"ไบร์ท วชิรวิชญ์" เปิดใจเคลียร์ ดราม่าถาโถม ไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายผมก็พอ

"ไบร์ท วชิรวิชญ์" เปิดใจเคลียร์ ดราม่าถาโถม ไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายผมก็พอ

"ไบร์ท วชิรวิชญ์" เปิดใจเคลียร์ ดราม่าถาโถม ไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายผมก็พอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ออกมาเปิดใจเคลียร์แบบหมดเปลือกรวดเดียวจบเลยก็ว่าได้ สำหรับนักแสดงหนุ่ม ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี ที่กำลังมาแรงแซงทุกทางโค้งในช่วงนี้ แต่ในขณะเดียวก็เจอกับกระแสดราม่าต่างๆ กับโลกโซเชียล ที่เข้ามาถาโถมอย่างหนักหน่วงชนิดที่ว่าตั้งรับแทบไม่ทันเลยทีเดียว

ล่าสุด ไบร์ท วชิรวิชญ์ ได้เผยถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้กับสื่อมวลชนได้ฟังว่า เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งก็มีทั้งเรื่องจริงและไม่จริง อันไหนที่เป็นเรื่องจริงและตนทำผิดก็ขอโทษทุกคน อาจจะเป็นเพราะวัยเด็กเป็นคนที่ไม่น่ารักเท่าไหร่ แต่จากนี้ไปขอแก้ตัวใหม่ อยากทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเรื่องความรักไม่ขอพูดถึง อยากให้คนโฟกัสที่ผลงานมากกว่า

ณ วันนี้ใช้ชีวิตยังไงบ้างเพราะว่าความดังแซวหน้าโควิดไปแล้ว ?
"เหมือนเดิมครับยังทำงานเหมือนเดิม ตอนนี้มันดีตรงที่ว่าผมได้ทำในหลายๆ อย่างที่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลงหรือว่างานอะไรอื่นๆ ที่กำลังจะตามมา ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่สนุกกับงานมากๆ"

รู้สึกว่ามันเหมือนฝัน ?
"ยิ่งกว่าฝันอีกครับ ยิ่งกว่าที่เคยฝันไว้เยอะเลยครับ"

ปรับตัวยังไงกับความดังอย่างรวดเร็วที่เข้ามา ?
"หลังๆ ผมพยายามจะมีความสุขกับชีวิต รู้สึกว่าทุกวันนี้ชีวิตผมมีความสุขมากขึ้น ได้มีเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ เยอะขึ้น ที่บ้านผมมีความสุขมากขึ้น เรื่องเครียดน้อยลง ผมว่าผมมีความสุขขึ้นเยอะเหมือนกันนะ"

ใช้ชีวิตยากขึ้นไหมหลังจากที่ทุกคนโฟกัสชีวิตเราไม่ว่าจะทำอะไรยังไง ?
"ต้องยอมรับว่ามันยากขึ้นแหละ มีอะไรที่เราต้องรับผิดชอบมากขึ้น ด้วยความที่คนที่รู้จักเรามีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีหลายเพศหลายวัยเวลาเราทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบต่อทุกๆ กลุ่ม แต่มันก็เป็นเรื่องดีเหมือนว่าเราได้เช็กตัวเอง ได้มีฟีดแบ็กว่าทำแบบนี้มันดีมั้ย เราจะได้ทบทวนตัวเองตลอด ผมว่ามันก็ดีนะเพราะว่าเราก็อยากจะดีขึ้นในทุกๆ วันอยู่แล้วด้วยครับ"

ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่เจอเรื่องราวเยอะๆ ตอนนั้นรู้สึกยังไง ?
"มันก็เสียใจ เราก็คิดมาก มีดาวน์บ้าง แต่ว่าสุดท้ายแล้วเราก็รู้สึกว่าเราก็ยังต้องทำตรงนี้ต่อไป เรารักอาชีพนี้อยากอยู่ตรงนี้ก็ต้องทำให้เต็มที่ แล้วมันยังมีคนที่สนับสนุนเรา คนที่รอคอยผลงานดีๆ ของเรา เนี่ยแหละมีความสุขกับชีวิต แล้วผมก็จะทำงานของผมให้ดีและพัฒนาตัวเองต่อไป"

แต่ละเรื่องที่เข้ามาก็ต่อเนื่องตลอด ตั้งรับยังไง ?
"จริงๆ ตอนนั้นหนักเหมือนกันครับ กินไม่ค่อยได้นอนไม่ค่อยหลับ แต่ผมแค่รู้สึกว่าเรารู้ว่าตัวเองวันนี้เป็นยังไง เราจะทำสิ่งดีๆ จะตั้งใจทำงาน ถ้าเราทำต่อไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งคนก็ต้องเห็นว่าผมเป็นคนยังไงวันนี้ อยากจะให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกันครับ"

ไบร์ท วชิรวิชญ์

เคยร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นบ้างไหม ?
"ผมไม่ใช่คนร้องไห้ครับ"

ใช้กำลังใจส่วนไหนในการก้าวข้ามมันไป ?
"ก็คงเป็นครอบครัวครับ คือจริงๆ ผมไม่ใช่คนที่จะปรึกษาครอบครัวเท่าไหร่ จะไม่ได้บอกว่า แม่เครียด ผมจะไม่ค่อยเล่าครับ เก็บปัญหาและจัดการกับตัวเองมากกว่า แต่ว่าครอบครัวจะเป็นกำลังใจตรงที่ว่างานที่เราทำตรงนี้มันไม่ได้ทำเพื่อเราคนเดียวไง ครอบครัวหรือญาติพี่น้องก็ได้ประโยชน์จากเราในงานตรงนี้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องไปต่อครับ ต้องสู้ต่อ"

เหมือนการทำงานในวงการบันเทิงก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัว ?
"จริงๆ ผมทำงานมานานแล้วนะครับ ผมใช้ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กมาก็คือมีคนจับตามองมาอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ แค่วันนี้มันอาจจะมีคนมองเยอะขึ้น มีกลุ่มคนรู้จักมากขึ้น มีความรับผิดชอบที่มันมากขึ้นเฉยๆ ครับ"

บางคนยังขุดเรื่องเก่าๆ มาพูดทั้งๆ ที่ผ่านไปนานมากแล้ว เรารู้สึกยังไง ?
"มันก็มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริงครับ อันไหนที่เป็นเรื่องจริงแล้วเราผิด ผมก็ขอโทษทุกคนเลยที่ผมทำอะไรไม่ดีไว้ตอนเด็ก ทำให้รู้ว่าตอนเด็กไม่ได้เป็นคนที่น่ารักเท่าไหร่ แต่วันนี้อย่างที่บอกครับ ตั้งใจจะเป็นคนที่ดีขึ้น ตั้งใจจะทำประโยชน์ให้คนอื่นมากขึ้นครับ"

เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียนให้เรายังไงบ้าง ?
"อย่างที่บอก ผมว่าคนเราผิดพลาดได้ครับ แต่ผิดแล้วเราต้องจำ เราต้องดูว่าสิ่งนี้มันดีหรือไม่ดี และเราก็นำไปเป็นบทเรียนพัฒนาตัวเองว่า อนาคตฉันจะเป็นยังไง ฉันจะทำยังไงให้มันดีขึ้น"

ช่วงที่เกิดเรื่องดราม่าเยอะๆ แอบมีถามกับตัวเองไหมว่าทำไมเราต้องมาเจอแบบนี้ ?
"ไม่นะ ผมรู้สึกว่าเขาก็มีสิทธิ์ เราเคยทำผิด เขารู้ เขาไม่โอเค เราก็ต้องรับผิดชอบแหละ แต่ผมไม่สามารถไปแก้ไขอดีตได้ สิ่งที่ผมทำได้คือจะทำพรุ่งนี้ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ"

