ข้าวยากหมากแพง! วงจรปิดจับภาพ หนุ่มย่องขโมยเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป-เครื่องปรุง
วันที่ 23 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด พร้อมข้อความว่า
โจร ช่วงนี้ข้าวยากหมากแพง ระมัดระวังโจรกันด้วยนะคะ คงทำได้แค่โพสต์ลงเฟซเตือนเพื่อนๆนะคะให้ระวังกันเองด้วย เพราะแจ้งความกับตำรวจไม่มีการมาตรวจสอบใดๆทั้งสิ้น แถมบอกให้เราไปหาชื่อ นามสกุลคนร้ายมาให้ด้วย จะบ้าไปแล้วๆๆๆๆ ใครคุ้นหน้าคุ้นตาช่วยแจ้งมาในอินบ็อกด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
คลิปวีดีโอดังกล่าว ปรากฏภาพชายฉกรรจ์ จำนวน 1 คน อายุ ประมาณ 25-30 ปี รูปร่างสันทัดค่อนข้างท้วม เดินเข้ามาด้านหน้าร้านจำนวน 3 รอบ โดยรอบแรกไม่ใส่เสื้อ สวมกางเกงขาสั้น เดินมาดูลาดเลา รอบที่สองใส่เสื้อยืดแขนสั้น สวมกางเกงขาสั้น และสะพายกระเป๋าคล้องคอ เดินมาหิ้วถุงขนาดใหญ่ ที่ใส่ซองเครื่องปรุงรสบะหมี่จำนวน 200 ซองไป ส่วนรอบที่สาม มาแบกกล่องขนาดใหญ่ที่ใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จไปจำนวน 1 กล่อง รวมมูลค่าประมาณกว่า 3,000 บาทไป
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 740 หมู่ 6 ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น อยู่หน้าตลาดสดหนองไผ่ อ.หนองไผ่ ซึ่งเปิดเป็นร้านโชห่วยและขายของชำ จำหน่ายสินค้าประเภทอาหารแห้ง และอาหารสด อาทิ ลูกชิ้น ฮอทดอก ไส้กรอก ชนิดต่างๆ รวมทั้งเส้นบะหมี่ เส้นก๋วยเตี๋ยว และเครื่องปรุงรสใส่น้ำก๋วยเตี๋ยว สำหรับร้านที่ทำก๋วยเตี๋ยวขายโดยตรง พบนายสิทธิเดช ทัพมีบุญ อายุ 40 ปี และนางศิริพร ทัพมีบุญ อายุ 37 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของร้าน และเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว
โดยนายสิทธิเดช ทัพมีบุญ ได้กล่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นคนร้ายไม่ใส่เสื้อมาวนดูของแล้วก็เดินออกไป พออีกประมาณ 5 นาทีก็กลับมา แต่สวมเสื้อและสะพายกระเป๋า และได้ขนของไป 2 รอบ เป็นบะหมี่สำเร็จรูปกล่องใหญ่ และเครื่องต้มน้ำก๋วยเตี๋ยวกล่องใหญ่ ของพึ่งหายเป็นครั้งแรก ทั้งที่รถมาส่งและวางไว้แบบนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยหาย สาเหตุน่าจะเกิดจากช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีทำให้มีโจรเยอะ ไปแจ้งความที่ สภ.หนองไผ่ พร้อมมอบไฟล์วีดีโอจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพขณะที่ถูกขโมยของ ซึ่งร้อยเวรได้ให้ตนไปสอบถามชื่อและนามสกุลของคนร้ายมาให้ เนื่องจากคนร้ายรายนี้เคยเป็นคนงานอยู่ที่ร้านค้าในตลาด ไปแจ้งความตั้งแต่ตอนเช้าของวันที่ 13 เหตุเกิดคืนวันที่ 12 ผ่านมาหลายวันแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มาดูที่เกิดเหตุ เพียงแต่บอกให้ตนไปหาชื่อและนามสกุลของคนร้ายมาให้ ถ้าเป็นแบบนี้เราคงต้องดูแลตัวเองและไปจับคนร้ายเองน่าจะง่ายกว่า
ด้านนางศิริพร ทัพมีบุญ กล่าวว่า ช่วงนี้ต้องรีบเก็บของเข้าบ้านและระวังตัวมากขึ้น และให้คนที่มาส่งของโทรแจ้งเราก่อน เพื่อที่จะรีบเก็บของเข้าบ้าน โดยปกติเมื่อก่อนรถมาส่งของก็จะกองไว้ที่หน้าร้าน แล้วตอนเช้าประมาณตีสองเราก็จะเปิดร้านมาเก็บของ แต่ตอนนี้ต้องลำบากขึ้นถ้ารถมาส่งของเที่ยงคืน ก็ต้องออกมาเก็บของหรือถ้าหากมาส่งตอนตี 1 ก็ต้องออกมาเก็บของ เราขายของมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อน น่าจะเกิดจากเศรษฐกิจไม่ดี ช่วงนี้ผู้คนลำบากกันมากไม่มีเงินใช้ ดูจากที่เราขายของก็ขายไม่ดีเหมือนเมี่อก่อน ก็อยากฝากให้ตำรวจดูแลประชาชนให้ดีกว่านี้ ไม่มองว่าเป็นคดีเล็กๆก็ไม่มาดูแลกัน