหตุบวชเงียบเตรียมพร้อมก่อนตาย เกือบไม่รอดหวิดตกเหว-ผีป่าเล่นงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ต๊อก ศุภกร เปิดใจครั้งแรก หลังจากหนีบวชเงียบรอบ 3 เผยเหตุผลที่บวชเพราะเตรียมตัวตาย ผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง วัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร พร้อมเผยเกือบไม่รอด เพราะด่าผีป่าบนดอย จนต้องพึ่งหมอผีทำพิธีไล่ของออก

พี่เริ่มจากการเป็นแดนเซอร์ก่อน?

ต๊อก : "ใช่ครับ ก็เริ่มจากชิงแชมป์ประเทศไทย แล้วมาเต้นให้อ้อม แล้วก็มีพี่เจ"

ล่าสุดต้องเรียกว่าทิดต๊อก เพราะเพิ่งสึกมา?

ต๊อก : "ทิด แต่ถ้าเป็นที่วัดจะเรียกว่าหนาน คนไทยพอไปบวชจบมาเหมือนบัณฑิต"

เราต้องเรียกนานแค่ไหน?

ต๊อก : แล้วแต่ พอคนเคยเห็นเราเป็นพระ แถวนั้นเขาจะเรียกว่าหนานๆ

พี่ต๊อกไปบวชมารอบที่ 3 แล้วใช่ไหม?

ต๊อก : "จริงๆ ถ้าบวชพระรอบที่ 2 ครับ รอบแรกนั้นเราไปบวชเณรหน้าไฟ"

ที่ไปครั้งนี้คือรอบที่?

ต๊อก : "รอบที่2 ถ้ารอบที่ 3 นี่สงสัยจะไม่สึกแล้ว"

อยู่ๆ ทำไมถึงหนีไปบวช?

ต๊อก : "เพราะว่าเคยตั้งใจมานานแล้ว ตอนนั้นพ่อเสีย จะบวช แต่บวชไม่ได้ เพราะว่ามีงาน แต่พอดีโควิดมา เราก็เห็นโอกาสตรงนี้ เรารีบบวชก่อนที่มันจะระบาดไปมากกว่านี้ งานเขาไม่มีทำทำแล้ว เราไปบวชดีกว่า เราก็เลยตัดสินใจบวชช่วงโควิดเลย"

บวชเงียบๆ ไม่บอกใครเลย?

ต๊อก : "ใช่ครับ เพราะพระท่านให้คนไปที่วัดไม่เกิน 10 คน"

คนส่วนใหญ่เห็นข่าวพี่ไปบวชคิดว่าพี่มีปัญหากับเมียหรือเปล่า บวชหนีปัญหาชีวิตครอบครัวหรือเปล่า หนีไหม?

ต๊อก : "แน่นอน เพราะโควิดที่ผ่านมา ผมคำนวนแล้วว่าทะเลากันแน่ เพราะมันว่างเยอะ แล้วเขาเองสนับสนุนให้ผมบวชเลย บอกว่าพี่ต๊อกๆ บวชสักทีๆ พอโควิดปุ๊บเขาไม่ห้ามเลย แล้วไปดูสถิติการหย่าร้างที่จีน เป็นล้านคู่เลย"

ทำไมพี่ถึงคิดว่าจะต้องทะเลาะกันแน่ๆ?

ต๊อก : "ไม่มีโควิดยังทะเลาะเลย เพราะลิ้นกับฟัน เราเจอกันทุกวัน"

แสดงว่าพอบวชมันทำให้ทุกอย่างกลับมาหอมหวานเหมือนเดิม?

ต๊อก : "ดีเยี่ยมเลย"

แต่ก่อนที่จะบวชก็เกือบไม่ได้บวช มีอุปสรรคเยอะแยะมากมาย?

ต๊อก : "คือวัดที่เราติดต่อเป็นประจำ แต่ไม่ได้ เจ้าอาวาสไม่ยอมบวชให้ ตอนนั้นจะไปบวชที่อุทัยธานี เป็นจังหวัดเล็กๆ แต่ดันประกาศเป็นจังหวัดที่สองที่ปิดจังหวัด ทำให้เราบวชไม่ได้ เราขับรถมาจากกรุงเทพฯ ก็ไปไหว้พระ แล้วขอให้ได้บวช สุดท้ายมีหลวงพี่ท่านหนึ่งพาไปบวชที่นครสวรรค์"

บวชนครสวรรค์ แต่จำวัดเชียงใหม่ ทำไมต้องแยก 2 ที่?

ต๊อก : "ตอนนั้นเราต้องการจะศึกษาธรรมะจริงๆ แล้วท่านไปอยู่บนดอยสูง ไปเป็นเจ้าอาวาสชั่วคราว เราก็ถือโอกาสไปที่นั่นเลย" 

แล้วช่วงที่เราบวช ภรรยา-ลูก มีโอกาสได้ใส่บาตรเราไหม?

ต๊อก : "มีครั้งแรก พอได้บวชวันนั้น ตอนเช้าไปที่บ้าน ตอนนั้นแม่ก็ได้ตักบาตร าจากนั้นก็ไปที่เชียงใหม่เลย"

ทำไมเราต้องไปบวชไกลขนาดนั้น ทำไมเราไม่บวชที่กรุงเทพฯง่ายๆ?

ต๊อก : "เราชอบทางนู่น ชอบที่จะอยู่บนดินสูง บรรยากาศดี กลางคืน 18 องศา"

แล้ววัดที่ไหนพอพี่เห็นปุ๊บพี่จำที่นี่ได้ คือที่ไหน?

ต๊อก : "ที่จำได้ เพราะตอนเด็ก พ่อ แม่ พาไปหา ตา ยาย อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ๆ กันเลย" 

เห็นว่าที่วัดนี้นอกจากมีความทรงจำแล้ว ยังเฉียดตายถึงขั้นตกเหว?

ต๊อก : "อย่างว่าแหละ เราเป็นคนไม่เชื่ออะไรเลย แล้วเป็นเด็กที่เก็บตั๋วหนัง ย่าทำโรงหนัง เราก็มาเก็บตั๋ว เข้าไปในป่าไม่ได้เลย เห็นอะไรก็ยิง แล้วก็ทำไม่ดี มีศาลมีอะไร เราไม่สนใจ"

พี่ไม่เชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย?

ต๊อก : "ตอนนั้นไม่เชื่อ ก็เลยโดน"

มันโดนอะไรจากสิ่งที่เราไปลบหลู่?

ต๊อก : "หลงทางครับ น้องชายยังเด็กอยู่ เพิ่งคลาน เราก็ไม่มีอะไรเล่น ก็เอากระป๋องนมน้อง พอเจอะไรขวางทางก็ขวาง ไปๆ มาๆ หลงทางเลย โชคดีพี่สาวเดินมา ทางเขามีเดิน เราก็เบรกแดนซ์บนใบไม้ เบรกไป เบรกมา ร่วงลงไปในเหว ตกเหว ร่วงลงไป พี่สาวก็คว้ามือจับ จับจนเราหมดแรง"

ถ้าตกไปตายไหม?

ต๊อก : "ถ้าตกไปไม่ตาย แตามาตายตอนหลัง ขึ้นไม่ได้ตาย สักพักมองหน้าพี่สาว บอกให้เขาปล่อยมือ ไม่ไหวเดี๋ยวมันตายหมด เราไปคนเดียวพอ พี่สาวก็ร้องไห้ เขาบอกไม่ปล่อย ตายด้วยกัน ไอคำว่าตายด้วยกันมันมีพลัง แดนซ์มาช่วยชีวิตไว้ พี่ใช้ตัวหนอนขึ้นมา สุดท้ายก็กอดกันร้องไห้กันสองคน"

ตอนนั้นกลัวตายไหม?

ต๊อก : "กลัว ก็ร้องไห้กันสองคน ขึ้นมาแล้วก็ไม่รู้ว่าไปทางไหน แต่พ่อก็มาพอดี" 

เฉียดตายขนาดนี้จำไหม?

ต๊อก : "จำ"

แต่หลังจากนั้นพี่ไปลบหลู่ ดูหมื่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทางสามแพร่ง?

ต๊อก : "ก็ในวันนั้นแหละ สามแพร่งนี่ไม่ฟัน ก็ยิง สมมติว่าเป็นหลังคาไกลๆ ก็ใช้หินขวางไปให้โดน ทดสอบความแม่น ถ้าไม่โดนก็ไม่ยอมเดินต่อไป"

แล้วหลังจากตกเหวเลิกเลยไหม?

ต๊อก : "ก็เลิกทำ แต่เขามาเล่นงานเราในคืนนั้น เราไม่รู้ เรานอนอยู่ สิ่งที่ได้ยินเสียงเลย คือเสียงหมูร้อง แล้วในคืนนั้น มีสรรเสริญมีอะไรของเขา แต่เช้ามาเราลุกไม่ขึ้นเลย เหมือนมีคนมาดันตัวเราไว้ มีความรู้สึกว่าเราเป็นไข้ ไม่สบายตัว แม่ก็บอกว่าอุณภมิ 40 กว่า ถ้าต้องเอาลูกไปส่งโรงพยาบาลต้องใช้เวลา 14 ชั่วโมง พ่อเป็นตำรวจก็เลยติดต่อไปทาง ตชด.เอา ฮ. มารับ แต่แม่บอกว่าถ้าเอา ฮ.มารับแล้วไปส่งตาย ไข้สูงขนาดนี้เด็กมันจะช็อกอยู่แล้ว เขาก็เลยบอกว่าไปเอาหมอผีมาไหม ที่นั้นหมอผีก็เปรียบเหมือนหนานประจำหมู่บ้าน พอเขามา เขาก็มามองเราเขาก่อไฟ เอาไก่มาต้ม เอากระดูกไก่มาแล้วเขาก็สวด พอหลังจากนั้นเขาจะเอากระดูกทั้งหลายมาทำเป็นสิ่งที่ผีขอ เพราะเราโดนเล่นงานวันที่ไปทำร้ายเขา แล้วไปตีกลอง ถ้าเกิดเป็นชนเผ่า หรือวิถีในป่า เรียกว่าการเลี้ยงผี ให้ผีมากินข้าวที่เราจัดไว้ แต่ไม่มีอะไรให้เขากิน เราเป็นคนไปเรียกมา เขาเตือนเราไม่เชื่อ"

หายไหม เป็นผลไหม?

ต๊อก : "เป็นผล ตอนที่ตีกลอง ตอนที่ขว้าง พวกผู้ใหญ่ที่เดินป่า เขาบอกอย่าตีกลอง รู้เปล่าว่าเลี้ยงผี เราไม่เชื่อหรอก สุดท้ายเราก็เชื่อไง เพราะเราโดนเล่น เสร็จปุ๊บเขาก็เอาอาวุธ ทำเป็นหน้าไม้ ปืนกล ทุกอย่างที่เขาอยากได้ เขาสื่อสารกันรู้เรื่อง หลังจากนั้นเขาก็ต้มน้ำ ใส่สมุนไพร แล้วเอามาให้ดื่ม แล้วรู้สึกว่าไข้ลด ในวันเดียวกัน 4 โมงเย็น มันมีบอลคลุกฝุ่นในหมู่บ้าน บอลลูกเดียวเตะกัน 50 คน ก็ไปอยู่กับเขาในนั้นออกมาฝุ่นเต็มเลย อันนี้เกิดขึ้นตอนอยู่ ป.3"

เพราะอะไรที่พี่บอกว่าถ้าบวชรอบ3 แล้วพี่จะไม่สึก?

ต๊อก : "เพราะว่าเราทำทุกอย่างบนโลกนี้แล้ว ทั้งครอบครัว ทุกอย่าง เราอยู่ในวัยส่งออกแล้ว"

แสดงว่าพี่มีความคิดว่าวันหนึ่งถ้าพี่ทำทุกอย่างให้ครอบครัว พี่ก็จะไปบวชโดยไม่สึก?

ต๊อก : "ก็มีสิทธิ์คิดอย่างนั้น"

ถ้าบวชครั้งที่ 3 พี่จะไม่สึก แล้วลูกกับเมียทำยังไง?

ต๊อก : "ลูกกับเมีย ถ้าบวชแล้วถือว่าเราเป็นตัวของเรา แต่ถ้ายังอยู่ในโลกปัจจุบันอยู่ลูกกับ เมีย ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะว่าเป็นทั้งผู้บังคับบัญชา เป็นที่รัก เป็นเพื่อน เป็นทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราต้องทำทุกอย่างให้พร้อม ก็คือมีการวางไว้แล้ว เรื่องงานลงตัวแล้ว ลูกโตแล้ว แต่งงาน มีอะไรทุกอย่าง ต่อไปก็คือตัวเราแล้ว"

ก็คือเรื่องงาน เรื่องเงิน พี่วางไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าเขาอยู่ของเขาได้ตลอดชีวิต พี่เลยอาจจะตัดสินใจบวชครั้งที่ 3?
ต๊อก : ใช่ๆ แต่ก็ต้องดูว่าเขาอนุมัติไหม

แล้วพี่จะคิดถึงลูก-เมีย ไหม?

ต๊อก : "แน่นอน มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอถึงตอนนั้นถ้าเกิดได้มีสิทธิ์บวช เขาเรียกว่าไปง่าย"

เพราะอะไรถึงวางแผน ถึงคิดอย่างนี้ในใจ?

ต๊อก : "ไปอบรมเรื่องหลังความตายมา" 

ที่บอกว่าชีวิตหลังความตาย แสดงว่าหลังจากที่เราออกจากร่างกายไปแล้ว เราไปไหน?

ต๊อก : "เราต้องไปบ้านใหม่เรา เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะปูทางบ้านใหม่ของเราให้ดี"

ถ้าเตรียมตัวขนาดนี้ไม่สนุกกับชีวิตแล้วเหรอ หรือพี่มีปัญหาอะไรคาใจหรือเปล่า?

ต๊อก : "ผมยังสนุกกับชีวิตอยู่เลย ที่ทำแบบนี้ไม่อยากตายเลยไปค้นหามันว่าสุดท้ายแล้วเราจะต้องตายใช่ไหม แต่ไปบวชเพราะว่าให้คิดตก หาสัจจะธรรมของชีวิตให้เจอ"

สมมติถ้ามีการบวชครั้งที่ 3 จะเจอคำตอบไหม?

ต๊อก : "ก็น่าจะต้องเจอแล้วล่ะ เพราะว่าที่เตรียมตัวไว้ แล้วก็ยังไม่ได้คุยเข้มข้นกับทางครอบครัว ถ้าเกิดการบวชแล้วในขั้นบั้นปลายของชีวิตมันเป็นสิ่งที่ดีที่คาดหวังไว้"

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.45-14.45 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ “ต๊อก ศุภกรณ์” เผยเหตุบวชเงียบเตรียมพร้อมก่อนตาย เกือบไม่รอดหวิดตกเหว-ผีป่าเล่นงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook