ล่าชายปริศนาบุกอนาจารเด็ก 5 ขวบถึงในบ้าน ก่อเหตุซ้ำฉุดเด็กวัย 12 เข้าพงหญ้า

เด็กหญิงอายุ 5  และ 12 ขวบ ถูกชายปริศนาทำร้ายและพยายามทำอนาจาร ลงมือไม่สำเร็จแต่ชาวบ้านหวาดผวามาก

(21 ส.ค.63) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์ ลงพื้นที่ บ้านเฝ้าสวนยางพาราในพื้นที่ ม.12 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสืบสวนและสอบสวนเพิ่มเติม กรณีเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกคนร้ายหนึ่งรายหนึ่งเข้าไปในบ้านคาดว่าจะข่มขืนเด็ก ซึ่งบ้านที่เกิดเหตุอยู่ในซอยตัน

โดย ยายของเด็ก อายุ 43 ปี บอกว่าปกติที่บ้านจะอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คนเป็นผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 4 คน อายุ 3, 5, 8 และ 10 ปี วันที่เกิดเหตุตรงกับวันอาทิตย์ 16 ส.ค.63 เวลาประมาณ 10.00 น. สามีได้ออกไปทำงานตามปกติ ส่วนตนออกไปตลาดประมาณ 30 นาที ขณะนั้นเด็กอยู่บ้านกัน 4 คน เมื่อกลับมาถึงบ้านหลานก็บอกว่ามีคนมาตรวจวัดไข้ โดยไล่ให้หลานคนอื่นออกข้างนอกแล้วพาเด็ก 5 ขวบเข้าไปในบ้าน ใช้ให้ถอดกางเกงและต่อยที่ท้อง 2 ครั้ง แต่เด็กบอกไม่เจ็บ ซึ่งยังไม่ทันได้ทำอะไร บุญของเด็กที่เถ้าแก่เจ้าของสวนเข้ามาดูสวนพอดี คนร้ายได้ยินจึงรีบออกจากบ้านทำทีทักทายเจ้าของสวน ก่อนรีบขับรถหนีไป ซึ่งขณะนั้นเจ้าของสวนไม่ได้เอะใจอะไร จึงได้ถอดกางเกงเด็กดูไม่พบเลือดหรืออะไร จึงประสานผู้นำท้องถิ่นพาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนั้นในวันเดียวกันเวลาประมาณ 10 โมงเศษๆ ห่างจากกรณีแรกไม่เกิน 20 นาที ได้เกิดเหตุคนร้ายบังคับเด็กหญิง 12 ปี พยายามจะข่มขืนในพงหญ้าริมถนนซอยเจริญสุข พื้นที่ ม.4 ต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งห่างจากจุดแรกไม่เกิน 3 กิโลเมตร แต่คนร้ายก็ทำไม่สำเร็จเพราะมีรถใช้เส้นทางตลอดจึงยอมปล่อยเด็ก

ซึ่งพ่อของเหยื่อรายนี้อายุ 42 ปี เล่าให้หังว่า วันเกิดเหตุ ลูกขับจักรยานยนต์ไปรับปู่ ที่ซอยเจริญสุขซึ่งห่างจากบ้านไม่ไกลใช้เวลาประมาณ ไม่เกิน 10 นาทีก็สามารถรับปู่มาที่บ้านได้ ซึ่งลูกได้ออกจากบ้านริมถนนสายหลักช่วงเวลาประมาณ 10 โมงเศษ เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาทีลูกยังมาไม่ถึง จึงโทรหาลูกปรากฏว่าลูกอยู่ที่บ้านปู่และเกิดเหตุร้ายกับลูกแล้ว

โดยลูกสาวเล่าให้ฟังว่า ขณะขับรถเลี้ยวเข้าซอยเจริญสุข ก็มีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์มาขนาบข้างแล้วทำทีถามเรื่องน๊อตที่รถของลูกสาว ว่าน๊อตหลุดหรือเปล่า จึงจอดรถดูจากนั้นก็ชวนคุยดี แล้วชวนขึ้นรถบอกไปหาน๊อตแต่ลูกสาวไม่ยอม คนร้ายจึงจอดรถตัวเองไว้ แล้วก็พูดเสียงดังกึงบังคับให้ขึ้นรถจักรยานยนต์ของลูกสาวโดยมีคนร้ายขับ พร้อมบอกว่ามีมีด ลูกสาวก็กลัว จากนั้นคนร้ายก็พาขับเลี้ยวเข้าซอยสวนยางพาราซึ่งเป็นซอยตันมุ่งหน้าไปยังภูเขา ซึ่งลูกสาวก็เริ่มตกใจแต่ไม่กล้าโวย เมื่อไปถึงระหว่างทางก็พอคนกำลังตัดหญ้าอยู่ คนร้ายจึงขับรถย้อนกลับมา และบังคับเด็กเข้าไปในพงหญ้าริมทางข้างถนน ก่อนจะต่อยท้อง ต่อยหัว รวมถึงใช้ผ้าขาวม้ารัดคอ

ขณะนั้นก็มีรถขับผ่าน คนร้ายก็กดหัวเด็กลงกับพื้นเพื่อหลบคนที่ขับรถบนถนน ซึ่งก็เป็นโชคดีของลูก ที่ช่วงนั้นก็มีรถขับผ่านถึงสามคัน ประกอบกับเด็กมีประจำเดือน คนร้ายจึงยอมปล่อยตัวเด็ก คาดว่าไม่สบโอกาสเพราะรถผ่านบ่อย ก่อนจะบอกให้ลูกสาวรอให้คนร้ายขับจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ออกไปก่อน แล้วค่อยออกจากพงหญ้า ลูกสาวจึงรีบขับรถจักรยานยนต์ไปหาปู่ที่บ้านอยู่ห่างจากจุดนั้นประมาณ 100 เมตรเท่านั้น โดยคนร้ายรายนี้รูปร่างผอมผิวดำแดงสูงประมาณ 165-170 ซม. แต่คนร้ายสวมหน้ากากอนามัยจึงไม่เห็นหน้าที่แท้จริง จากนั้นจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ในส่วนของการติดตามตัวคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์ ได้ดำเนินการสอบสวนผู้เสียหาย และพยายามสเก็ตช์ภาพคนร้ายรายนี้ เบื้องต้นมีบุคคลที่ต้องสงสัยจึงเชิญมาสอบสวนและเก็บดีเอ็นเอ แต่เบื้องต้นคาดว่าไม่ใช่คนที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพื่อคลายความกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่เริ่มหวาดระแวงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น