"เก้า เกริกพล" เปิดหมดใจ! ดราม่า "เจนนี่" หนังคนละม้วน "ผมให้โอกาสพี่พูดความจริงแล้ว?"
ยังคงเป็นประเด็นร้อน! ที่ชาวเน็ตให้ความสนใจกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับดราม่าความสัมพันธ์ระหว่าง เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น กับนักร้องหนุ่มรุ่นน้อง เก้า-เกริกพล เพชรรัตน์ ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกันในเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ซึ่ง ณ ตอนนี้ มียอดผู้เข้าชมในยูทูบมากกว่า 350 ล้านวิว
และถึงแม้ก่อนหน้านี้ทางด้านของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น จะได้ออกมาไลฟ์สดชี้แจงข้อเท็จจริงจากฝั่งตัวเองในหลากหลายประเด็นที่ชาวเน็ตสังสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ สัญญาใจ ค่าตัวในการทำงาน ไปจนถึงความสัมพันธ์กับนักร้องรุ่นน้อง ที่เจ้าตัวยืนยันชัดเจนว่า "ไม่ได้มีปัญหากัน"
แต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็ยังมีชาวเน็ตจำนวนหนึ่งที่ไม่ปักใจเชื่อ ถึงขนาดออกมาเปิดกระทู้วิพาษ์วิจารณ์ พร้อมทั้งติดแท็กแบ่งฝ่าย #ทีมเก้า และ #ทีมเจนนี่ จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตที่ร้อนระอุในโลกโซเชียลฯ
กระทั่งล่าสุด เวลา 13.30 น. วันนี้ (3 ส.ค. 63) นักร้องหนุ่ม เก้า เกริกพล ก็ได้ถือโอกาสออกมาแถลงข่าวผ่านรายการ NineEntertain เพื่อชี้แจงรายละเอียดอีกมุมในประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจถึงเรื่องทั้งหมดว่า "สิ่งที่พี่เขาพูดมาแล้วแต่คนจะเชื่อหรือไม่เชื่อขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล แต่สิ่งที่ผมพูดทั้งหมดก็คือความจริง"
มีเรื่องไหนบ้างที่เขาพูดแล้วไม่ตรงกับข้อมูลของเรา ?
"ทุกเรื่องครับ พี่เขาออกมาค้านทุกเรื่องเลย ตั้งแต่เรื่อง 70-30 เรื่องค่าตัว 500 บาท และก็รายการที่ให้เงินมา 10,000 บาท ประมาณนี้ครับ"
อยากให้อธิบายเรื่อง 70-30 ข้อตกลง ณ ตอนนั้นมันเป็นยังไง ?
"สำหรับเรื่องนี้ผมยืนยันครับว่าเราได้ตกลงกันก่อนที่จะถ่ายทำมิวสิควิดีโอ และเรื่องของค่าย เราก็ไม่ได้ตกลงกันตอนนั้น เพราะตอนนั้นพี่เขายังไม่ได้ทำค่าย พี่เขาเพิ่งจะมาทำค่ายตอนที่เพลงมันดังแล้ว แต่ผมยืนยันครับว่าตอนนั้นเราได้มีการตกลงกันจริงๆ เรื่อง 70-30 ก่อนที่จะถ่ายทำมิวสิควีดีโอ"
แสดงว่าวันนั้นเป็นการตกลงด้วยสัญญาใจถูกต้องไหม ?
"ใช่ครับ เป็นสัญญาใจครับ สัญญาใจมีจริง และพี่เขาก็ได้สาบานไว้แล้วด้วย"
ที่พี่เขาบอกว่าชวนเราไปเข้าทำงานร่วมกันในค่าย อันนี้มีจริงด้วยไหม ?
