หนุ่มย่องลักทรัพย์ในวัด หอบเงินเปย์สาวๆ ในผับ พลเมืองดีจำแม่นพกมีดหมอมาเที่ยว

หนุ่มย่องลักทรัพย์ในวัด หอบเงินเปย์สาวๆ ในผับ พลเมืองดีจำแม่นพกมีดหมอมาเที่ยว

หนุ่มย่องลักทรัพย์ในวัด หอบเงินเปย์สาวๆ ในผับ พลเมืองดีจำแม่นพกมีดหมอมาเที่ยว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 พระสมเจตน์ เตชะธโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดเทพบุตร ต.ห้วยใหญ่ อ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สุภชาติ วสุสกุลเจริญ สว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ว่าถูกคนร้ายก่อเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ ภายในกุฏิ กวาดเอาทรัพย์สินไปเป็นเงินสด 200,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่จะซื้อกระเบื้องปูพื้นศาลาปฎิบัติธรรม และพระเครื่องวัดดัง 20 องค์ มีดหมอลงอาคม 1 เล่มไป ซึ่งหลังเกิดเหตุได้รู้ตัวผู้ต้องสงสัย จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์พร้อมแจ้งเบาะแสของคนร้าย 

(16 ส.ค.63) ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรากูล ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ พ.ต.ท.เอกรินทร์ สิกขากูล รองผกก.สืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ นำกำลังออกติดตามคนร้ายจากเบาะแสจากทางวัดได้แจ้ง จนกระทั่งทราบว่าตัวผู้ต้องสงสัย เข้าไปใช้บริการร้านตัดผมภายในศูนย์การค้ากลางเมืองพัทยา จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยาควบคุมตัวไว้ ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนยังสภ.ห้วยใหญ่ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมชาย อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดนครพนม  

โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเปิดเผยว่าก่อนการจับกุมนั้นได้มี นายสรายุทธ อายุ 29 ปี พลเมืองดีทราบข่าว จึงได้ให้เบาะแสของคนร้าย ได้นำเงินเข้าไปเที่ยวภายในสถานบันเทิงในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งขณะนั้นการ์ดของสถานบันเทิงได้ตรวจยึดอาวุธมีด ลักษณะเป็นมีดหมอลงอาคม ซึ่งมีลักษณะตรงกับของพระสมเจตน์ ที่ได้แจ้งไว้ 

จากนั้นผู้ก่อเหตุได้นำเงินจำนวนมากเข้าไปเที่ยวและแจกจ่ายให้กับหญิงสาวภายในสถานบันเทิง สร้างความแปลกใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังนำเงินไปซื้อสร้อยคอทองคำหนักหนึ่งบาทให้กับผู้หญิงอีกด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่รู้เบาะแสจึงได้ออกติดตาม จนกระทั่งเจอตัวนั่งหลับอยู่ภายในศูนย์การค้า จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยาควบคุมตัวไว้ดังกล่าว 

เบื้องต้น นายสมชาย อายุ 48 ปี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนของกลางเงินสด และพระเครื่องตนเองจำไม่ได้ว่าไปไหนหมดแล้ว จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจำคุกในคดีลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง จึงได้ควบคุมตัว พร้อมรวบรวมหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดของสถานบันเทิงที่บันทึกภาพพฤติกรรมขณะผู้ก่อเหตุนำเงินไปแจกให้กับผู้หญิงไว้ได้ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

นอกจากนี้พระสมเจตน์ เตชะธโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดเทพบุตร ยังฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่ได้รับเงิน ซึ่งเป็นเงินที่จะนำมาทำนุบำรุงวัดและพระเครื่องไป หากสามารถนำมาคืนได้ทางวัดก็ยินดี แต่หากว่าจำเป็นจะต้องนำเงินจำนวนนั้นไปเลี้ยงดูครอบครัวก็ไม่เป็นไร 

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook