“ท่องเที่ยวเชิงอกหัก ที่บ้านโคกไคร” สู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

“ท่องเที่ยวเชิงอกหัก ที่บ้านโคกไคร” สู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

“ท่องเที่ยวเชิงอกหัก ที่บ้านโคกไคร” สู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชุมชนบ้านโคกไคร หมู่บ้านเล็ก ๆ ใน ต.มะรุ่ย อ.ทับปุด จ.พังงา เป็นแหล่งเลี้ยงหอยนางรมสำคัญของประเทศ รวมถึงมีทรัพยากรและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นโคลนร้อน ป่าชายเลน ถ้ำผีหัวโต หาดปูมดแดง รวมถึงกิจกรรมพายเรือคายัค และสินค้าจากทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น สครับเปลือกหอยนางรม สบู่เปลือกหอยนางรม สมุนไพรเพื่อสุขภาพขลู่ ฯลฯ

สบู่เปลือกหอยนางรม ที่เกิดจากภูมิปัญญาของชุมชนที่เห็นถึงปัญหาของเปลือกหอยนางรมที่ถูกทิ้งไว้อย่างไร้ค่า นำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด และสร้างคุณค่า เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน

 “จากจุดที่ผมเกิด ผมก็โตมากับฟาร์มหอยนางรม ทุกบ้านทำอาชีพนี้ เมื่อเอาตัวหอยนางรมออกมาเพื่อส่งขายแล้ว เหลือเปลือกหอยก็จะนำไปทิ้งที่คลอง ทำให้เกิดปัญหาคลองตื้นเขิน ผมเลยคิดว่า มันน่าจะเอามาทำอะไรได้สิ จึงลองคิดค้นว่า แสงวาวๆ ของด้านในเปลือกหอยนางรม น่าจะนำมาทำสบู่ได้ ก็เลยทดลองทำ “ พี่สมพรกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

 นอกจากฟาร์มหอยนางรมแล้ว ที่ชุมชนบ้านโคกไคร ยังมีไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งคือ โคลนร้อน ที่เกิดจากรอยแยกของเปลือกโลก จะพบได้แค่ตอนน้ำทะเลลดระดับลงเท่านั้น ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดน้ำทะเลร้อน ทรายร้อนและโคลนร้อน โดยชาวบ้านมักนำมาพอกผ่อนคลาย และสามารถทำให้ผิวพรรณเต่งตึงอย่างที่เรียกได้ว่าที่อื่นไม่มี ซึ่งเดือนหนึ่งจะมีเพียง 10 วันเท่านั้น

“แรกๆ ชาวบ้านก็พอกโคลนนี้เพื่อช่วยเรื่องเหน็บชา หลังจากเก็บหอยนางรม เราเลยคิดว่า น่าจะเอามาทำประโยชน์ได้มากกว่านี้ เลยเปิดเป็นกลุ่มสำหรับสปาโคลน ให้ดูสวย ใส ที่สำคัญคือ เดือนหนึ่งจะสามารถพอกสปาโคนนี้ได้เพียง 10 วันเท่านั้น โดยในระหว่างที่พอกโคลนอยู่ เราจะมีน้ำชาจากสมุนไพรเพื่อสุขภาพขลู่ ที่หาได้จากชุมชนมาบริการด้วย” พี่สมพรพูดต่อ

ธนาคารกรุงไทยได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของชุมชน ที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน คีย์เวิร์ดสำคัญของโครงการ CSR ในครั้งนี้คือ “ความยั่งยืน”​ จึงจับมือกับชุมชนบ้านโคกไคร มอบองค์ความรู้ ให้คนในชุมชนสามารถนำไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ กับทรัพยากรหรือผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ในชุมชน ภายใต้โครงการ “กรุงไทยรักชุมชนบ้านโคกไคร” เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างความเข้มแข็งให้กับการท่องเที่ยวของชุมชนได้ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำนวัตกรรมทางการเงินจากทางธนาคาร เช่น แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT, Krungthai Connext การแนะนำระบบบัญชีรายรับ-รายจ่าย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อยกระดับสินค้าและมาตรฐานการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น

“ชุมชนบ้านโคกไคร” เป็นเพียง 1 ใน 7 ชุมชน จาก 4 ภาคทั่วประเทศ ที่ธนาคารกรุงไทยร่วมมือกับชุมชนเพื่อพัฒนาสู่ชุมชนเข้มแข็งยั่งยืน โดยแผนการในอนาคตของโครงการ “กรุงไทยรักชุมชนทั่วไทย” คือการพัฒนาชุมชนอื่นๆ เพื่อสร้างรากฐานที่เข้มแข็งให้กับชุมชนทั่วประเทศ

ปัจจุบันธนาคารกรุงไทยดำเนินโครงการ CSR มาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาโครงการ CSR จะมุ่งเน้นการส่งเสริม และพัฒนาเยาวชน ซึ่งถือเป็นอนาคตของประเทศที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมต่อไป ภายใต้โครงการ “กรุงไทยรักชุมชน” มุ่งเน้นไปที่ “ชุมชน” ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ เพราะหากทุกชุมชนเข้มแข็ง ย่อมหมายถึงประเทศที่เข้มแข็งด้วย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่ชุมชนจะพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจะต้องอาศัยความร่วมมือของธนาคารกรุงไทย และความร่วมมือของคนในชุมชน ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน ให้เข้ามาท่องเที่ยวสัมผัสเสน่ห์ของชุมชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนต่อไป

หากสนใจท่องเที่ยวหรือผลิตภัณฑ์ของชุมชนบ้านโคกไคร สามารถติดต่อ ชุมชนบ้านโคกไคร จังหวัดพังงา สามารถติดต่อพี่สมพร (หัวหน้าชุมชน) ได้ที่เบอร์ 087-886-0465

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook