ใจหายใจคว่ำ! นักเรียนหญิง ม.4 น้อยใจพ่อแม่หายตัวจากพิษณุโลก กระเป๋าโผล่แม่น้ำบางปะกง

ใจหายใจคว่ำ! นักเรียนหญิง ม.4 น้อยใจพ่อแม่หายตัวจากพิษณุโลก กระเป๋าโผล่แม่น้ำบางปะกง

ใจหายใจคว่ำ! นักเรียนหญิง ม.4 น้อยใจพ่อแม่หายตัวจากพิษณุโลก กระเป๋าโผล่แม่น้ำบางปะกง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักเรียนหญิง ม.4 หายตัวจากโรงเรียนในพิษณุโลก พบกระเป๋าโผล่แม่น้ำบางปะกง ล่าสุดพ่อแม่ติดต่อได้แล้ว

จากกรณีกู้ภัยพบกระเป๋านักเรียนตกริมสะพานบางประกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเปิดดูมีชุดนักเรียนและสิ่งของต่างๆ ภายในกระเป๋า รวมถึงมีโทรศัพท์มือถืออยู่ด้วยนั้น พบว่ามีเอกสารที่มีชื่อของนักเรียนหญิงระบุว่าเป็นของนักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ซึ่งพ่อแม่เด็กหญิงคนดังกล่าวกำลังทุกข์ใจติดตามหาลูกสาวที่หายตัวไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา และไม่ทราบว่ากระเป๋านักเรียนมาปรากฏที่แม่น้ำบางประกงได้อย่างไร อีกทั้งยังไม่ทราบชะตากรรมของเด็กหญิงสาวรายนี้ โดยในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ต่อเรื่องราว เพื่อติดตามหาตัวเกรงว่าจะได้รับอันตรายใดๆ หรือไม่

ล่าสุด (19 ส.ค.63) ผู้สี่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่โรงเรียนนครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่ถูกระบุว่าเด็กนักเรียนหญิง คือ น.ส.จิ๊บ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ โดยมีกลุ่มเพื่อนๆ จับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเช้าวันนี้ทางผู้บริหารโรงเรียนนำโดย จ.ส.อ.ประมวล วันมี ผอ.โรงเรียนนครไทย ได้เรียกประชุมคณะครูอาจารย์ทีเกี่ยวข้องถึงเรื่องทีเกิดขึ้น ก่อนจะเดินทางไปชี้แจงข้อเท็จจริงกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 อีกครั้ง ขณะที่ น.ส.เทียมใจ อำไพวรรณ รอง ผอ.โรงเรียนนครไทย กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงที่เด็กนักเรียนหญิงของโรงเรียนหายตัวออกจากโรงเรียนช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 18 ส.ค. เด็กนักเรียนคนนี้เป็นเด็กกิจกรรม เป็นเด็กดี เด็กเรียนเก่ง มารยาทเรียบร้อย ชอบการรำไทยเป็นอย่างมาก

จากการสอบถามทราบว่าในช่วงเช้าเด็กนักเรียนหญิงรายนี้มีกิจกรรมรำไทยที่วัดบ้านพร้าว อ.นครไทย เดินทางกลับมาด้วยรถตู้ของโรงเรียนตามปกติ แต่มีชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์มารอรับหน้าโรงเรียน ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ทั้งหมด หลังเกิดเรื่องผู้ปกครองได้มาติดตามไถ่ถามที่โรงเรียน ก่อนจะเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.นครไทย นอกจากนี้หลังเกิดเรื่องทางโรงเรียนได้หามาตรการป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามาภายในโรงเรียนอย่างเคร่งครัดต่อไป

ต่อมาที่ สภ.นครไทย ว่าที่ ร.อ.นราศักดิ์ อายุ 47 ปี บิดา ของ น.ส.จิ๊บ พร้อมภรรยา ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.ธรธวัช  แจ่มอุดมโชต ผกก.สภ.นครไทย เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและเปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นมาจากสาเหตุ น.ส.จิ๊บ บุตรสาว อาจจะน้อยใจพ่อกับแม่จากเรื่องวางแผนการเรียนในอนาคต ซึ่ง น.ส.จิ๊บ สอบติดโรงเรียนช่างฝีมือทหาร (ภาคสมทบ) เพราะมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นทหาร แต่ทางครอบครัวไม่เห็นด้วยอยากจะให้เรียนจบระดับ ม.6 และ ระดับปริญญาตรี ตามลำดับ แล้วจึงให้ไปสอบข้าราชการทหารหรือตำรวจ เพราะอาชีพจะมั่นคงมากกว่า ทำให้ลูกสาวอาจไม่เข้าใจและน้อยใจคิดว่าพ่อแม่บังคับให้เรียน จึงเกิดภาวะความเครียดหนีออกจากบ้านไปหาเพื่อนที่ กทม.

ล่าสุดนั้นได้มีการติดต่อพูดคุยกันทางโทรศัพท์แล้วว่าปลอดภัยดี ขณะนี้พักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่หอพักแห่งหนึ่งย่านรัชดา และขอพักผ่อนให้สบายอีกสัก 2 วัน จึงจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.พิษณุโลก ส่วนฝ่ายชายที่ขี่รถจักรยายนต์บิ๊กไบค์มารับนั้นทราบว่าเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ไม่มีเจตนาไม่ดี แต่ทางฝ่ายลูกสาวโทรไปขอร้องให้มารับพาไปส่งที่สถานีรถไฟพิษณุโลก แต่ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนกลัวจะเป็นอันตรายและมีเงินติดตัวเพียง 500 บาท จึงอาสาขี่รถจักรยานยนต์พาไปส่งที่ กทม. ส่วนประเด็นกระเป๋านักเรียนที่พบในแม่น้ำปางประกง จ.ฉะเชิงเทรา คาดว่าน่าจะร่วงตกระหว่างทางจนมีคนไปพบแล้วเก็บไปค้นหาทรัพย์สิน แต่ไม่มีทรัพย์สินมีค่าใดๆ จึงนำไปโยนทิ้งแม่น้ำปางประกงในที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ธรธวัช  แจ่มอุดมโชต ผกก.สภ.นครไทย กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจเป็นพิเศษ ตนจึงสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวพร้อมกับประสานตำรวจพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จนพบภาพผู้ต้องสงสัยตากล้องวงจรปิด กระทั่งมีการติดต่อพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ว่าพบตัวเด็กนักเรียนหญิงแล้วปลอดภัยดี ทางครอบครัวของผู้เสียหายได้ให้ชายวัยรุ่นอยู่เป็นเพื่อนก่อนเพื่อรอครอบครัวไปรับกลับบ้าน หรือถ้าสบายใจแล้วจะเดินทางกลับเองก็ได้ ส่วนในเรื่องของคดีความนั้นขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับชายหนุ่มที่พาไป แต่จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่ามีเจตนาที่ดีหรือไม่ที่นำตัวเด็กนักเรียนหญิงสาวไปด้วย ทั้งนี้ทางครอบครัวก็รู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อติดต่อลูกสาวได้เรียบร้อยแล้ว ถือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จบลงด้วยดี ไม่ใช่เป็นคดีฆาตกรรมทิ้งน้ำแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook