แซ่ด!! ผู้มีบารมีนอกมหาดไทย เซ็งลี้ 23 เก้าอี้ผู้ว่าฯ ตัวละ15ล้าน
วิจารณ์แซ่ดมหาดไทย ดึงเรื่องแต่งตั้งผู้ว่าฯ 23 ตำแหน่ง นักการเมืองใหญ่มีอำนาจเหนือกระทรวงเรียกรองผู้ว่าฯ 20 คนเข้าพบรายตัว ให้จ่ายเงินช่วยเหลือพรรครายละ 10-15 ล้าน ช่วยเหลือผู้สมัคร ส.ส.แลกเก้าอี้ หึ่งอยากเข้าโรงเรียนนายอำเภอจ่าย 1 ล้าน
แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผย"มติชนออนไลน์"เมื่อวันที่ 8 กันยายนถึงการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งจะว่างลง 23 ตำแหน่งในวันที่ 30 กันยายน 2552ว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในหมู่ข้าราชการว่า สาเหตุที่การแต่งตั้งผู้ว่าฯในปีนี้ล่าช้าเนื่องจากมีนักการเมืองที่ไม่มีตำแหน่งในกระทรวง แต่มีอำนาจเหนือนักการเมืองในกระทรวงเข้าแทรกแซงการแต่งตั้งครั้งนี้เหมือนกับการแต่งตั้งนายมานิต วัฒนเสน อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยข้ามหัวผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงหลายสิบคนทั้งๆทีนายมานิต ดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับ 10 เพียง 5-6 ปีเท่านั้น ขณะที่มีผู้บริหารระดับสูงรายอื่นดำรงตำแหน่งระดับ10 มานานกว่า 10 ปี เช่น นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นข้าราชการระดับ 10 นานถึง 15 ปี
แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวว่า นักการเมืองที่มีอำนาจรายดังกล่าวได้เรียกข้าราชการระดับรองผู้ว่าฯและรองอธิบดีประมาณ 20 คนซึ่งอยู่ในข่ายสามารถขึ้นเป็นผู้ว่าฯได้เข้าพบทีละคนโดยแจ้งทำนองว่า ถ้าต้องการขึ้นเป็นผู้ว่าฯ ต้องหาเงินมาช่วยเหลือพรรครายละประมาณ 10-15 ล้านบาทและต้องช่วยเหลือผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ถ้ามีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่
"ข่าวดังกล่าวทำให้ข้าราขการระดับรองอธิบดีและรองผู้ว่าฯที่มีสิทธิได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าฯประมาณ 90 คนเกิดความเบื่อหน่ายและหมดกำลังใจทำงานเพราะไม่รู้ว่า จะหาเงินจำนวนดังกล่าวมาให้นักการการเมืองรายนี้ได้อย่างไร นอกจากมีผู้รับเหมาท้องถิ่นสนับสนุนโดยจ่ายเงินค่าเก้าอี้ล่วงหน้าให้ก่อนแล้วค่อยไปตอบแทนเมื่อได้เป็นผู้ว่าฯแล้ว"แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าว่า ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาบุคคลที่มีความเหมาะสมขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงมีนายสุธี มากบุญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน กรรมการประกอบด้วยรองปลัดกระทรวงทุกคน โดยคณะกรรมการชุดนี้ให้ข้าราชการระดับรองอธิบดีและรองผู้ว่าฯประมาณ 90 คน ส่งผลงานและวิสัยทัศน์ให้คณะกรรมการพิจารณาและปิดรับเอกสารไปเมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2552
"พวกข้าราชการเชื่อกันว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาไม่มีความหมายอะไร เพียงแต่ทำให้เห็นว่า การแต่งตั้งผู้ว่าฯมีกระบวนการที่ดปร่งใส เป็นธรรม แต่เอาเข้าจริงแล้ว คงแต่งตั้งตามที่นักการเมืองรายดังกล่าวเป็นผู้กำหนด"แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงอีกรายหนึ่งกล่าวว่า นอกจากการแต่งตั้งผู้ว่าฯที่มีข่าวว่า มีการเรียกเงินกว่า 10 ล้านบาทแล้ว ก่อนหน้าที่ก็มีข่าวว่า ในการสอบเข้าเรียนในโรงเรียบนนายอำเภอก็มีการเรียกเงินระหว่าง 700,000-1,000,000 ล้านบาท