ลูกชายฆ่าแม่ก่อนเดินแก้ผ้าโทงๆ พ่อห่วงเจอโทษประหาร-ยันลูกชายป่วยทางจิต
หัวอกคนเป็นพ่อข อความเป็นธรรม ลูกชายป่วยทางจิตแทงแม่ตาย ตำรวจส่งฟ้องศาลโดยไม่ระบุถึงสภาพจิตใจ
(5 ส.ค.63) ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสายัณห์ อายุ 60 ปี ชาว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือลูกชายที่ก่อเหตุแทงแม่ตัวเองเสียชีวิต โดยเชื่อว่าเกิดจากอาการทางประสาท หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวส่งฟ้องศาลโดยในสำนวนไม่มีการบ่งบอกว่าลูกชายมีสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ
นายสายัณห์ พ่อผู้สูญเสียภรรยาและลูกต้องมาติดคุก เล่าว่า ตนมีบ้าน 3 หลัง ตนอยู่ 1 หลัง ภรรยา 1 หลัง ลูกชายอีก 1 หลัง ปลูกอยู่ใกล้กัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ค.63 เวลา 19.00 น. โดยลูกชายคือนายก้องหล้า อายุ 31 ปี ได้เดินทางไปบ้าน นางรัชนีกร อายุ 58 ปี ภรรยาที่เลิกรากันไปสองปีและเป็นมารดาของนายก้องหล้า โดยไปขอนอนค้างที่บ้านอ้างกับมารดาว่าพ่อจะทำร้าย
จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่นานตนเองได้ยินเสียงร้องของอดีตภรรยาด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากบ้านห่างกันเพียง 50 เมตร จึงรีบวิ่งออกไปดูพบภรรยายืนพิงเสาหน้าบ้านเอามือกุมหน้าอกขวา ตนเองเลยรีบเข้าไปประคองร่างก่อนร้องให้คนช่วยและนำส่ง รพ.ชัยบาดาล แต่อดีตภรรยาสิ้นใจก่อนถึงมือหมอ ขณะที่ลูกชายเองหลังก่อเหตุเดินแก้ผ้าโทงๆ ออกไปหน้าหมู่บ้านและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา โดยพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุถูกทิ้งไว้ข้างบ้านผู้ตาย
ตนเองได้ถามลูกชายว่าทำไมถึงต้องฆ่ามารดาด้วยลูกชายบอกว่า "แม่ขู่ผม ผมเลยต้องฆ่า" อดีตที่ผ่านมาระหว่างรักษาตัวที่ รพ.ศรีธัญญา ลูกชายมักพูดจาเพ้อเจ้อต่างๆ นานา บอกร่างฤาษีตาไฟมาเข้าร่างตนเอง บางครั้งก็ไปทำลายศาลพระภูมิ บางทีก็ไปหักเศียรพระมาเล่น คืนเกิดเหตุ โดยสภาพตอนนั้นตนรู้เลยว่าลูกชายมีอาการทางประสาทกำเริบ เพราะต้องรักษาตัวที่ รพ.ศรีธัญญา มาตั้งแต่ปี 2558 และต้องพบหมอรับยาตามนัดตลอดเวลา ลูกชายเมื่อดื่มเหล้าอาการทางประสาทจะกำเริบ จนตนไม่ให้เงินติดตัวและบอกร้านขายเหล้าไม่ขายให้ลูกชาย ก่อนเกิดเหตุร้ายต้องพาไปพบหมอตามนัดในวันที่ 7 เม.ย.63 แต่ทางโรงพยาบาลไม่ยอมส่งตัวไปรักษาที่ศรีธัญญา อ้างว่าเดินทางข้ามจังหวัดไม่ได้เพราะมีเคอร์ฟิว ศบค.ไม่อนุญาต โดยฝากเพียงแค่ยามาให้รับประทานบรรเทาอาการเท่านั้น
"ถ้าหากลูกผมได้รับการส่งตัวไปรักษาอาการคงไม่กำเริบไปก่อเหตุฆ่าบุพการีตัวเองหรอก ทุกครั้งที่มีอาการเขาจะระแวงว่ามีคนมาทำร้าย และมักคิดว่าตัวเองมีร่างปู่ฤาษีตาไฟ เที่ยวพูดจาเพ้อเจ้อทั้งวันจนชาวบ้านรู้กันดี ตนเองเคยให้การกับตำรวจไปแล้วว่าลูกชายมีอาการทางจิต แต่ทางตำรวจกับไม่แนบสำนวนคำให้การหลักฐานต่างๆ ที่แสดงว่าลูกชายมีอาการทางประสาทไปให้อัยการและศาล จึงอยากมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทนายคนดังให้ช่วยเหลือเพื่อให้ลูกชายได้รับการบรรเทาโทษ เนื่องจากศาลเองได้นัดสืบพยานในวันที่ 17 ก.ย. 63 นี้แล้ว"
ทางด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจมากเพราะเป็นเหตุที่ลูกแทงแม่ตัวเองคิดว่าตัวเองเป็นองค์ฤษีตาไฟหลังจากแทงแม่เสร็จก็เดินแก้ผ้าไปในตัวอำเภอเหมือนคนบ้า ตนไม่เชื่อว่าในชั้นพนักงานสอบสวนคนเป็นพ่อจะไม่บอกว่าลูกตัวเองบ้า พนักงานสอบสวนควรให้ความเป็นธรรม เมียก็เสียชีวิต ลูกก็เป็นบ้า ใบรับรองก็มีเป็นของคลินิกสุขภาพจิตและจิตเวชในเอกสารระบุบ้า ก่อนแทงแม่ตาย คดีนี้คงสอบเพิ่มไม่ได้เพราะขึ้นศาลไปแล้ว ฝากตำรวจ ถ้าญาติมาบอกว่าบ้าช่วยสอบให้หน่อย ส่วนด้านคดีฆ่าบุพการีมีโทษประหารชีวิตสถานเดียว ถ้าพิสูจน์ได้ว่าขณะกระทำความผิดสติไม่สมประกอบไม่มีสติอยู่กับตัว อ้างว่าฤๅษีเข้าแล้วมีหมอยืนยัน ในด้านกฏหมายเอาผิดไม่ได้ แต่ถ้าได้รับโทษจะได้รับน้อยกว่าคนปกติแล้วแต่ดุลยพินิจของศาล