ทิ้งลูก2ดญ. อยู่กันลำพัง-พ่อแม่หาย!

ทิ้งลูก2ดญ. อยู่กันลำพัง-พ่อแม่หาย!

ทิ้งลูก2ดญ. อยู่กันลำพัง-พ่อแม่หาย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สลดเด็กหญิงพี่น้อง พี่อายุ 12 ปี กับน้อง 2 ขวบ พ่อแม่ทิ้งให้อยู่บ้านตามลำพังตามลำพังบอกจะไปหาหมอแล้วรีบกลับ ก่อนหายตัวไป 3-4 วัน อาศัยข้าวพระบิณฑบาตประทังชีวิต อยู่กันแบบเสียขวัญ ตกดึกร้องไห้กันกระจองอแงจนชาวบ้านสงสัย แจ้งนายอำเภอประสานพม.อยุธยาช่วยเหลือ พบพ่อแม่มีอาชีพเก็บของเก่าขายและป่วยกันทั้งคู่ ประสานพม.รับตัวไปดูแลระหว่างตร.ติดตามหาพ่อแม่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.ย. ด.ต.สมพงษ์ มีคำ หัวหน้าที่พักสายตรวจตำบลพยอม สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้แจ้งว่า พบเด็กผู้หญิงสองพี่น้องถูกทอดทิ้งไว้ที่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 6 ต.วังน้อย อ.วังน้อย จึงไปตรวจสอบพบว่า เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง สภาพทรุดโทรมปลูกอยู่กลางบ่อน้ำ ริมถนนสายเลียบคลองชลประทาน บ้านพยอม-วังน้อย

ทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าว เด็กหญิงทั้ง 2 คนวิ่งหนีร้องไห้เสียงดัง หลบเข้าไปอยู่ในห้องที่เหม็นกลิ่นอับ จึงเข้าไปปลอบโยนสอบถาม ทราบชื่อคือ ด.ญ.วันเพ็ญ หรือน้องโม แซ่เล้า อายุ 12 ปี นั่งร้องไห้อยู่ในอาการหวาดกลัว และด.ญ.กาญจนา หรือน้องส้ม แซ่เล้า อายุ 2 ขวบ กำลังยืนดูดขวดนมอย่างน่าเวทนา สองพี่น้องกอดกันกลมอยู่ตรงมุมห้องร้องไห้ไม่ยอมพูดยอมจา เอาแต่ร้องหาพ่อ หาแม่ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปลอบว่าจะช่วยตามหาพ่อและแม่ให้อยู่นานประมาณ 20 นาที ด.ญ.วันเพ็ญจึงยอมพูดเล่าเรื่องราว

ด.ญ.วันเพ็ญ กล่าวว่า พ่อของตนชื่อนายสมเกียรติ แซ่เล้า อายุ 42 ปี แม่ชื่อนางอุ่นเรือน สุขเกษม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 1 ต.แหลมรัง กิ่งอ.บึงนาราง จ.พิจิตร ส่วนตนเคยเรียนหนังสือชั้น ป.5 ที่โรงเรียนลิ้นจี่ คลอง 6 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่ออกจากโรงเรียนแล้ว มาอยู่บ้านเลี้ยงน้อง

ด.ญ.วันเพ็ญเล่าต่อไปว่า เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. พ่อกับแม่บอกว่าจะไปหาหมอเพราะไม่สบาย ให้เลี้ยงน้องให้ดีแล้วจะรีบกลับ แต่จนถึงวันนี้ผ่านมา 4 วันแล้ว พ่อกับแม่ยังไม่กลับมา ทำให้พวกตนกลัวมาก น้องก็ร้องไห้ทุกวัน ที่ผ่านมามีพระจากวัดสว่างภพและวัดมณฑณประสิทธิ์ อ.วังน้อย ที่เดินบิณฑบาตมาแบ่งอาหารให้กินประทังชีวิตตนและน้อง มีคืนหนึ่งช่วงกลางคืนนอนหลับฝันว่ามีคนมาบอกให้เอาธูปไปต้มกับน้ำแล้วให้พ่อดื่มก็จะหายป่วย พอรุ่งเช้าตนก็ลุกมาทำทุกเช้ารอพ่อกลับมาดื่ม แต่พ่อก็ยังไม่กลับ ในช่วงเช้าวันนี้ตอนใกล้สว่าง เห็นผู้หญิงสวยแต่งชุดไทยสีฟ้ามายืนมองอยู่ข้างบ้าน จึงกลัวไม่กล้านอน ได้แต่ร้องไห้หาพ่อแม่ตลอดเวลา

นายพูนศักดิ์ จั่นทองสุข อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 หมู่ 6 ต.วังน้อย สมาชิกอบต.วังน้อย ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน กล่าวว่า นายสมเกียรติและนางอุ่นเรือนได้มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวได้ประมาณ 2-3 เดือน โดยยึดอาชีพเก็บขยะและของเก่าขาย เป็นคนเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร สังเกตเห็นนายสมเกียรติมีรูปร่างผอม มือและแขนเป็นผื่นและตุ่ม สุขภาพไม่แข็งแรง มักจะตีน้องโมแรงๆ จนร้องไห้อยู่เป็นประจำ ช่วง 3-4 วันนี้ชาวบ้านได้ยินเสียงน้องโมและน้องส้มร้องไห้กระจองอแง โดยไม่รู้ว่านายสมเกียรติและนางอุ่นเรือนทิ้งให้เด็กอยู่ตามลำพัง แต่ได้ยินเสียงร้องทุกวันจึงไปดู พบน้องโมนั่งกอดน้องส้มและร้องไห้หาพ่อหาแม่ จึงรู้ว่าถูกทอดทิ้ง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เพื่อให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ

ต่อมานายขจรชัย วัฒนาประยูร นายอำเภอวังน้อย เดินทางมาที่บ้านดังกล่าว สอบถามพูดคุยกับเด็กทั้ง 2 คน ขณะนั้นน้องโม ได้ชี้นิ้วไปที่หน้าบ้าน บอกว่าผู้หญิงที่ใส่ชุดไทยมายืนมองอีกแล้ว นายขจรชัยจึงปลอบว่าไม่มีอะไร ทำใจดีๆ ไว้ จะมาช่วยติดตามพ่อแม่ให้ พร้อมกล่าวว่า ดูสภาพจิตใจของเด็กแล้วน่าสงสารและอยู่ในอาการหวาดกลัวที่ต้องอยู่ตามลำพังมาหลายวัน อีกทั้งยังเกิดอาการหลอนว่าฝันและพบผีนางไม้ ตนได้ประสานไปที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พระนครศรีอยุธยา แล้ว เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ รับเด็กไปดูแลที่บ้านพัก หากพ่อแม่เด็กพร้อมก็มารับได้ทุกเวลา ส่วนพ่อแม่เด็กที่ทิ้งลูกไปนั้น ยังไม่ทราบสาเหตุ ขอฝากสื่อมวลชนช่วยตามหาอีกทาง

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปตามร.พ.และสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้เคียง ยังไม่พบว่าสองสามีภรรยาเดินทางไปที่ไหน หรือเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ ทราบว่าตอนออกจากบ้านได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไป และจากการตรวจสอบเอกสารภายในบ้านพบบัตรคนไข้ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 จ.นครสวรรค์ ลงวันที่ 5 ก.พ.52 ระบุว่า นางอุ่นเรือนป่วยเป็นวัณโรคปอด อาจจะไปรักษาตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่ง หรืออาจจะทิ้งหนูน้อยทั้งสองไว้เพราะกลัวจะติดโรค นอกจากจะติดตามคนทั้งสองแล้ว จะได้ติดตามหาญาติของนายสมเกียรติกับนางอุ่นเรือนว่าอยู่ที่ใด เพื่อจะได้สอบหาสาเหตุของเรื่องราวรันทดที่เกิดขึ้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook