ไอ้เข้โผล่โชว์สองวันติด พบไข่ปริศนา

ไอ้เข้โผล่โชว์สองวันติด พบไข่ปริศนา

ไอ้เข้โผล่โชว์สองวันติด พบไข่ปริศนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอล็อต บุกพิสูจน์ แห่ดูแน่น เขาใหญ่ หมอล็อต สัตวแพทย์ดัง บุกพิสูจน์ จระเข้เขาใหญ่ ฮือฮาพบไข่ 1 ฟองอยู่ใกล้วังจระเข้ รอตรวจสอบว่าเป็นไข่อะไร พร้อมเก็บมูลไปตรวจสอบ ขณะที่จระเข้โผล่โชว์ตัวให้นักท่องเที่ยวได้เห็นเป็นวันที่สองติดต่อกัน หมอล็อต เผยจะเก็บตัวอย่างทางกายภาพและสภาพแวดล้อมเพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลว่าจะ ดำเนินการต่อไปอย่างไร และยังไม่มีการจับจระเข้ขึ้นมาตรวจสอบ เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ในฟาร์มหรือสวนสัตว์

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ก.ย. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เตรียมการเข้าสำรวจพื้นที่วังช้าง คลองลำตะคอง สถานที่อาศัยของจระเข้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้คณะสัตวแพทย์จากกรมอุทยานห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของจระเข้ดังกล่าว โดยมีการจัดเตรียมกรงขนาดใหญ่ เรือยางที่ขอยืมมาจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเสม็ด ขณะเดียวกันรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ณ จุดเฝ้าจระเข้แจ้งว่า พบจระเข้ลอยตัวอยู่ในป่าหญ้าริมน้ำ บริเวณคลองสามแพ่ง ห่างจากวังช้างประมาณ 50 เมตร จึงรีบรุดไปตรวจสอบ

เมื่อเข้าไปถึงบริเวณดังกล่าว พบจระเข้ สีเทาดำ ลอยตัวนอนอยู่ในพงหญ้าริมน้ำ ฝั่งตรงข้ามกับจุดซุ่ม สามารถมองเห็นจระเข้ตัวดังกล่าวได้ตลอดหัวจดหาง มีความยาวประมาณ 1.8 เมตร เบื้องต้นคาดว่าเป็นคนละตัวกับที่พบเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา จระเข้ดังกล่าวนอนลอยตัวเพื่อรอจับปลาเป็นอาหารอยู่เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง โดยไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน ขณะเดียวกันเริ่มมีนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวการเตรียมจับจระเข้ พากันบุกป่าเข้าไปร่วมชมเป็นจำนวนมาก โดยทุกคนต่างตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เห็นจระเข้ที่อยู่ตามธรรมชาติ พากันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างสนุกสนาน แต่เมื่อมีคนมาปรากฏตัวเป็นจำนวนมาก และส่งเสียงดังจนจระเข้ตัวดังกล่าวตกใจ รีบว่ายหนีไปทางวังช้าง หลังจากว่ายไปได้ประมาณ 50 เมตร จระเข้ดังกล่าวดำน้ำหนีหายไป

ต่อมาพบจระเข้อีกตัวหนึ่งนอนอาบแดด อยู่บนฝั่ง บริเวณวังช้าง เห็นแต่เพียงท่อนหางโผล่ออกมาเท่านั้น ส่วนลำตัวหลบอยู่ในพงหญ้า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ระบุว่า เป็นจระเข้คน ละตัวกับที่เห็นเพราะจระเข้ตัวดังกล่าวมีขนาดเล็กกว่า และปลายหางสมบูรณ์ ส่วนตัวที่พบบริเวณหางประมาณปล้องที่ 4 จากปลายหาง มีรอยแหว่งอย่างเห็นได้ชัด โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา พบจระเข้ตัวดังกล่าวนอนอาบแดดอยู่บนขอนไม้ และมีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งเข้าไปพบพร้อมถ่ายภาพ แต่เกิดมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเหตุให้จระเข้เกิดตกใจ กระโดดลงน้ำหนีไปทันที จนมาพบอีกครั้งที่บริเวณวังช้างนี้

เวลา 13.00 น. น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน หรือ "หมอล็อต" นายสัตวแพทย์ประจำสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ถึงจุดที่พบจระเข้ ให้สัมภาษณ์ว่า ครั้งนี้เป็นการมาเก็บตัวอย่างทางกายภาพและสภาพแวดล้อม เพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ยังไม่มีการจับจระเข้ขึ้นมาตรวจสอบ เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ในฟาร์มหรือสวนสัตว์ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะต้องสำรวจให้แน่ชัดว่ามีกี่ตัว อยู่ตรงจุดไหน อาจเก็บกองมูลไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอ แต่อาจไม่ได้ผลมากเท่าไร ขึ้นอยู่กับสภาพของมูลที่เก็บตัวอย่างได้ แต่หากต้องการผลที่แน่นอนต้องจับตัวมาเก็บตัวอย่างเลือดจึงจะได้ผลเต็มร้อย

"ขณะนี้หลายสมมติฐานเกี่ยวกับจระเข้ที่เขาใหญ่ ต้องใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาพิสูจน์ ครั้งนี้เป็นเพียงการเข้าไปสังเกตจุดที่พบจระเข้เป็นประจำว่าจะพบข้อมูลอะไร ที่จะเป็นประโยชน์บ้างหรือไม่ เมื่อได้ตัวอย่างมาแล้ว ยังต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์อีกระยะหนึ่ง จากนั้นจึงปรึกษาทีมงานว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป และการจะเข้าไปจับจระเข้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหลังจากวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมนัดแนะวิธีกับเจ้าหน้าที่ให้ดี เพราะหากจับผิดวิธีอาจทำให้จระเข้บาดเจ็บได้ ที่สำคัญคือเรื่องความปลอด ภัย เพราะขณะนี้จระเข้อยู่ในแหล่งธรรมชาติ กลายเป็นสัตว์ป่าไปแล้ว จึงมีสัญชาตญาณสัตว์ป่ามาก มีวิธีหลบหนีมากมาย รวมถึงอาจเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้โดยง่าย หรือหนีหายไปจนไม่มีใครพบอีก"

เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำเรือยางลงสู่พื้นที่วังช้าง แต่บริเวณดังกล่าวเป็นป่าทึบ ทำให้การนำเรือเข้าพื้นที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก โดยต้องโยงด้วยเชือกยาวค่อยๆ ปล่อยให้ไหลลงไปด้านล่าง ที่เป็นหุบเขาสูงชัน นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งทำหน้าที่เบิกทางด้วยการใช้เลื่อยยนต์ ตัดต้นไม้ เพื่อเปิดทางลงสู่วังช้าง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงนำเรือไปถึงริมตลิ่งได้สำเร็จ จากนั้น น.สพ. ภัทรพล และนายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นำทีมเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าว เข้าสำรวจบริเวณที่พบจระเข้

หลังจากใช้เวลาไม่นาน ทีมสำรวจไปถึงบริเวณคลองสามแพร่ง จุดที่พบจระเข้ตัวแรกในช่วงเช้า พบบริเวณริมตลิ่งมีรอยดินราบเป็นเงามัน แสดงถึงเป็นจุดขึ้นลงของจระเข้ จึงขึ้นฝั่งไปสำรวจ และพบกับไข่จำนวน 1 ฟอง สีขาวนวล ขนาดความยาวประมาณ 3 นิ้ว เส้นรอบวงประมาณ 2 นิ้ว โดยไข่ฟองดังกล่าวฝังอยู่ในดินครึ่งใบ รอบไข่มีร่องรอยการคุ้ยดิน ไม่พบไข่ฟองอื่นอีก จึงจดบันทึกรายละเอียด และบันทึกภาพไว้เป็นข้อมูล แต่ยังไม่ยืนยันว่าไข่ดังกล่าวเป็นไข่จระเข้หรือสัตว์อื่น ต้องนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลถึงโครงสร้างและรูปร่างไข่ฟองดังกล่าว จากนั้นต้องนำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านจระเข้ก่อน จึงจะสามารถสรุปได้

ต่อมาล่องเรือยางตามน้ำไปยังวังช้าง จุดที่พบจระเข้นอนอาบแดดในช่วงเช้า พบกองซากมูลจระเข้ แต่เป็นมูลเก่าหลายวัน จึงเก็บตัวอย่างเพื่อไปตรวจวิเคราะห์โดยละเอียดอีกครั้ง โดยใช้เวลาในการสำรวจทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง จึงขึ้นฝั่ง

นายประวัติศาสตร์กล่าวหลังสิ้นสุดการสำรวจในวันนี้ว่า การสำรวจเก็บข้อมูลไม่ได้ทำวันนี้เพียงวันเดียว แต่ต้องใช้เวลาอีกสักพัก อาจต้องเดินเท้าสำรวจทั่วบริเวณเป็นเวลานับเดือน จากนั้นต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นต้องอยู่ที่นโยบายของผู้บริหารระดับสูงว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เท่าที่ดูจากสายตาคาดว่าจะเป็นสายพันธุ์แท้ แต่ต้องรอการพิสูจน์อีกครั้ง หากเป็นจระเข้พันธุ์แท้จริง เป็นเรื่องดี เพราะโดยธรรมชาติแล้วจะไม่มีนิสัยดุร้าย จากนั้นต้องมาดูว่า จะเอาอะไรออกจากพื้นที่ดังกล่าว คนหรือสัตว์ป่า

"ขณะนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมจระเข้เป็นจำนวนมาก จึงอยากขอความกรุณานักท่องเที่ยวให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ให้เสร็จสิ้นก่อน หากเป็นพันธุ์แท้สมควรอนุรักษ์ แต่ต้องมาดูว่าจะอนุรักษ์อย่างไร อาจกันเป็นพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม แต่ต้องอย่างเข้าใจและมีระเบียบในการเข้าชม อาจจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว หรือทำวอล์กบอร์ด เพื่อจัดให้นักท่องเที่ยวชมจากพื้นที่สูงไม่รบกวนความเป็นอยู่ของจระเข้ เพราะจะต้องมีการทำงานวิจัยควบคู่กันไปด้วย

ด้านนายประหยัด เสือโพธิไทย อายุ 45 ปี ชาวนครนายก นักท่องเที่ยวที่มาชมจระเข้โดยเฉพาะ กล่าวว่า ปกติเที่ยวเขาใหญ่เป็นประจำ แต่ไม่เคยเดินป่า มาท่องเที่ยวด้วยการขับรถส่องสัตว์เท่านั้น แต่ครั้งนี้ทราบข่าวจระเข้ดังกล่าวจึงตั้งใจมาชมเป็นพิเศษ โดยมากันทั้งครอบครัวจำนวน 5 คน นอกจากนั้นบุตรชายทั้งสองคน ยังอยู่ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โรงเรียนนครนายกวิทยาคม มาเดินป่าเขาใหญ่เป็นประจำ แต่เป็นครั้งแรกที่มาเดินเส้นทางระหว่างน้ำตกผากล้วยไม้และน้ำตกเหวสุวัต เพื่อชมจระเข้โดยเฉพาะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook