ครูฝึกสอนข่มขืนเด็กหญิงออทิสติกวัย 12 ในห้องเรียน-ห้องน้ำ จนอวัยวะเพศฉีกขาด

แม่พาลูกสาวป่วยออทิสติกขอความช่วยเหลือ ถูกครูฝึกสอนล่วงละเมิดจนอวัยวะเพศฉีกขาด กลัวแพ้คดีเพราะไม่มีทนายไปสู้

(11 ส.ค.63) นางน้อย (นามสมมติ)  อายุ 56 ปี  ชาว อ.กระสัง   จ.บุรีรัมย์ ได้พา ด.ญ.เอ  (นามสมมติ) อายุ 12 ปี  ลูกสาวซึ่งเป็นเด็กพิเศษ (ออทิสติก)  เข้าร้องขอความช่วยเหลือที่สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย กรณีที่ลูกสาวถูกครูฝึกสอนล่วงละเมิดทางเพศ  เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งทางพนักงานอัยการได้ส่งฟ้องต่อศาล จ.บุรีรัมย์ แล้ว และศาลได้นัดสืบพยานครั้งแรกในวันที่ 29 ก.ย.2563  ที่จะถึงนี้ แต่ทางครอบครัวผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะทางครูที่ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธทั้งมีการว่าจ้างทนายต่อสู้คดี แต่ทางผู้เสียหายไม่มีทนายไปต่อสู้ และไม่รู้กฎหมาย จึงได้มาขอความช่วยเหลือจากสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย    ขณะที่ทางสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายก็รับปากจะจัดตั้งทนายความ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านคดีความ

โดยนางน้อย ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ด.ญ.เอ  ลูกสาวเรียนอยู่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.กระสัง เมื่อช่วงกลางเดือน ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา  ลูกสาวเริ่มมีอาการผิดปกติซึมไม่ร่าเริง แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร  กระทั่งลูกสาวบ่นว่าเจ็บแสบที่อวัยวะเพศ วันที่ 25  ต.ค.จึงตัดสินใจ  พาลูกสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลกระสัง หมอลงความเห็นว่า “อวัยวะเพศฉีกขาด” จึงพยายามเค้นถามลูกสาวว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกสาวก็บอกว่าถูก นายก๊อป (นามสมมติ) ครูฝึกสอนที่โรงเรียนบังคับล่วงละเมิดทางเพศ 2 ครั้ง ในห้องเรียน 1 ครั้ง และห้องน้ำในโรงเรียนอีก 1 ครั้ง  ซึ่งตนได้ยินตอนแรกก็ตกใจแต่ก็พยายามถามย้ำหลายรอบ ลูกสาวก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าถูกครูคนดังกล่าวล่วงละเมิดทางเพศ  

จากนั้นวันที่ 28 ต.ค.2562  จึงตัดสินใจพาลูกสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.ลำดวน อ.กระสัง ซึ่งตำรวจก็ได้ส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง หมอก็ลงความเห็นว่ามีร่องรอยฉีกขาดที่อวัยวะเพศ  

จากนั้นทางพนักงานสอบสวนก็ได้ดำเนินการตามกระบวนการ โดยเรียกนายก๊อป  ครูฝึกสอน ที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ เบื้องต้นนายก๊อป ให้การปฏิเสธไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าว  แต่ด้วยพยานหลักฐาน ผลตรวจแพทย์  และ ด.ญ.ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันตัวผู้ถูกกล่าวหา ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหานายก๊อป  “พรากผู้เยาว์ และอนาจาร” พร้อมทั้งได้สรุปสำนวนส่งอัยการตามขั้นตอน ซึ่งนายก๊อป ก็ได้ยื่นประกันตัวสู้คดี ล่าสุดขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล  โดยศาลได้นัดสืบพยานครั้งแรกวันที่ 29 ก.ย.2563 ที่จะถึงนี้ แต่ทางครอบครัวเกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมจึงได้เข้ามาร้องสำนักงานกฎหมายให้ช่วยเหลือ   เพราะไม่รู้ขั้นตอนกฎหมายเลย

ด้าน น.ส.มาลี พี่สาว ด.ญ.เอ บอกว่า   หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นน้องสาวก็มีอาการหวาดกลัวไม่กล้าออกไปไหน  ก็สงสารน้องสาวมากเพราะน้องเป็นเด็กพิเศษแต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ แม้ตนเองไม่ได้เห็นเหตุการณ์แต่เชื่อคำพูดของน้องสาวว่าถูกครูกระทำจริง  เพราะน้องเป็นคนไม่พูดโกหก   และไม่มีเหตุผลอะไรที่น้องจะต้องไปกล่าวหาครู ที่มาสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายในวันนี้  เพื่อมาขอความช่วยเหลือเพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม