อย่าหาทำ ลักลอบขุดต้นเทียนทะเล จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท

อย่าหาทำ ลักลอบขุดต้นเทียนทะเล จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท

อย่าหาทำ ลักลอบขุดต้นเทียนทะเล จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มีผลแล้ว ลักลอบขุดต้นเทียนทะเล จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท “วราวุธ ทส.” ย้ำหน่วยงานดำเนินการอย่างเด็ดขาด

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยเรื่องนี้ที่กระทรวงฯว่า ไม้เทียนทะเลจัดเป็นไม้มีคุณค่าทางระบบนิเวศ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตนเองได้มีโอกาสลงตรวจพื้นที่ป่าชายเลนในหลายพื้นที่ และได้พบเห็นไม้เทียนทะเลในธรรมชาติว่ามีความสวยงาม และทราบว่าเป็นไม้ที่มีความต้องการของตลาดปัจจุบัน แต่ยังไม่มีประกาศอยู่ในบัญชีไม้หวงห้าม การบุกรุกลักลอบตัดไม้เทียนทะเลในป่าชายเลนถูกพบเห็นและดำเนินคดีอยู่บ่อยครั้ง ตนได้มอบนโยบายกับ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงแนวทางการบริหารจัดการและควบคุมรักษาไม้เทียนทะเลให้คงอยู่ในธรรมชาติ โดยท่านปลัดทส.ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการออกคำสั่งและมาตรการคุ้มครองไม้เทียนทะเลให้คงอยู่ตามธรรมชาติอย่างเร่งด่วน สุดท้ายตนอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า

“มูลค่าไม้เทียนทะเลที่ซื้อขายกันที่ว่ามีราคาสูงแล้วนั้น เป็นเพียงมูลค่าที่เกิดจากความพึงพอใจระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย ซึ่งไม่รวมมูลค่าที่เป็นต้นทุนธรรมชาติ คุณประโยชน์ต่อระบบนิเวศและจะเป็นสมบัติของลูกหลานเราในอนาคตที่ยากที่จะประเมินมูลค่าเป็นตัวเงินได้ การบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อเข้าตัดไม้เทียนทะเล เป็นความผิดทางอาญา ของป่าก็ควรที่จะอยู่กับผืนป่า ธรรมชาติได้สร้างสมดุลของระบบนิเวศทุกอย่างไว้หมดแล้ว” ทั้งนี้ ตนได้กำชับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเด็ดขาดเพื่อรักษาสมดุลทางธรรมชาติให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์และยั่งยืน ต่อไป

ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ไม้เทียนทะเล ไม่ได้อยู่ในบัญชีไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. ๒๕๓๐ ทำให้ไม้เทียนทะเลไม่ได้มีกฎหมายคุ้มครอง โดยเฉพาะ ที่ผ่านมา ทางกรมฯ สามารถดำเนินการได้เพียงแจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุก ทำลายป่าเท่านั้น เป็นเหตุให้การกำกับ ควบคุม ดูแล ตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่เป็นไปได้ยาก ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งราวกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้มีหนังสือขอให้กรมป่าไม้ได้พิจารณาเสนอไม้เทียนทะเล ที่ขึ้นในป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ในบัญชีไม้หวงห้ามต่อไป อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน กว่าจะผ่านออกมาเป็นกฎหมายได้

ดังนั้น เพื่อเป็นการระงับการกระทำที่ทำให้ไม้ชนิดนี้ที่มีจำนวนน้อยอยู่แล้วในธรรมชาติไม่ให้ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วอันจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓ ประกอบมาตรา ๑๗ และมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘

ตนจึงออกคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ ๙๗๗/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๓ เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเล เพื่อเป็นการกำหนดมาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเลมิให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากการลักลอบขุดล้อมไม้เทียนทะเล เพื่อการค้าไม้บอนไซ และนำไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนอื่นใดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2563 ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้ใดพบเห็นผู้กระทำความผิดขอให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ในทุกช่องทางตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้เร่งรัดดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด

ในส่วนของ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 และกรมทรัพยากรทางทะเล ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจเพื่อส่งเสริมและรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู รวมถึง งานด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้ กองทัพภาคที่ 4 มีความพร้อมที่จะร่วมสนธิกำลังร่วมกับกรมทรัพยากรทาทะเลและชายฝั่ง ในการดำเนินการเพื่อป้องกันและรักษาไม้เทียนทะเลให้คงอยู่กับพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook