สาวชุดขาวย่องเท "หมามุ่ย" ใส่เบาะมอเตอร์ไซค์ที่จอดในโรงพยาบาล ที่แท้ฝีมือเมียเก่า

สาวชุดขาวย่องเท "หมามุ่ย" ใส่เบาะมอเตอร์ไซค์ที่จอดในโรงพยาบาล ที่แท้ฝีมือเมียเก่า

สาวชุดขาวย่องเท "หมามุ่ย" ใส่เบาะมอเตอร์ไซค์ที่จอดในโรงพยาบาล ที่แท้ฝีมือเมียเก่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมามุ่ยปริศนาเต็มเบาะรถจักรยานยนต์ เปิดวงจรปิดพบเป็นฝีมือสาวชุดคล้ายพยาบาล เมียเก่าเจ้าของรถ

(17 ส.ค.63) เพจเฟซบุ๊กชื่อ “ปทุมธานีที่นี่มีแต่เรื่อง” ได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิด จับภาพหญิงสาวแต่งชุดสีขาวนำหมามุ่ยใส่ถุงพลาสติกไปเทไว้บนเบาะรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ รพ.แห่งหนึ่ง ย่านคูคต

น.ส.ไก่ อายุ 35 ปี ผู้เสียหายในเรื่องนี้เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลา 17.00 น. ของวันที่ 15 สิงหาคม 2563 ตนเองกับแฟนได้ออกไปกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้กับโรงพยาบาล หลังกินข้าวเสร็จจึงขับรถจยย. กลับมาจอดไว้ข้างห้องช่างของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นห้องที่แฟนทำงานโดยแฟนเป็นช่างซ่อมบำรุงของโรงพยาบาล จากนั้นตนเองจึงไปรอห้างสรรพสินค้าเพื่อรอแฟนที่จะเลิกงาน 21.00 น. กระทั่งได้เวลาแฟนโทรตามตนเองบอกว่าเลิกงานแล้วตนเองจึงเดินกลับมาจากห้างสรรพสินค้าเพื่อเดินมาเอารถจยย.ที่จอดไว้ จึงเห็นว่ามีหมามุ่ยถูกเทไว้บนเบาะรถจยย. และที่พื้น ตนเองจึงนำรถไปฉีดน้ำล้างออก ก่อนที่ตนเองและแฟนหนุ่มจะขับรถกลับห้องและมานอนคุยกันว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมถึงมีคนทำแบบนี้

เช้าวันที่ 16 สิงหาคม2563 แฟนตนเองจึงได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดจึง พบว่ามีหญิงสาวแต่งตัวคล้ายพยาบาลเป็นผู้นำหมามุ่ยมาเทใส่เบาะรถ ก่อนที่จะวิ่งหนีไปเพราะสัญญาณกันขโมยรถดัง เพราะรถตนเองเป็นรถใหม่เพิ่งออกมายังไม่ได้ 1 เดือน เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดจึงทราบแล้วว่าใครเป็นคนทำ

น.ส.ไก่ เปิดเผยต่อไปอีกว่า คนในคลิปที่กระทำเป็นอดีตภรรยาเก่าของแฟนตนเองที่เลิกรากันไปเกือบ 1 ปี และมีลูกด้วยกัน 1 คนอายุ 4 ขวบ ซึ่งผู้กระทำนั้นเป็นผู้ช่วยพยาบาลแผนกศัลยกรรมกระดูกของ รพ.แห่งหนึ่ง ทำงานที่เดียวกันกับแฟนหนุ่มของตนเอง แต่ตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำไปเพื่ออะไร ทั้งที่หลังจากเลิกรากันไปกับแฟนหนุ่มของตนเองก็ไม่ได้ทะเลาะมีปากเสียงอะไรกัน  

หลังเกิดเรื่องตนเองได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คูคต และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะหลังจากวันนั้นอดีตภรรยาได้ทักแชทเฟซบุ๊กมาหาตนเองและพิมพ์ข้อความด่าทอมามากมาย แต่ตนเองไม่ได้ตอบโต้ ทั้งนี้ตนเองอยากฝากถึงคนก่อเหตุว่า อย่าไปทำแบบนี้กับใครเพราะมันไม่ดี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook