คนร้ายถือปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทองในห้าง กวาดสร้อยทองไปได้ 60-70 บาท หลบหนีลอยนวล

บึงกาฬ คนร้ายถือปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทองในห้างช่วงเวลาห้างใกล้ปิด กวาดสร้อยทองไปได้ 60-70 บาท หลบหนีลอยนวล

เมื่อเวลา 19.30 น. (31 ก.ค.63) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุชิงทองภายในสรรพสินค้า ตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-นครพนม ใกล้บริเวณสี่แยกไฟแดงบึงกาฬ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ และติดกับโรงแรมเดอะวัน ที่เกิดเหตุ พบพนักงานขายสาวจำนวน 5 คน อยู่ในสภาพอาการตัวสั่นตกใจ

โดยนางสาวสุภาวดี อายุ 26 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 5 พนักงานขายสาว เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.มีชายรูปร่างผอมสูงประมาณ 175 เซนติเมตรสวมใส่เสื้อยึดแขนยาวคอกลมสีเทา กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว ใส่หมวกแก๊ปสีเหลือง สะพายกระเป๋าสีดำ

น้ำตาลเข้ม มีมาสก์สีดำปิดจมูก ยืนสังเกตการณ์คล้ายๆ รอจังหวะปลอดคนเดินพลุกพล่าน อยู่ที่มุมห้องทางเดินเข้า-ออก ซึ่งเป็นช่วงใกล้เวลาห้างจะปิด หลายร้านค้าภายในห้างก็เริ่มทยอยเก็บของ และมีบางร้านก็ปิดแล้ว ซึ่งก่อนจะลงมือชิงทอง คนร้ายรายนี้ก็ทำทีเดินไปมาผ่านหน้าร้านหลายครั้ง และทำทีเดินคุยโทรศัพท์ไปด้วย ทำให้เข้าใจว่าเป็นลูกค้าปกติทั่วไป และก็เดินกลับไปหยุดที่เดิม ในกล้องวงจรปิดก็เห็นคนร้ายยืนมองมาดูที่ร้านทองหลายครั้ง พร้อมกับล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพาย

จากนั้นเมื่อสบโอกาสก็เดินดุ่มๆ เข้ามาในร้านทองเยาวราชกรุงเทพ จากนั้นใช้มือขวาชักปืนออกมาจากกระเป๋าสายส่ายไปมาขู่ให้ทุกคนหมอบลง ก่อนจะใช้มือซ้ายเท้ากระจกตู้โชว์ทองแล้วก้าวขาขวาเหยียบกระจกข้ามไปด้านในที่พนักงานขายยืนอยู่ จากนั้นก็กวาดเอาทองรูปพรรณที่โชว์ในตู้ใส่กระเป่าสะพาย ส่วนมากก็เป็นจะเป็นสร้อยแขนน้ำหนักเส้นละ 1 บาท ประมาณ 40 เส้น และสร้อยคอน้ำหนักเส้นละ 2 บาท รวมหนักประมาณ 60-70 บาท แล้วกระโดดหนีเดินออกจากร้านไปพอประมาณ 20 เมตร จึงวิ่งออกจากห้างไปสตาร์ทรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป ซึ่งมีกล้องวงจรปิดภายในห้างจับภาพได้เป็นระยะ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนสาย 222 ด้วยความเร่งรีบทำให้หมวกแก๊ปสีเหลืองตกหล่น

หลังคนร้ายออกจากร้านไปแล้วพนักงานขายจึงได้โทรเรียกตำรวจ 191 แจ้งส่วนเกี่ยวข้องออกติดตามหาตัวคนร้ายทันที เบื้องต้นยังไม่มีเบาะแสของคนร้ายว่าเป็นใคร ตำรวจกำลังแกะรอยหาตัวอย่างเร่งด่วนแล้ว

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ พงศ์เพ็งธรรม นวท(สบ4) พฐ.จว.บึงกาฬ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมชาย สัพโส นวท.(สบ3)พร้อมพวก ได้นำอุปกรณ์เข้ามาเก็บรวบรวมหลักฐานหาลายนิ้วมือแฝงพร้อมกับ พ.ต.ท.ฉายยนต์ ชาวดอน รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ และชุดสืบสวนทั้ง สภ.เมืองบึงกาฬ ชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดบึงกาฬ เพื่อเร่งหาตัวโจรบุกเดียวรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป.