อาลัย "ภูวดล ป้องสา" เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน อช.เขาแหลม เสียสละช่วยเพื่อนจนตัวตาย

อาลัย "ภูวดล ป้องสา" เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน อช.เขาแหลม เสียสละช่วยเพื่อนจนตัวตาย

อาลัย "ภูวดล ป้องสา" เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน อช.เขาแหลม เสียสละช่วยเพื่อนจนตัวตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายภูวดล ป้องสา หัวหน้าชุดลาดตระเวน อช.เขาแหลม เสียชีวิตในหน้าที่ สุดเศร้าลูกคนเล็กเพิ่งคลอดได้ 2 เดือน

นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. เวลาประมาณ 22.00 น. ได้รับแจ้งจากทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ว่ามีเจ้าหน้าที่อุทยานเขาแหลมชื่อ นายภูวดล ป้องสา อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สายตรวจจมน้ำระหว่างข้ามห้วยซึ่งมีระดับน้ำสูงเนื่องจากฝนตกหนักใกล้หน่วยพระบุ่งในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่

ในระหว่างออกตรวจลาดตระเวน เจ้าหน้าที่ชุดที่ไปด้วยกันนำขึ้นมาทำ CPR แต่เนื่องจากไม่มีชีพจร จึงได้ประสานหน่วยพิทักษ์ ขสป.ทุ่งใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอความช่วยเหลือ

ต่อมาอุทยานแห่งชาติเขาแหลมได้จัดชุดกู้ภัยเข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือซึ่งต้องเดินทางด้วยรถและต้องใช้เรือชาวบ้านไปรับ ล่าสุดเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำศพออกจากพื้นที่เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดต่อไป


สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต เป็นชุดที่ออกตรวจลาดตระเวนของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมไปปฏิบัติภารกิจในการติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า โดยมีเจ้าหน้าที่ร่วมทีม จำนวน 6 นาย ออกเดินป่าตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม โดยเริ่มเดินเส้นทางสันหนอกวัว และมีกำหนดเดินทางกลับในวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งจะมาพักค้างที่หน่วยพะบุ่ง ขสป.ทุ่งใหญ่ ซึ่งเป็นเขตติดต่อ กับ อช.เขาแหลม แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน

นายเทวินทร์ เปิดเผยต่อว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนหนุ่มที่ตั้งใจทำงาน เมื่อได้รับการมอบหมายงานจะทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวนในเส้นทางสันหนอกวัว-กองม่องทะ ตนรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพและต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวที่ต้องมาเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป โดยนายภูวพล มีภรรยาแล้วและมีลูกด้วยกัน 2 คน คนสุดท้องเพิ่งอายุได้ประมาณ 2 เดือน ภายหลังทราบข่าวตนได้รายงานผู้บังคับบัญชา โดยท่านอธิบดีกรมอุทยานฯได้สั่งการให้ตนดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และเรื่องการจัดงานศพอย่างสมเกียรติ พร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องเงินเยียวยาที่จะได้รับอย่างเต็มที่ตามระเบียบของทางราชการอย่างเต็มที่

ด้านศูนย์ข่าวภูมิภาค กาญจนบุรี รายงานว่า นายภูวดล ป้องสา อายุ 27 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 2 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

โดยนายภูวดล ได้ออกลาดตระเวนกับเพื่อนร่วมงานอีก 5 นายคือ 1.นายทวัชชัย เงินแก้ว 2.นายเอกชัย แสนใจดี 3.นายอัจฉริยะ บุญสมยา 4.นายพรชัย ไทรสังขกุลพร 5.นายวิจิตร ณ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดนอกจะเดินลาดตระเวนแล้ว ยังมีหน้าที่ติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าด้วย โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 นาย ออกลาดตระเวนระหว่างวันที่ 1-6 ส.ค.63

นายอัจฉริยะ บุญยมยา เพื่อนในทีมผู้เสียชีวิต เล่าเหตุการณที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ชุดลาดตระเวนที่มี นายภูวพล ป้องสา เป็นหัวหน้าชุด เริ่มออกลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบพร้อมเก็บกล้องที่ตั้งเอาไว้สำหรับดักถ่ายสัตว์ป่า ในเส้นทางสันหนอกวัว-บ้านกองม่องทะ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ

โดยออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้าของวันที่ 1 ส.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนกำลังเริ่มตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยชุดลาดตระเวนที่มาด้วยกัน 6 นายมามาถึงริมแม่น้ำรันตี ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดสะกัดพ่าบุ่ง ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ขณะนั้นท้องฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว

โดยทุกคนตั้งจะข้ามไปนอนพักค้างคืนที่หน่วยพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยทำกันเป็นประจำและขณะนั้นมวลน้ำในแม่น้ำรันตี เริ่มมีระดับน้ำสูงขึ้นและไหลเชี่ยว โดยนายภูวดล ที่เป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวนได้อาสาเป็นคนว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามด้วยการใช้เชือกผูกที่เอว หวังว่าเมื่อไปถึงฝั่งจะได้นำเชือกไปผูกกับต้นไม้ เพื่อให้ทุกคนอาศัยเชือกข้ามไป ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยทำอยู่เป็นประจำเช่นกัน

แต่ครั้งนี้ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ขณะที่นายภูดล กำลังว่ายน้ำไปถึงกลางแม่น้ำ ปรากฏเกิดกระแสน้ำไหลวนอย่างรุนแรงทำให้กระแสน้ำดูดเอาร่างของนายภูวดล จมลงไปใต้ท้องน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกคนเห็นต่างก็รู้สึกตกใจ พร้อมกับตะโกนเรียกชื่อและได้พยายามดึงเชือกที่ผูกเอาไว้กับเอวของนายภูวดลขึ้นมาบนฝั่ง แต่กว่าจะดึงขึ้นมาได้ต้องใช้เวลานานพอสมควร เมื่อนำขึ้นมาได้ทุกคนต่างช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการทำ CPR นานกว่า 1 ชั่วโมงก็ยังไม่ฟื้น และเสียชีวิตในที่สุด จากนั้นจึงได้ขอความช่วยเหลือไปยังให้เจ้าหน้าที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่หน่วยสกัด พ่าบุ่ง ให้วิทยุแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ

"รู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียผู้ร่วมงานที่เป็นที่รักในทีมและเป็นผู้ที่ทำงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละมาตลอด หลังเกิดเหตุการณ์ทุกคนต่างขวัญเสีย แต่ก็ต้องนอนเฝ้าร่างของเพื่อนตลอดทั้งคืน จนมีการเข้าไปช่วยเหลือได้ในวันนี้" นายอัจฉริยะ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook