นร.ขอนแก่น ถูกชี้เป้าเป็นแกนนำม็อบ โดนโทรขู่ถึงผู้ปกครอง โวยครูเอาข้อมูลส่วนตัวไปเผย
วันที่ 15 สิงหาคม 2563 หลังจากกรณีที่เมื่อเย็นวันที่ 13 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา นักเรียนโรงเรียนดังในจังหวัดขอนแก่น ได้มีการนัดรวมตัวเพื่อที่จะทำการชูกระดาษเปล่า หน้าโรงเรียน ช่วงเวลา 16.00 น. แต่ทางโรงเรียนก็ได้ให้นักเรียนกลับบ้านกะทันหันพร้อมให้เหตุผลที่ว่า มีนักเรียนติดไข้เลือดออก จึงได้ให้ทางเทศบาลมาพ่นยุงภายในโรงเรียนในช่วง 13.00 น. ทำให้กิจกรรมดังกล่าวได้มีการยกเลิกไป จากนั้นได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า
ผมขออนุญาตพูดนะครับ ผมเป็นหนึ่งคนที่ถูกทางเจ้าหน้าที่คุกคาม ทางเจ้าหน้าที่ได้มาตามตัวผม 2 รอบ และได้ทำการโทรไปข่มขู่กับทางผู้ปรกครอง ซึ่งเป็นเหตุให้นักเรียนบางส่วนที่ถูกคุกคาม(ตัวผมด้วย) ไม่อยากกลับเข้าไปในโรงเรียนนักเรียนบางส่วน ได้เขียนใบลาขอกลับบ้านที่ต่างจังหวัด และยังหวาดกลัวถึงอันตรายหรือบทลงโทษที่ทางเจ้าหน้าที่ หรือ ทางคุณครูในโรงเรียนจะทำ
และวันนี้ทางอาจารย์ได้กล่าวหาผมว่า ผมเป็นผู้ปลุกระดม หรือยุแยงปลุกปั่นให้นักเรียนของโรงเรียนมีการเรียกร้องสิทธิ์ อีกเรื่องหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ทำให้มีการเข้าใจผิดและโดนทางเจ้าหน้าที่มาพยายามติดต่อผ่านทุกช่องทาง เช่นทางผู้ปกครอง ซึ่งข้อมูลส่วนที่ให้ทางเจ้าหน้าที่ เป็นข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนที่ไม่ควรนำมาเผยแพร่ อีกทั้งครูที่ได้นำข้อมูลมาให้ก็เป็นคุณครูที่ไม่เห็นด้วย(คุณครูที่เห็นด้วยและให้กำลังใจก็ยังมีอยู่นะครับ)
ทำให้วันนี้พอผมถึงบ้านทางผู้ปกครองได้โทรมาสอบถามข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น และได้พูดคุยกัน แต่ถึงขณะนี้ตัวผมก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งโรงเรียนก็เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองของเหล่านักเรียน แต่ตอนนี้ไร้ซึ่งความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ขอให้ช่วยแชร์หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับโรงเรียนอื่น และไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับโรงเรียนที่กำลังจะจัดนะครับ #โตไปไม่โกง #โรงเรียนของเราน่าอยู่ #บ้านหลังที่สอง #ยุงลาย #กระดาษเปล่า #กระเบื้องบน
ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์กับน้องเอ(นามสมมุติ) หลังมีโพสต์ดังการมีการแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง ยอดแชร์กว่า 1,400 ครั้ง ซึ่งน้องเอก็ได้เล่าให้กับทางผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวานที่ผ่านมาอาจารย์ได้มีการนัดตนเข้าไปพูดคุย เรื่องการนัดจัดกิจกรรมชูกระดาษเปล่า จึงได้ชี้แจงกับทางอาจารย์ว่าตนเองนั้นไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการกิจกรรมแต่อย่างใด ซึ่งทางอาจารย์ก็รับฟัง แต่ว่าทางอาจารย์นั้นได้นำชื่อของตนเข้าที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว และสรุปออกมาว่าตนเองนั้นเป็นคนที่ปลุกปั่นยุยงให้จัดกิจกรรมดังกล่าว แต่ความเป็นจริงแล้วตนเองนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้น
หลังจากเสร็จการประชุมนั้น ทางโรงเรียนก็ได้มีการกดกริ่งสัญญาณ และมีการประกาศว่าวันนี้จะมีการฉีดยุงในช่วงเวลา 13.00 น. ให้นักเรียนกลับบ้านก่อนเวลาดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ในที่ประชุม อาจารย์ได้เผลอหลุดปากออกมาว่า จะหาวิธีให้เด็กนักเรียนกลับบ้านก่อนเวลา 16.00 น. หลังจากนั้นนักเรียนก็ได้ทยอยกลับ และขณะที่ตนเองกำลังกลับนั้น ทางผู้ปกครองก็ได้โทรมาหาและบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยด้วย ซึ่งทางพ่อของตนนั้นก็ได้บอกว่าได้มีผู้ใหญ่ที่รู้จักกันโทรมา และบอกกับตนว่าเรื่องที่กำลังทำมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วแต่มันคือเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จึงได้บอกกับทางพ่อว่าจริงๆแล้วตนเองไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกบัการจัดกิจกรรมดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย แต่ไม่มีใครมาตามตัวที่บ้านแต่อย่างใด มีเพียงแค่เบอร์ปริศนาพยายามติดต่อมา และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทางอาจารย์จึงให้ข้อมูลส่วนตัวของเด็กนักเรียนให้กับทางเจ้าหน้าที่ เพราะว่ามีทั้งเบอร์โทรศัพท์ของตน เบอร์โทรของผู้ปกครอง ที่อยู่บ้าน ชีพ และเงินเดือน
นอกจากนี้ยังมีเพื่อนภายในโรงเรียนโดนเหตุการณ์เช่นเดียวกัน ประมาณ 3 คน หลังจากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นทางโรงเรียนก็ไม่ได้ออกมาพูดหรือว่าชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นและทำให้ตนรู้สึกไม่ปลอดภัย ทางโรงเรียนจึงให้ตนพักและรู้สึกว่าโอเคเมื่อไหร่จึงกลับมาเรียนหนังสือตามปกติ