"มีจริงครับ แต่เป็นการชวนผมหลังจากที่เพลงดังแล้ว เขาถามผมว่าผมสนใจจะไปอยู่ค่ายเดียวกับเขาไหม แต่ผมก็อธิบายไปว่าผมอยู่กับพ่อติ๊ก เพราะผมได้ประกวด The Voice Kids และมีสัญญาใจกับพ่อติ๊กอยู่ เราดูแลกันแบบพ่อลูก"
ตอนที่เขาเสนอให้เราไปอยู่ในค่าย ตอนนั้นเราตอบว่าอย่างไร ?
"ผมก็บอกเขาครับว่าผมขอถามผู้ใหญ่ก่อน ขอถามพ่อแม่ก่อน และที่สำคัญผมก็บอกเขาไปแล้วด้วยว่าผมอยู่กับพ่อติ๊ก ซึ่งพ่อติ๊กก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไรผม เราอยู่กันแบบสัญญาใจ ท่านให้อิสระผมทำงานได้ทุกอย่าง"
วันที่เขาชวนไปทำเพลงได้มีการพูดคุยกันไหมเรื่องค่าตอบแทน ?
"อ๋อ 30-70 ครับ เขาบอกว่าเขาจะดูแลทุกอย่าง ไม่เอาเปรียบน้อง ส่วนเรื่องยูทูบเราก็มาแบ่งผลประโยชน์การ 70-30"
นอกจากเรื่อง 70-30 แล้ว ได้มีการพูดถึงค่าตัวในการทำงานนอกไหม ?
"ค่าตัวงานนอกไม่มีครับ แต่คอนเสิร์ตมี เราตกลงกันไว้ที่ 3,000 บาท ซึ่งผมก็แจ้งเขาไปแล้วว่า 3,000 บาทมันไม่พอสำหรับการที่ผมอยู่กรุงเทพ เพราะแค่ค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าอะไรอีกมันก็น่าจะเข้าเนื้อตัวเอง ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะไม่เดินทางไปดีกว่า แต่ก่อนที่ผมจะตัดสินใจว่าแบบนั้น ทางผมก็ได้แจ้งไปกับพี่เขาว่าถ้าหากค่าตัวเพิ่มอีกให้พอค่าเดินทางก็น่าจะได้ แต่พี่เขาก็ตอบกลับมาว่าทางเจ้าของงานไม่รับเนื่องจากค่าตัวเยอะเกินไป และพี่เขาไม่สามารถควักค่าตัวของตัวเองมามอบให้กับผมได้ด้วย"
ตอนนั้นคิดไหมว่าสัญญาใจที่คุยกันจะส่งผลเสียกับเรา ณ เวลานี้ ?
"ตอนนั้นที่คุยกับพี่เขาคือผมให้ใจเขาไปทั้งหมดเลยครับ ผมผิดที่ให้ใจเขาไปทั้งหมด ผมคิดว่าเราทำงานกันแบบพี่น้อง แต่สุดท้ายมันก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ"
เงิน 10,000 บาท ที่เขาบอกว่าให้เรามาเป็นค่าขนม ตอนนั้นเขาได้พูดชัดเจนไหมว่ามันคือค่าอะไร ?
"ขนาดในแชทพี่เขายังไม่บอกเลยครับว่านี่คือค่าตัวของผม เขาไม่ได้บอกอะไรเลย แต่พี่เขาโทรมาบอกว่า น้องนี่เป็นค่าเดินทางค่ากินขนมนะ ไม่ได้ชี้แจงชัดเจนว่านี่คือค่าตัวของผมนะ ผมเข้าใจแบบนั้น ซึ่งพอหลังจาก 10,000 บาทนี้ทั้งหมดก็คือสัญญาใจ หลังจาก 10,000 คือสัญญาใจครับ"
สรุปแบบนี้ได้ไหมว่าตั้งแต่ทำงานเพลงร่วมกัน ก็คือเรายังไม่ได้รับเงินจากการทำงานเลย ?
"ยังไม่ได้ค่าตัวครับ เอาง่ายๆ เลยเพราะ 10,000 บาทนี้ ไม่ใช่ค่าตัวของผม ส่วนที่เขาโอนเงิน 20,000 บาท แล้วบอกว่าโอนค่าตัวเพิ่มมันคืออะไร ซึ่ง 20,000 บาทนี้ เขาโอนมาจริงครับแ ต่เหตุผลที่ผมไม่เอาก็เพราะเขาไม่ได้ให้ด้วยใจ แต่เขาให้พ่อผมโทรไป มันต้องมีการโทรเพื่อทวงถามก่อน"
เรายังติดใจอยู่ไหมเรื่องที่เขาพูดถึงเงิน 20,000 บาทที่โอนให้เรา แล้วเราโอนกลับ ?
"จริงๆ ผมจบไปนานแล้วนะครับสำหรับเรื่องนี้ เพราะผมได้ยื่นเอกสารไปแล้ว และทางเขาเองก็ได้เซ็นรับแล้วเช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายเขาก็เมิน ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรตรงนั้นแล้ว เพราะผมแค่อยากจะให้เราเคลียร์กันแบบดีๆ แต่ในเมื่อพี่เขาเมินผมก็ถือว่าจบกันไปและผมเก็บเรื่องนี้เอาไว้"
"แต่หลังจากนั้นพี่เขาไปบอกว่าแม่ผมไปติดต่อกับเพจหนึ่งเพื่อใช้ในการโจมตีพี่เขา ซึ่งเรื่องนี้มันไม่จริงเลย แต่มันเกิดจากการที่แฟนคลับทั้งสองฝ่ายที่ด่ากันไปด่ากันมา จนทำให้ทางแอดมินเพจติดต่อมาหาคุณแม่มาและก็ถามแม่ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง แม่ผมก็เลยเล่าทุกอย่างไปตามความจริง จากนั้นเพจก็เอาเรื่องนี้ไปโพสและทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นจนพี่เขาเอาพ่อผมไปโพสต์บ้าง และถูกแฟนคลับพี่เขาเข้ามาด่าพ่อผม ด่ายันโคตร ด่าทุกคนในครอบครัวผมครับ"
ตัวเราเองตั้งใจจะเอาเรื่องคนที่ด่าครอบครัวเราไหม ?
"ก็มีบางคนนะครับที่เขามาขอโทษแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็อยากให้เขาใช้สื่อในทางที่ดีกว่านี้เช่นกัน อยากให้เสพข่าวให้ดีและฟังความทั้งสองฝ่าย ซึ่งใครจะเชื่อใครหรือไม่เชื่อใครก็แล้วแต่เลยครับ"
ถามถึงเรื่องค่าตัวในการออกรายการแต่ละครั้ง เขายืนยันว่าเขาไม่ได้ให้เรา 500 บาท ?
"เขาก็แช่งตัวเองไปแล้วครับ ผมยืนยันครับว่า 4 รายการ ผมสามารถพูดชื่อรายการได้ไหมครับ รายการโหนกระแส, รายการแฉ, อมรินทร์ และก็รายการซุปเปอร์หม่ำ รายการละ 500 บาท แต่สำหรับ 2 รายการหลังพอผมโทรไปหาทางทีมงานว่ามันไม่พอนะสำหรับการเดินทางเงิน 500 บาท เอาแค่นั่งแท็กซี่ไปก็หมดแล้ว ทางทีมงานก็เลยติดต่อไปทางฝั่งพี่เขา จากนั้นพี่เขาจึงโอนมาให้ผม 3,000 บาท 2 รายการ รายการละ 1,500 บาท ผมก็เลยอยากรู้ว่าถ้าพ่อผมไม่โทรไป พี่เขาก็จะให้ผม 500 บาทเหมือนเดิมใช่ไหมครับ"
ความรู้สึกตอนที่เราทราบเรื่องนี้ เรารู้สึกอย่างไรบ้าง ?
"เสียใจครับ เสียความรู้สึก เพราะทุกรายการจะเป็นพี่เขาทั้งหมดที่เป็นคนเซ็นรับเงิน ส่วนผมไม่รู้รายละเอียดเลยว่าแต่ละรายการได้เงินมาเท่าไหร่"
จริงๆ ตอนที่เรารับเงินจากพี่เขามา 500 บาท เราได้รู้สึกเอะใจไหมว่าทำไมได้แค่นั้น ?
"ก็คือผมเป็นเด็กไงครับ ผมเลยไม่อยากพูดมากแล้วแต่เขาจะให้ดีกว่า อีกอย่างเขาเองก็บอกด้วยว่าที่เขาต้องให้เงิน 500 บาท ก็เป็นเพราะเขาพาคนมาเยอะ ก็แล้วแต่เขาครับ ก็ว่าไปตามนั้น"
ตัวเราเองต้องการอะไรจากเรื่องนี้ ?
"ผมอยากให้พี่เขาออกมาพูดความจริง แต่สิ่งที่พี่เขาพูดมาเขายืนยันแล้ว เขาแถลงแล้วว่ามันเป็นแบบนั้น ดังนั้นทางตัวผมเองก็จะขอยืนยันตรงนี้เหมือนกันว่าผมพูดความจริงทุกอย่างไปหมดแล้ว ส่วนมันจะเป็นอย่างไรต่อก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ครับ"
จริงๆ เรายังอยากได้เงิน 70-30 ที่เป็นสัญญาใจตั้งแต่แรกอยู่ไหม ?
'ไม่เลยครับ ตอนนี้มันอยู่ที่ประเด็นของพ่อแล้วเอาพ่อผมมาแขวนให้คนอื่นด่า ผมให้พี่เขาออกมาพูดความจริง ให้โอกาสพี่เขาออกมาพูดความจริงแล้ว แต่พี่เขาก็เป็นแบบนั้น ดังนั้นก็แล้วแต่ผู้ใหญ่เลยครับว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป"
ถ้าเขาเสนอเงินมาให้จบปัญหาเราจะโอเคไหม ?
"ผมอยากให้เขาออกมายอมรับความจริงก่อนครับ ถ้าหากวันนั้นพี่พูดความจริงทุกเรื่องและออกมารับผิดชอบในส่วนที่พี่เขาได้ทำผิดพลาด ผมคิดว่าเรื่องมันก็น่าจะจบตั้งแต่วันนั้นแล้ว"
ทำไม 1 ปีที่ผ่านมาเราถึงต้องยอมทนไม่พูดอะไรเลย ?
"อย่างที่บอกครับ ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเงิน 70 -30 แล้ว แต่มันเป็นเรื่องของการที่มีคนมาว่าพ่อผม เอาคนอื่นมาด่าพ่อผม ส่วนเรื่องที่บอกว่าทำไมผมถึงไม่ฟ้องตั้งแต่แรก ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วอีกเหมือนกัน ผมได้ยื่นเอกสารไปให้พี่เขาแล้ว แต่พี่เขาเมินดังนั้นผมก็เลยคิดว่าผมจบแค่นั้นดีกว่า ผมได้รู้ใจคนแล้วว่าเขาเป็นยังไง"
แต่วันนั้นเหมือนเขาบอกว่าเขาไม่ได้รับเอกสาร เอกสารส่งไปผิดที่อยู่หรือเปล่า ?
"แต่เอกสารมีคนรับแล้วครับ มีคนเซ็นรับแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่มีการเซ็นรับเกิดขึ้นแล้วครับ"
ด้วยความที่เราไม่มีเอกสารอะไรเลยตั้งแต่ต้นกลัวไหมว่าดำเนินคดีไปสุดท้ายแล้วเราจะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย ?
"จริงๆ ผมก็ไม่ได้มีความรู้ในส่วนตรงนี้นะครับ แต่ก็มีทนายหลายท่านเหมือนกันที่เข้ามาให้ความรู้ผมด้านนี้พอสมควรเลย"
ถ้ามีรายการติดต่อให้เรากับเจนนี่ไปออกรายการด้วยกันเรายินดีไหม ?
"มาเลยครับ ผมพร้อม ผมก็พร้อมตลอด ตอนไหนก็ได้ มาพูดความจริงกันเลย ผมไม่กลัวอยู่แล้วความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ผมไม่กลัว มาเลยครับ สาบานเลยก็ได้ ผมจะพาพี่เขาไปสาบานที่วัดที่พี่เขานับถือ ผมเองก็เป็นลูกหลานเหมือนกันถ้าไปสาบานด้วยกันได้เลยครับ"
ตัวเราเองเราคิดว่าเราถูกโกงไหม ?
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน น่าจะโดนโกงล่ะครับ แต่ก็อยู่ที่คำพูดของคนด้วย สัญญาของคนด้วย"
มีอะไรจะฝากถึงเจนนี่ผ่านสื่อบ้างไหม ?
"ออกมาพูดความจริงเถอะครับ ทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิดนะ ถ้ามีส่วนไหนที่ผมผิด ผมก็ยินดียอมรับผิดเช่นกัน แต่ผมเชื่อมั่นในตัวเองว่าสิ่งที่ผมพูดออกไปทั้งหมดคือเรื่องจริง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อผมก็ไม่โกรธ แต่ผมอยากให้ทุกคนเสพข่าวดีๆ อย่าด่ากันไปด่ากันมา เพราะมันไม่มีประโยชน์"
ตั้งแต่เริ่มมีเรื่องเขาได้ติดต่อมาหาคุณพ่อเราบ้างไหม ?
"มีแต่ติดต่อมาตอนที่จะให้ผมไปเซ็นสัญญาครับ แต่ผมไม่ไป เขาติดต่อมาตั้งแต่ช่วงที่เพลงดังใหม่ๆ เลย แต่หลังจากนั้นมาก็ไม่ได้มีการติดต่อพูดคุยถึงเรื่องนี้เลย เรื่องที่เขาให้สัญญาไว้ไม่ได้มีการติดต่อเลยครับ หายไปเลย แต่จริงๆ ก็มีนะครับเป็นผู้ใหญ่ฝั่งเขาโทรมาเคลียร์ โทรมาขอเคลียร์กับฝั่งผม ก็อย่างที่บอกฝั่งผมก็ให้อภัย ผมให้โอกาส ให้เขาออกมาพูดความจริง แต่สิ่งที่พี่เขาอยากจะเคลียร์เขาไม่ได้ต้องการจะเคลียร์เลย เขาแค่ต้องการจะปัดปัญหาอย่างเดียวครับ"
ถ้าตอนนี้เราจะต้องทำงานร่วมกันกับพี่เขา เราคิดว่าสามารถทำได้ไหม ?
"ยากนิดหนึ่งครับ เพราะขนาดเรามีเรื่องกันแล้วเขายังจะติดต่อให้ผมไปเป็นเพราะเอกมิวสิควิดีโอของน้องเขาเลย"
เรื่องนี้เธอเป็นบทเรียนสำหรับเราเลยไหม ?
"บทเรียนครั้งใหญ่เลยครับ ต้องมองคนให้ดี"
สัญญาใจไม่มีจริงใช่ไหม ?
"สัญญาใจไม่มีจริง แต่ก็มีจริงครับ"
- "เก้า เกริกพล" โพสต์แล้ว หลัง "เจนนี่" ไลฟ์สดเรื่องโกงค่าตัว
- "เจนนี่" ไลฟ์อีกครั้งแจงชีวิตนี้ไม่เคยโกงใคร ยกมือเอ่ยคำสาบานให้มีอันเป็นไป
- เก้า เกริกพล ต้องได้ค่าตัวจาก "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" เท่าไหร่? หลังทำยอดวิวยูทูบดังพลุแตก
- ประวัติ "เก้า เกริกพล" เปิดวาร์ปหนุ่มคมเข้ม มากความสามารถด้านการร้องและดนตรี
- ประวัติ "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" สาวน้อยมากความสามารถที่มีดีมากกว่าความสดชื่น
อัลบั้มภาพ 21 ภาพ