ยังมีคนเข้าใจเราผิด เราอยากจะบอกอะไรเขาบ้าง ?
"ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายผมก็พอ"

แฟนคลับคอยช่วยซัพพอร์ตเราแค่ไหน ?
"เยอะแยะมากครับ แฟนคลับช่วยเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นข้อความหลายๆ ช่องทางในโซเชียล เวลาเราเห็นก็ทำให้รู้ว่า ยังมีคนซัพพอร์ตเราอยู่ ยังมีคนที่รอคอยผลงานเราอยู่ ยังมีคนที่เรายังเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ งานเรามันไม่ได้เพื่อเราคนเดียว เราทำเพื่อใครหลายๆ คน ทำให้รู้สึกว่ายังมีแรงทำต่อ มันได้ทำเพื่อคนอื่นด้วย"

เพราะแฟนคลับด้วยหรือเปล่าที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องทำตัวให้ดีขึ้นกว่านี้ ?
"ไม่ครับ ไม่ใช่เพราะแฟนคลับหรอก เพราะงานของเรานี่แหละ มันคนเห็นเยอะ ผมแค่รู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบต่อสังคม แต่แฟนคลับเหมือนเป็นแรงใจให้ผมมากกว่า แฟนคลับผมไม่เคยบังคับผมเลยนะครับ จะรักที่ผมเป็นมากกว่า แต่เราก็ต้องรับผิดชอบต่อคนกลุ่มรวมด้วย"

ครอบครัวเราให้กำลังใจอย่างไรบ้าง ?
"ไม่ค่อยเลยครับ ผมไม่ค่อยคุยกับที่บ้านเลย คือผมจะเป็นประเภทแบบ ไม่อยากเอาเรื่องเครียดๆ ไปให้คนอื่นที่เขาไม่น่าจะแก้ปัญหาให้ผมได้ ผมจะเป็นแนวแบบโทรไป รักแม่นะ เออแม่รักลูก พอ ผมจะไม่ไปนั่งขอกำลังใจอะไรขนาดนั้นครับ"

ส่วนใหญ่ใครเป็นคนให้กำลังใจเรา ?
"ถ้าช่วงที่หนักจริงๆ จะเป็นคุณน้าครับ น้ากิ๊ก น้าผมจะมาอยู่ด้วยแทบทุกวันเลย เป็นคนที่เข้าใจผมที่สุดแล้วครับ"

สถานะหัวใจตอนนี้ว่างอยู่หรือเปล่า ?
"ตอนนี้เหรอครับ ก็...อืม จะยังว่างหรือไม่ว่าง ผมว่าไม่ใช่ประเด็น ผมอยากให้คนโฟกัสที่งานผมมากกว่า ถ้าใครจะรู้สึกไม่ชอบผม เพราะว่าผมหัวใจไม่ว่าง ผมก็ยอมรับครับ แต่ก็สำหรับคนที่ยังโฟกัสผลงานอยู่ ไม่โฟกัสในเรื่องอื่นๆ ผมก็ขอบคุณมากๆ ที่ยังรักผม (ยกมือไหว้)"

เรื่องความรัก เราสามารถพูดถึงได้เยอะขึ้นไหม ?
"จริงๆ ผมรู้สึกว่าผมโฟกัสกับงานมากกว่า ผมรู้สึกว่าถ้าจะให้ใครจำผมได้ในภาพไหน ผมอยากให้จำผมว่าคือคนที่ตั้งใจทำงาน ผมคือคนที่พัฒนาตัวเอง ไม่ใช่ชอบผมเพราะว่าผมโสด หรือชอบเพราะผมโสด"

ความมีชื่อเสียง ส่งผลในเรื่องความรักของเราไหม ?
"มีครับ แต่ว่ามียังไง ผมขอเก็บไว้แล้วกัน"

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "ไบร์ท วชิรวิชญ์" เปิดใจเคลียร์ ดราม่าถาโถม ไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายผมก็พอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook